พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

The Cup Restaurant & Tea Room



รีวิวนี้ จะพามาสัมผัสกับอาหารอร่อยสไตล์อังกฤษแท้ ๆ กันบ้าง
กับร้านที่เปิดมายาวนานกว่า 36 ปี และยังคงยืนหยัดในรสชาติดั้งเดิม
ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม
พร้อมกับเพิ่มเติมในส่วนผสมของความเป็นไทยและรสจัดจ้าน
เพื่อเป็นทางเลือกในบางเมนู ให้ทันสมัยถูกปากคนยุคปัจจุบันได้มากขึ้นด้วย
กับร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room กันครับ


ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room ตั้งอยู่ที่
ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ถ.รัชดาภิเษก
สำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวหรือมาแท็กซี่ ถ้ามาจากแยกอโศก
มุ่งหน้าไปยังนานา พอเจอแยกอโศกให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.รัชดาภิเษก
เพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์
ตลอดทางซ้ายมือจะผ่าน ซ.สุขุมวิท 16 และอาคารสำนักงานต่าง ๆ
เมื่อถึง อาคารเลครัชดา ซึ่งจะอยู่ตรงกันข้ามกับบึงสวนเบญจกิตติ
จะสามารถเห็นป้ายโลโก้ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room
ได้อย่างชัดเจนเลยครับ
ส่วนคนที่มา BTS หรือ MRT แนะนำว่าลงสถานีอโศก
แล้วเดินออกกำลังกายมาสักประมาณ 600 เมตร
หรือต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาก็สะดวกเช่นกันครับ
เมื่อเข้ามายังอาคารเลครัชดาแล้ว ขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น 3 เลยครับ
ร้านจะอยู่ด้านหน้าของอาคาร สังเกตป้ายโลโก้ร้านได้เลยครับ
มีติดบอกอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
(ถ้ามองจากหน้าอาคาร ตัวร้านจะอยู่ยื่นแยกออกมาจากตัวอาคารเลยครับ)

(แอบบอกว่าภาพนี้ถ่ายจากมุมหลังร้านครับ ผมขึ้นบันไดผิด 555)

บรรยากาศภายในร้าน เน้นการตกแต่งโทนสีครีม น้ำตาล
ดูอบอุ่นและเป็นทางการเล็กน้อย มีมุมต่าง ๆ ให้เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัย
รอบร้านอาหารเป็นกระจกใส มองเห็นวิวทิวทัศน์ ไม่ทึบ ไม่อึดอัดครับ
ซึ่งสามารถนั่งกินอาหาร พูดคุยกันชิล ๆ พร้อมมองวิวทะเลสาบเบญจกิตติ
ได้อย่างเพลิดเพลินจนอาจจะลืมเวลากันเลยครับ
ด้วยความที่ดูเป็นทางการนั้น ทำให้ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room
มีโอกาสได้ต้อนรับ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ระดับผู้นำของประเทศไทย
รวมถึงบรรดาผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ วงการบันเทิง ด้วยครับ














อย่างไรก็ตาม อ่านคำบรรยายพร้อมดูภาพบรรยากาศรวม ๆ ของร้านแล้ว
ก็อย่าเพิ่งกลัว และเกร็ง ที่จะต้องมากินนะครับ เพราะสามารถแต่งตัว
สบาย ๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ได้เลย หรือจะแต่งหล่อแต่งสวย
มาให้เข้ากับบรรยากาศร้านก็ยิ่งเยี่ยมยอดเลยครับ




(บรรดาขนมเค้ก ขนมต่าง ๆ และน้ำสลัดสำหรับซื้อกลับบ้านได้)

เข้าสู่เรื่องราวของอาหารกันดีกว่าครับ
ด้วยความที่ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room นั้น
เน้นอาหารสไตล์อังกฤษแบบออริจินัลและตะวันตกเป็นหลัก
ทำให้อาหารจานหลักนั้นใหญ่และปริมาณค่อนข้างเยอะ
เมื่อเทียบกับราคาอาหารแล้ว ถือว่าคนกินอย่างเรา ๆ
ค่อนข้างคุ้มเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเป็นคอร์สมากินคนเดียว
หรือจะสั่งจานหลัก จานสลัด จานกินเล่น มาแชร์กันในกรณี
มากันหลายคนก็ไม่ผิดอะไรครับ แต่ถ้าใครคิดเมนูไม่ออกว่าจะกินอะไร
ในแต่ละวัน/สัปดาห์ ทางร้านก็จะมีเมนูคอร์สให้สั่งได้เลยเช่นกันครับ




สำหรับรสชาติของตัววัตถุดิบที่ร้านนำมาใช้ ถือได้ว่าเป็นเกรดพรีเมียม
รวมถึงซอสต่าง ๆ สำหรับเมนูสเต็ก หรือ สลัด ก็พิถีพิถันมาก ๆ ครับ
อย่างน้ำสลัด ทางร้านก็ทำเองขึ้นมาถึง 2 แบบเพื่อนำมาใช้กับเมนูในร้าน
และจำหน่ายกับลูกค้าให้กลับไปกินสลัดด้วยน้ำสลัดอร่อย ๆ ได้อีกด้วย

(น้ำสลัด House Dressing 170฿ และ Balsamic Vinaigrette 230฿)

เมนูที่ผมเลือกไปกินนั้น
อาหารคาวส่วนใหญ่จะเป็นจานหนัก จานเนื้อซะส่วนใหญ่ครับ
ไม่ว่าจะเป็น Pepper Steak "The Cup",
Rack of Lamb, Mint Sauce & Redcurrant Jelly,
Fillet of Pork wrapped in Bacon served with Brandied
Mushroom Cream Sauce,
Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce,
Chicken Crêpe with Salad 
และ Spicy Spaghetti Crispy Pla Salit
เรียกได้ว่า มาทั้ง วัว แกะ หมู เป็ด ไก่ และปลา เลยครับ
ซึ่งทั้ง 6 เมนูนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเมนูแนะนำอีกด้วย



Pepper Steak "The Cup" 690฿


สเต็กเนื้อวัว มาแบบมีเดียมแรร์ สุกในระดับที่ผมชอบที่สุด
ได้มาแบบตามที่สั่งไป ราดด้วยซอสพริกไทยที่ตัวซอสนั้น
เป็นการนำไวน์แดงมาเคี่ยวพร้อมเครื่องปรุงเล็กน้อยให้งวด
ความเข้มข้นของซอส และรสชาติของซอสพลุ่งพล่าน
ไปกับเนื้อนุ่ม ๆ ละมุนอยู่ในปากและลิ้น ยิ่งเคี้ยวพริกไทอ่อนตาม
ทำให้กินไม่รู้อิ่มเลยครับจานนี้
ผักเครื่องเคียงก็มาเต็มจานแบบไม่หวงกันเลยครับ


 
Rack of Lamb, Mint Sauce & Redcurrant Jelly 820฿

 
ซี่โครงแกะชิ้นโต มาด้วยกัน 2 ชิ้น
ผ่านการนาบกระทะให้เนื้อด้านนอกกรอบแต่ด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำ
สุกระดับมีเดียมกำลังดี (ผิวด้านนอกนั้นกรอบคล้ายทอดน้ำมัน)
ไร้กลิ่นสาบฉุนกวนใจ แต่ยังได้รสของความเป็นเนื้อแกะอย่างสมบูรณ์
จะเลือกกินพร้อมกับซอสตัวไหนก็ได้ที่ให้มาถึง 3 ชนิด
ทั้งเกรวี่ มิ้นท์ หรือเยลลี่เรดเคอร์แร้นท์ ก็ได้อรรถรสที่แตกต่าง
กันไปทั้ง 3 ตัว แต่เข้ากันกับเนื้อแกะได้ดีทั้งหมด
ที่ชอบสุด ๆ ก็ตรงที่เนื้อด้านนอกกรอบด้านในนุ่มนี่แหละครับ เจ๋ง!
ผักเคียงก็จัดมาเต็มเช่นกัน




Fillet of Pork wrapped in Bacon served with
Brandied Mushroom Cream Sauce 440฿

 
เนื้อหมูส่วนสันใน นำมาทำสไตล์ฟิเลมิยอง
ด้วยการห่อเบคอนรอบเนื้อหมู เพื่อเพิ่มความมันและหอม
จากน้ำมันเบคอนให้กับเนื้อสันในหมูที่ไร้มัน
เนื้อหมูสุกนุ่มได้ที่ เบคอนกรอบหอมอร่อย ราดด้วยซอสบรั่นดี
ครีมเห็ดข้น ที่ให้รสครบทั้งเค็ม หวาน มันและเปรี้ยวตัดเล็กน้อย
คนชอบกินหมูขอแนะนำเลยครับ กินซอสกับผักเคียงต่าง ๆ ก็ลงตัวด้วย



Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce 360฿


สลัดอกเป็ดรมควัม มาพร้อมซอสแบล็คเบอร์รี่เคี่ยวกับพอร์ตไวน์
จนได้ซอสรสกลมกล่อมหอมหวาน เข้ากันกับอกเป็ดรมควันหอม ๆ นุ่ม ๆ
และผักสดนานาชนิดได้เป็นอย่างดี  

 

Chicken Crêpe with Salad 360฿


เป็นการนำแป้งเครปมาทำเป็นเมนูพาสต้าลักษณะคล้าย
กับกราแตงต์ โดยนำเนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ มาผนวกเข้ากันกับ
ไวท์ซอสเข้มข้น ราดเป็นชั้นสลับกับแป้งเครป นำไปอบให้สุกทั่วกัน
โดยด้านบนนั้นจะเป็นชีสที่กรอบเกรียมแต่เมื่อตัดลงก็จะพบกับควานนุ่ม
ยืด หอม มัน อร่อย ยั้งส้อมไว้ไม่อยู่



Spicy Spaghetti Crispy Pla Salit 350฿

 
อาหารตะวันตกผสมไทย ด้วยการนำเส้นสปาเก็ตตี้ Al Dente
ไปผัดกับพริกแห้ง กระเทียม แบบไทย ๆ
พร้อมกับนำปลาสลิดทอดกรอบ ใบกะเพราทอดกรอบ
รสชาติความเค็มของปลาสลิด เข้ากับเส้นสปาเก็ตตี้ผัดได้ดีเลย
เป็นเมนูรสชาติเผ็ด ที่ทางร้านประยุกต์เข้ามาครับ



ซึ่งทางร้านจำหน่ายไวน์และเบียร์ด้วย สามารถสั่ง
มาจิบดื่ม ๆ พร้อมกับการกินอาหารให้ลื่นคอเพิ่มขึ้นได้นะครับ


เคลียร์อาหารคาวกันจบแล้ว
จิบน้ำชามะนาว Ice Tea 95฿ 


ให้ชื่นใจสักนิด ก่อนจะเข้าสู่ของหวาน
มาแบบก้อนน้ำแข็งทำจากน้ำชา แล้วแยกน้ำชา ไซรัป และมะนาว
มาให้เราได้ปรุงรสเองตามใจชอบ 


เข้าสู่ของหวาน เมนูของหวานที่นี่ก็ไม่ธรรมดาครับ
มีอะไรต่อมิอะไรให้เราค้นหาในรสชาติมากมาย
เค้กทางร้านก็มีหลากหลายให้ได้เลือก ผมเลยเลือกตัวเด่น ๆ มาครับ

Yoghurt Pudding with Cranberry Sauce 135฿


พุดดิ้งโยเกิร์ตเด้งดึ๋งดั๋ง เนื้อนุ่มเนียนกับซอสแครนเบอร์รี่
ที่ให้รสเปรี้ยวหวานกำลังดีไม่โดดรสใดรสหนึ่งจนเกินไป
เป็นเมนูของหวานที่หากินได้ไม่ง่ายอีก 1 เมนูและอร่อยด้วย
สาว ๆ น่าจะชื่นชอบกันครับ 


Crêpe Tycoon 165฿


เครปที่ห่อด้วยไส้ครีมชีสรสเปรี้ยวและเติมลูกเกดลงไปเพิ่มสัมผัส
เป็นอีก 1 เมนูที่ไม่ซ้ำกับร้านไหน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวนิลา
เป็นเมนูของหวานอีกเมนูที่ต้องลองครับ


Crêpe Praliné with Peach 165฿


เป็นเครปอีกตัวที่มากับผลพีชเชื่อมและไอศกรีมวนิลา
โรยหน้าด้วยเกล็ดน้ำตาลคาราเมลเล็กน้อยเพิ่มรสและสัมผัส
อร่อยเข้ากันแบบออริจินัลดีครับ


Strawberry Millefeuille 200฿


มิลล์เฟล์ย สตอเบอร์รี่สด แต่ละชั้นมีครีมสดคั่นกลางระหว่างแป้งกรอบ
และราดด้วยซอสสตอเบอร์รี่เข้มข้น สวยงามและอร่อยอีกด้วย


Cookies 3 รสชาติ : Oatmeal, Chocolate Chip, Serial


มาเคี้ยวแกล้มปิดท้ายกับ Double Espresso ได้อย่างเพอร์เฟ็ค 


สำหรับผมแล้ว ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room
เป็นร้านที่ต้องมาลองอย่างน้อยครั้งนึงในชีวิต
และต้องมาซ้ำเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เพราะอาหารดี ๆ รสชาติต้นตำรับ
แบบอังกฤษนั้น ก็หากินได้ไม่ง่ายใน กทม. แล้วในปัจจุบันนี้
เพราะส่วนใหญ่จะปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยให้ถูกปากคนกินมากขึ้น
ความเป็นต้นตำรับจึงสูญหายไป แต่สำหรับที่นี่นั้น ยังคงยืนหยัด
รสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
และนอกเหนือจากอาหารคาว-หวานที่ผมได้รีวิวไปแล้วนั้น
ยังมีอีกหลายเมนูที่ผมจะต้องกลับไปลองเพิ่มให้ได้เลยล่ะครับ
แล้วถ้าถึงวันนั้น ผมจะมารีวิวเพิ่มเติมให้ได้อร่อยกันอีกแน่นอน 

สำหรับของฝากขึ้นชื่อของร้านก็มี ไม่ว่าจะเป็น Fruit Cake
และคุกกี้ขนาดต่าง ๆ ให้ได้เอาความอร่อยไปฝากกันได้อีกด้วยครับ



ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room
เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์
เวลา 11:00-18:00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
(เว้น 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. ของทุกปีที่เปิดบริการ)
สำรองที่นั่งลิ้มรสความอร่อยได้ที่
โทร.0-2264-0247 ถึง 50
https://www.facebook.com/TheCup1980


    
ขอให้อิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์อังกฤษแท้ ๆ กันนะครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น