พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ที่สุดของร้านขายเนื้อ "ครับ" KRBB The Boutique Butcher


ดูภาพทั้งหมดได้ที่อัลบั้มตามลิงค์

แด่ Beef Lover คนรักเนื้อวัว ที่ไม่ควรพลาด
เพราะว่าร้านนี้เกิดจากคนที่รักการกินเนื้อวัวมาก
ฉะนั้นครั้งนึงในชีวิตหรือจะหลายครั้งก็ได้
ที่จะต้องมาเยือน มาเลือกซื้อเนื้อ
และมาชิมเนื้อ คุณภาพขีดสุด
ของเนื้อวัวหลากหลายระดับ ตั้งแต่

Thai Wagyu(วัวญี่ปุ่นที่เลี้ยงในประเทศไทย),

เนื้อวัวจากต่างประเทศ,
เรื้อวากิวจากญี่ปุ่น อย่าง Omi และ Hokkaido F1
จนถึงตัวระดับท็อปของญี่ปุ่น
และอาจจะของโลกเลยก็ได้
อย่าง Ozaki Wagyu ที่มีจำนวนน้อยมาก
สามารถจำหน่ายจากฟาร์มได้เพียงแค่
วันละ 1 ตัวเท่านั้น
เนื่องจากคุณภาพไขมันแทรก
ที่มีอยู่ในทุกส่วนของเนื้อวัว
ด้วยการที่ผ่านการเลี้ยงดูยาวนานถึง 36 เดือน
ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานกว่าวัวปกติทั่วไป
และขีดสุดนี้นั้นมีเพียงที่เดียว
ร้านขายเนื้อร้านเดียว
กับ KRBB The Boutique Butcher เท่านั้น


KRBB The Boutique Butcher ตั้งอยู่ที่
ชั้น 3 ของโครงการ Habito Mall 
ซอยอ่อนนุช 1/1 ถนนสุขุมวิท 77
คอมมูนิตี้มอลล์ สุดแสนจะถูกใจ
วัย Chic & Hipster
ภายในบริเวณเมืองคอนโด The Base
ของแสนสิริ


ภายในร้านขายเนื้อแห่งนี้นั้น จะได้พบกับเนื้อวัว
มากมายหลายชนิด เรียงรายอยู่ในตู้แช่ ชิลล์
รวมถึง Dry Aged(บ่ม) ที่สุดแสนทันสมัย
และได้มาตรฐานระดับสูงสุด
มีห้องแล่/สไลด์/เตรียมเนื้อ แบบกระจกรอบด้าน
สามารถมองดูฝีมือการจัดการเนื้อของบุชเชอร์
ได้ทุกขั้นตอนอย่างเพลิดเพลิน
รวมถึงการมีโต๊ะ เตาย่างเนื้อ ชุดสุกี้ยากี้
ชุดยากินิขุ ไว้บริการ สำหรับลองเทสต์
รสชาติเนื้อวัวที่เลือก ก่อนจะซื้อ
ปริมาณมากได้อีกด้วย
เสียค่าใช้จ่ายเพียง 350+ บาท/คน

ก็ได้ลิ้มรสเนื้อวัวชั้นเลิศกันที่ร้านได้เลย

สำหรับรีวิวนี้ แอดมินได้รับประสบการณ์
จากเนื้อชั้นยอด และเหนือกว่านั้น
คือการได้รับความรู้ที่มากยิ่งยวดของเนื้อวัว
โดยผ่านการชิม สเต็ก Tomahawk, สุกี้ยากี้
และยากินิขุ กันครับ


เริ่มต้นด้วยการที่ทางร้านและเชฟ
ได้ทำการเลือกชิ้นส่วนโทมาฮอว์คมาทำสเต็ก


ด้วยการปรุงด้วยเกลือฝรั่งเศสอย่างดี
และพริกไทยสีชมพูที่รสเผ็ดนิด ๆ แต่หอมมากมาย
ย่างผ่านเตาอบพิซซ่าแบบที่เจ๋งที่สุด
และให้ลองชิม เพื่อทายดูว่าเป็นเนื้อวัวจากที่ไหน
เลยเป็นอะไรที่ต้องเกิดอาการทึ่งมาก เพราะเป็น
เนื้อไทยวากิว โทมาฮอว์ค น้ำหนัก 1.5 กก.
(ราคา 290 บาท/100 กรัม)
ที่ถ้าได้ลองชิมแล้วไม่เฉลย จะคิดไม่ถึงเลย
ว่าเป็นเนื้อวากิวที่เลี้ยงในประเทศไทย
เครดิตความดีงามของเนื้อนี้ได้มาจากการบ่มเนื้อ
ที่พิถีพิถันของ KRBB The Boutique Butcher
นานถึง 35 วัน
ทำให้ได้เนื้อที่มีรสชาติเข้มข้น มีความแน่นของเนื้อ
แล้วยังนุ่มเคี้ยวง่าย ได้รสชาติที่ดีอีกด้วย
ดีจนเป็นเนื้อไทยระดับต้น ๆ ที่เคยได้ลองมาด้วย
*ดูคลิปประกอบได้ที่


จากนั้นต่อกันด้วยสุกี้ยากี้


 ซึ่งเป็นเนื้อพับนอกจาก ฮอกไกโด F1
(ราคา 330 บาท/100 กรัม)
และเนื้อโอซากิ ที่เป็นส่วนพับนอกเช่นกัน
(ราคา 900 บาท/100 กรัม)
มาเทียบกันถึงระดับความแตกต่างครับ
ซึ่งทั้ง 2 ตัวนั้นนุ่มมาก ๆ ยังเหลือสัมผัส
ของไขมันและเอ็นนิด ๆ
ให้ได้เคี้ยวสนุก ๆ เพลิน ๆ ก่อนกลืน
แต่ตัวพับนอกโอซากิชนะแบบทิ้งไป 2 ช่วงตัว
และอีก 1 ส่วนจากเนื้อโอซากิ
เป็นส่วนริบอายส์/สันแหลม
(ราคา 1,550 บาท/100 กรัม)
ตัวนี้นั้นทีเด็ดมาก ๆ ชนะขาดทุกตัวเลย
เนื้อและไขมันละลายเพียงลิ้นดุนดั่งสายไหมก็มิปาน
แทบไม่ต้องเคี้ยวอะไรเลย แต่ในความละลายนั้น
ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยรสชาติที่เข้มข้น
ติดปากยาวนาน เป็นรสจบยาวที่งดงามมาก
คือ ต้องลองลิ้มชิมรสดูสักครั้ง 1 ในชีวิตเลยทีเดียว
และองค์ประกอบสำคัญอีกประการในการกิน
สุกี้ยากี้ให้อร่อยเด็ด ไม่แพ้น้ำสุกี้ญี่ปุ่นสูตรเฉพาะ
ของทางร้านก็คือไข่ไก่ดิบ จาก HenNest
ที่ให้ไข่แดงนูนสวยงาม รวมถึงคุณค่าที่มากกกว่า
ไข่ไก่ทั่วไปตามท้องตลาดอีกด้วย
*ดูคลิปประกอบได้ที่

และปิดท้ายด้วยไฮไลท์ที่ทำให้ฟินแบบถึงขีดสุด
ด้วยเนื้อยากินิขุที่นำ
เนื้อโอซากิ 6 ส่วนสุดพิเศษมาย่าง
ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้ง สุดแสนอร่อย


เชฟแนะนำให้ย่างกิน ด้วยการเริ่มต้น
จากส่วนที่รสชาติอ่อนสุดไปเข้มข้นสุด ดังนี้
- เนื้อซี่โครง คารูบิ (ราคา 880 บาท/100 กรัม)
- เนื้อสันคอบน ชาบูตง (ราคา 1,200 บาท/100 กรัม)
- เนื้อหางตะเข้ โทโมซันกาคุ (ราคา 950 บาท/100 กรัม)
- เนื้อพื้นท้อง ซาซามิ (ราคา 800 บาท/100 กรัม)
- เนื้อร่องซี่โครง คาบุริ (ราคา 1,550 บาท/100 กรัม)
- เนื้อสันคอล่าง คาตะโรสึ (ราคา 1,000 บาท/100 กรัม)
แต่ละส่วนให้รสและความรู้สึกที่แตกต่างกัน
แต่ทุกส่วนนั้น ไขมันแทรก มาเต็ม สุดยอด
จะได้สัมผัสถึงรสชาติที่ดีที่สุดอีกด้าน
ของเนื้อวัวญี่ปุ่น แบบที่บรรยายยังไง
ก็ไม่สามารถให้ความรู้สึกถึงรสชาติ
มากกว่าการไปลองด้วยตัวเอง
*ดูคลิปประกอบได้ที่

ค้นพบความอร่อยไม่มีสิ้นสุดของเนื้อวัวได้ที่

KRBB The Boutique Butcher
ชั้น 3 โครงการ Habito Mall

ซอยอ่อนนุช 1/1 ถนนสุขุมวิท 77
สั่งเนื้อ สำรองเนื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่

Tel. 02 090 9697
http://krbbbutcher.com/

ดูภาพทั้งหมดได้ที่อัลบั้มตามลิงค์

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Lovely Italian food at Theo Mio


Theo Mio - Italian Kitchen
ดูภาพทั้งหมดที่ลิงค์ด้านบนครับ

กลับมาเยือนห้องอาหารอิตาเลียน Theo Mio
InterContinental Bangkok อีกครั้ง
หลังจากที่เคยไปอิ่มเอมกับมื้อบรั้นซ์
วันเสาร์-อาทิตย์ มาแล้ว
*ดูรีวิวมื้อบรั้นซ์ได้ที่ http://ontcu.blogspot.com/2016/01/theo-mio-brunch.html

รอบนี้มาอัพเดทเมนู a la carte ใหม่ในมื้อค่ำ
ก็ยังประทับใจทุกสิ่งอย่างจากความเป็น
เซเลบริตี้เชฟชาวอังกฤษของ เชฟทีโอ แรนดอล
ทั้งบรรยากาศการตกแต่งห้องอาหาร
การบริการของบริกร การให้ข้อมูลไวน์
จากซอมเมอริเย่ต์ และที่เด็ดที่สุดคือ
เชฟคริส เบเวอรี่ ชาวอังกฤษ ที่ประจำการเป็น
ผู้รังสรรค์ความอร่อยตามสูตรเคล็ดลับ
ของเชฟแรนดอล ออกมาได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
ของการเป็นเชฟแนวหน้ามาตรฐาน
ร้าน Theo Mio และของโรงแรมระดับ InterContinental ครับ

อาหารอิตาเลียนของ Theo Mio นั้น
เน้นการผสมผสานวัตถุดิบตามฤดูกาลจาก
อิตาลีและไทย ให้เกิดอาหารอิตาเลียน
แนวสร้างสรรค์ ถ้าหากได้ลองแล้วล่ะก็
จะติดใจเลยล่ะ

เริ่มต้นตั้งแต่เครื่องดื่ม mocktail
ที่เป็นที่นิยมของสาว ๆ หรือจะเป็น cocktail
ไปจนถึงไวน์เลิศ ๆ ให้เลือกอีกเป็นเล่ม ๆ
ขนาดขนมปังที่เป็น complimentary
ยังอร่อยเลยครับ ที่นี่จิ้มน้ำมันมะกอก
และบัลซามิคเท่านั้น

Antipasti(จานเรียกน้ำย่อย)
อร่อยแบบเริ่มต้น ด้วยแชร์ริ่งบอร์ดรวมมิตร
Theo Mio Selection, Burrata ชีส
กับหน่อไม้ฝรั่งย่าง,
สลัดมะเขือเทศ แตงโม แตงกวา
กับชีส Ricotta, ปลาหมึกทอดกับถั่ว
และผักร็อคเก็ต

Pasta กับเส้นแบบ al dente ที่ทำสด
สไตล์โฮมเมด ทั้งผัดกับอาติโช๊คและกุ้ง
หรือจะราดแก้มวัวตุ๋น ซอสไวน์แดงก็เด็ดมาก

จานหลัก ทั้งสเต็กเนื้อ ซี่โครงแกะย่างและตุ๋น
รีซอตโต้เนื้อหน้าแข้งวัวตุ๋น และสตูว์ซีฟู๊ด
ก็เป็นอะไรที่ดีงามจริง ๆ
(พิซซ่าก็แจ่มนะ แต่รอบนี้ไม่ได้สั่งครับ)

ของหวาน แนะนำแบบจัดเต็มมา
รวมมิตร 5 อย่างที่คัดมาแล้วของ Theo Mio
พร้อมกับกาแฟดี ๆ ปิดท้ายมื้อ เป็นอะไรที่ดีสุด ๆ

ยิ่งเดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรัก
หากอยากหาที่โรแมนติก จิบไวน์
แกล้มอาหารอิตาเลียนรสเลิศ
ในราคาสมเหตุสมผล
แล้วยังได้รับบริการอย่างดี
มาตรฐาน InterContinental
ที่นี่คงเป็นอีกห้องอาหาร
ที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง
กับ Theo Mio - Italian Kitchen

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
และสำรองที่นั่งได้ที่
โทร.0-2656-0444 ต่อ 6273
www.bangkok.intercontinental.com
 https://www.facebook.com/theomioitaliankitchen/

#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu #foodphotographer #foodphoto
#foodblog #foodblogger #foodreview
#food #blogger #thaiblogger
#foodpinterest #AllStyleThaiBloggers #TheoMio #ItalianKitchen
#Italianfood #Wine

ดูรูปทั้งหมดได้ที่ Theo Mio - Italian Kitchen