รีวิวนี้ ยังวนเวียนอยู่กับการเทสต์ไวน์ครับ
แต่คราวนี้เป็นการเทสต์ไวน์พร้อมกับการจับคู่กับอาหาร
ณ ห้องอาหาร Wine Pub, Pullman Bangkok King Power
กันครับ กับกิจกรรม Home Cooking and Swing Class
ที่จะจัดขึ้นทุกอังคารสุดท้าย ของทุกเดือน
ที่จับเอาอาหารแนว Tapas (ทานเล่นแต่อิ่มเหมือนกันนะ)
จากฝีมือเชฟโดมินิค แฟรร์โชด์ เชฟใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส
ถึง 4 จาน มาจับคู่กับไวน์ที่คัดแล้ว
โดย Sommelier ฝีมือเยี่ยมอีก 4 แก้ว พร้อมเรียนรู้การดื่มด่ำไวน์
อย่างมืออาชีพ ในราคาเพียง 199 บาท net
ราคานี้แสนดีสุด ๆ ไปเลยครับ
ก่อนอื่นเรามารู้จักและดูบรรยากาศของห้องอาหาร Wine Pub
กันก่อนสักนิดครับ
Wine Pub เป็นห้องอาหารแบบ บาร์และเรสเตอรองส์
ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Pullman Bangkok King Power ซ.รางน้ำ
จำนวนที่นั่ง 102 ที่นั่ง
เปิดบริการเวลา 18.00 - 02.00 น.ทุกวัน
ที่นั่งในห้องอาหารนี้มีหลากหลายสไตล์ให้ได้เลือกครับ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนของรอบบาร์ที่เปิดโล่ง 4 ด้าน, โต๊ะทรงสูง
พร้อมสตูล และโซฟาสำหรับท่านที่ชอบนั่งแบบเอนกายสักหน่อย
บรรยากาศการตกแต่งสไตล์ชิค chic แต่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง
ประดับประดา ด้วยขวดไวน์ชั้นเยี่ยมยี่ห้อต่าง ๆ จากทุกมุมโลก
โชว์อยู่บนชั้นกระจกใส
และยังสามารถมองผ่านเข้าไปในครัว ดูลีลาการทำอาหารของเชฟ
ได้อีกด้วยครับ
สิ่งที่ดีงามอีกอย่างของห้องอาหารนี้ คือ ราคาทุกอย่างเป็นราคาสุทธิแล้ว
ไม่มีชาร์จอะไรเพิ่มเติมอีกแล้วครับ ทั้งราคาไวน์เป็นแก้ว เป็นขวดและอาหาร
ซึ่งราคาอาหารจะเริ่มต้นในราคาสุทธิเพียง 80-100 บาทขึ้นไปครับ
สามารถเลือกทานกันอย่างจุใจเลย
แต่ความโดดเด่นอีกประการของ Wine Pub ก็คือ ไวน์ 48 ชนิด
ให้ได้เลือกดื่มครับ ละลานตามาก (ถ้ามีโอกาสจะไปลองทั้ง 48 ชนิดเลย)
ในราคาเริ่มต้นเพียงแก้วละ 175 บาทครับ
จนถึงไวน์ระดับ Grand Cru แก้วละ 1,750 บาทกันเลยครับ
เอาละครับ กลับมาเข้าเรื่องราวรีวิวของเรากันต่อ
กับการชิมอาหารจับคู่กับไวน์ชนิดต่าง ๆ ครับ
เริ่มต้นกันที่สตาร์ทเตอร์เบา ๆ ที่ห้องอาหารให้มาเป็น complementary
กับ Mini Plate ซึ่งจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
มาพร้อมกับขนมปังอุ่น ๆ กับเนย ทาแล้วเข้ากันดีครับ
ถัดมากับอาหารจานแรกกับการจับคู่ไวน์ ในคู่แรกนั้น
เป็นการจับคู่กันกับ Smoked Salmon and BBQ Flavored Pie
with Lemon Espuma + Prosecco Private Cuvee, Italy
ตัวพายบางกรอบ มาเต็มด้วยไส้แซลมอนรมควันสับเนื้อเนียน
รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ เสริมรสด้วยฟองเลมอน
เข้ากันได้ดีกับ สปาร์คกลิ้งไวน์ที่มีกลิ่นหอม ๆ ของส้ม
ความซ่า ความสดชื่นที่มีรสเปรี้ยวนำ ช่วยกระชับรสของพาย
ได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังเหมาะกับอาหารทะเลและผักย่างอีกด้วย
มายังคู่ที่ 2 เป็น Polenta and Duck Liver with Citrus
+ Chablis Terres de Pierres, France
แป้ง Polenta นุ่ม ๆ มาพรัอมกับตับเป็ดชิ้นโต สุกกำลังดี
ปาดด้วยซอสรสกลมกล่อมทานพร้อมกันเนียนสุด ๆ
ส้มที่แต่งมาเปรี้ยว ๆ ลดความมันเลี่ยนได้เก๋ดีครับ
นำมาจับคู่กับไวน์ขาวจากฝรั่งเศส ที่มีกลิ่นฝรั่งนำมา(ผมไม่ชอบ)
แต่ก็ดื่มง่าย เบา ๆ บอดี้น้อย เปรี้ยวนำ ไม่ค่อยฝาด
แอลกอฮอล์เบา ๆ ครับตัวนี้
คู่ที่ 3 เป็น Baked Farmed Chicken with Asparagus
+ Echeverria Merlot, Chili
แป้งอบ(คล้ายพาย) ไส้ไก่บาร์บีคิวรสชาติดี
ไก่หอม รสจัด แต่แป้งหนาไปหน่อยทำให้แป้ง
ติดค้างอยู่ในปากเยอะไปนิดครับ จับคู่กับไวน์แดง
องุ่นพันธุ์ Merlot ที่มีกลิ่นผลไม้เบอร์รี่ป่าและถังโอ๊ค
กลิ่นขึ้นจมูกและรสเปรี้ยวกว่าแก้วที่แล้วครับ
เคลียร์ ๆ ดีกับการดื่มและทานคู่กันกับคู่นี้ครับ
คู่สุดท้าย เป็นของหวาน Chocolate Cake with
Raspberry ganache + Santa Carolina, Late Harvest
เค้กช็อคโกแล็ตเข้มข้นกับครีมราสเบอร์รี่เข้ากันดี
จิบไวน์หวาน ๆ ตาม ๆ เป็นของหวาน สาว ๆ น่าจะชอบ
แต่สำหรับผมแล้วมันหวานรวมกันเกินไปครับ
เป็นอันจบคอร์ส 4 คู่กับการแพร์ริ่งอาหารกับไวน์แล้วครับ
แต่ผมยังไม่จบรีวิว เพราะอยากลอง Tapas ที่ขึ้นชื่อ
ของ Wine Pub เพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ
เลยจัด หอยนางรม Fin de Claire No 3 (140 บาท)
หอยนางรม Fin de Claire No 2 (160 บาท)
มาอย่างละ 1 ตัว ความสด หวานอร่อย เหยาะน้ำจิ้มซีฟู๊ดสักนิด
หรือจะเป็นน้ำส้มก็เข้ากันดี หรือเลมอนเพียว ๆ ก็อร่อยครับ
ถัดมาเป็น Baked marinated chicken wings with BBQ
sauce and coriander (80 บาท)
ปีกไก่อบรสฉ่ำซอสบาร์บีคิว เคี้ยวเพลินครับเมนูนี้
ต่อกันที่เมนูตัดรสเลี่ยนสักนิด หอมกะเพรามาก
กับเมนู Salmon confit on basil feta cake (100 บาท)
เป็นเนื้อปลาแซลมอนบดนำไปดีปฟรายส์ ราดด้วยซอสกะเพรา
วางบนเนื้อเฟต้าเค้กนุ่ม ๆ
ตามมาด้วย Crab beignets with sweet chili sauce
and coriander (300 บาท)
จานนี้ราคาสูงนิดหน่อย เพราะมากันหลายชิ้นบนกระทะ
เป็นเนื้อปูคลุกเครื่องปรุง ชุบแป้งทอด สัมผัสคล้ายหอยจ๊อ
ราดด้วยซอสหวาน ๆ เป็น Tapas ที่ทานได้ง่าย ๆ ดี
ปิดท้าย Tapas ของคาวด้วยจานที่ผมชอบที่สุด
Scallop with wrapped bacon and green asparagus,
passion fruit espuma (360 บาท)
หอยเชลล์สดจากฮอกไกโดตัวใหญ่ หวานเจี๊ยบ
นำมาพันด้วยเบคอนแล้วกริลหอม ๆ (ลักษณะเหมือนไส้กรอกพันเบคอน)
ราดด้วยครีมซอสเสารส ซึ่งปกติแล้วผมไม่ทานเสาวรส
แต่เจอจานนี้แล้ว รสชาติได้ กลิ่นได้ ไม่รุนแรง แถมเข้ากันดี
กับเนื้อหอยเชลล์ ทำให้หลงรักจานนี้ถึงกับสั่งเบิ้ลเลยครับ
และแล้วก็มาจบกับของหวานจานพิเศษ ที่ไม่มีในเมนู
เชฟโดมินิค ได้จัดมาการองกับทาร์ตผลไม้ครีมสดมาให้
เป็นของหวานแสนอร่อยปิดท้ายมื้อ
ไม่ลืมครับที่จะดื่มกาแฟกับของหวาน ผมสั่งเป็น
Cappuccino กลิ่นกาแฟหอม ๆ กับฟองนมนุ่ม ๆ
แก้วขนาดใหญ่เลยครับ เป็นอันจบมื้ออันสมบูรณ์ของผม
ถ้าเพื่อน ๆ อยากมีประสบการณ์ดี ๆ ในการดื่มด่ำไวน์
คู่กับอาหาร ในราคาแสนพิเศษแบบนี้ อย่าพลาดที่จะติดตาม
ทุกเย็นวันอังคารที่ 3 ของทุกเดือน สามารถจองที่นั่งได้ล่วงหน้า
กับ Home Cooking and Swing Class
ณ ห้องอาหาร Wine Pub, Pullman Bangkok King Power
แห่งนี้ ได้ทุก ๆ เดือนเลยครับ
สำหรับการเดินทาง สะดวกแบบดื่มไม่ขับด้วยขนส่งสาธารณะ
ผมเลือกใช้บริการ BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
แล้วเดินมาที่ข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นจูรี่ย์ในซอยรางน้ำ
จะมีรถตุ๊กตุ๊กของโรงแรมและห้างคิงส์พาวเวอร์ คอยรับ-ส่ง
ตั้งแต่ 07.00-23.00 น. เลยครับ
สนใจสำรองที่นั่ง ติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.winepubbangkok.com/
https://www.facebook.com/winepubkp
https://www.facebook.com/winepubkp
Tel : 0-2680-9999
ขอให้ทุกท่านดื่มด่ำไวน์และอาหารอย่างมีความสุขครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น