พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561

Indus "past l present l future" เมนูใหม่ล่าสุด กับอาหารอินเดียตอนเหนือจรดชายฝั่งตะวันออก


อินดัส 1 ในร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ
กลับไปเยือนครั้งนี้ ต้องยินดีกับทางร้านมาก ๆ กับการได้รับ
การการันตีความอร่อยด้วยรางวัล "The Plate"
จากมิชลิน ไกด์บุ๊ค กรุงเทพฯ
และได้เปิดตัวอาหารคอร์สเมนูใหม่ "past l present l future"
ที่จะพาไปเปิดประสบการณ์รสชาติสุดพิเศษ
ผ่านการเดินทางจากรัฐต่าง ๆ ตั้งแต่ตอนเหนือ
จนถึงชายฝั่งตะวันออกของประเทศอินเดียตลอดสายแม่น้ำสินธุ
ผ่านความพิถีพิถันของฝีมือเชฟอามิทและทีมเชฟ
รวมไปถึงคุณสิท เจ้าของร้านที่รังสรรค์คอร์สอาหารสุดอร่อยในครั้งนี้

(ซ้ายไปขวา : คุณสิท เจ้าของร้าน, เชฟอามิท และคุณยาชปัล ผู้จัดการร้าน)

เมนูใหม่นี้ทางร้านอินดัสนั้นจัดเป็นคอร์ส 10 จาน
แต่ละจานเป็นตัวแทนรัฐต่าง ๆ แล้วร้อยเรียงกัน
ออกมาเป็นการเดินทาง ได้เข้าถึงประสบการณ์การกิน
อาหารอินเดียจากรัฐต่าง ๆ ได้อย่างสนุกและไม่จำเจ
แต่เข้ากันได้อย่างดี ในราคาเพียง 1,800++ บาท
แถมยังมีให้เลือกไวน์แพร์ริ่ง 4 ฉลาก เพิ่มราคาเพียง
1,200++ บาท สำหรับคอไวน์อีกด้วย (รวม 3,000++ บาท)
รายการอาหารและไวน์มีดังนี้ครับ


แต่ก่อนอื่นทางร้านจัด Amuse-Bouche (อมูส บุช)
ให้อุ่นเครื่องก่อนการเดินทางจริงกันก่อน
เป็น Charcoal Samosa / ซาโมซ่าแป้งถ่านชาร์โคล
กินกับซอสมะขาม ตัวแป้งกรอบไส้ซาโมซ่าก็หอมเครื่องเทศ
ตัดเปรี้ยวด้วยซอสมะขาม เรียกน้ำย่อยก่อนสตาร์ทได้ดีครับ



มาพร้อมกับ Rose Sparkling สปาร์คกลิ้งไวน์
ซ่าเบา ๆ ดื่มเรียกความสดชื่นได้ดี




แล้วก็ Papadum พร้อมเครื่องจิ้ม 4 ชนิด
มะม่วง มะขาม มิ้นและหอมแดง



Kaleji pav (peshawar+pindi) / ตับไก่บดปรุงรสกับแป้งกรอบ


ตับไก่บดผสมกับเครื่องเทศกลิ่นหอม รสอร่อย เนียนไปกับ
แป้งขนมปังที่ทำการดึงน้ำออกจากแป้งจนกรอบกรุบ
สอดแทรกระหว่างตับไก่และแป้งด้วยแยมผลมัลเบอร์รี่รสเปรี้ยวหวาน
เป็นจานเรียกน้ำย่อย ได้อร่อยมาก ๆ เป็นตัวแทนจาก
รัฐเปศวาร์ ตอนเหนือของประเทศอินเดีย


Agricola Punica Samas, IGT 2017, Italy / ไวน์ขาว
ไวน์ขาวจากอิตาลีตัวนี้ ดื่มค่อนข้างง่ายมาก ๆ
แต่มีบอดี้พอตัว กินกับอาหารเบา ๆ ที่มีเครื่องเทศผสมได้ดีเลยทีเดียว

  

Khumb galouti (lucknow+kashmir) / เห็ดกระดุมย่างเครื่องเทศ


จานนี้เป็นตัวแทนจากรัฐลัคเนา+แคชเมียร์
ใช้กรรมวิธีแบบสมัยโบราณ โดยการนำเห็ดกระดุมมาสับละเอียด
ผสมกับเครื่องเทศแคชเมียร์ ปั้นเป็นก้อนแล้วย่างกับเตาถ่าน
เห็ดกระดุมรสชาติอร่อย ถึงกลิ่นเครื่องเทศกำลังดี
กินกับแผ่นโรตรีกรอบด้านล่างที่เสิร์ฟมาพร้อมกันได้อร่อยมาก


Tandoori creamy broccoli (punjab+royal projects) /
บร็อคโคลี่โครงการหลวงปรุงรสย่างถ่านกับครีมชีส


เมนูยอดนิยมจานนี้ เป็นตัวแทนรัฐปัญจาบและความระลึกถึง
พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9
ด้วยการนำบร็อคโคลี่ที่ปลูกจากโครงการหลวงมาทำเมนูนี้
แทนที่จะใช้ดอกกะหล่ำตามวัตถุดิบดั้งเดิมของเมนูนี้
บร็อคโคลี่เขียว ๆ ปรุงรสด้วยเครื่อเทศ เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ครีม และชีส นำไปย่างบนเตาถ่าน ให้เกิดการซึมของเครื่องปรุง
เข้าสู่ตัวบร็อคโคลี่ รสชาติของครีมชีสมัน ๆ เค็ม ๆ หอม ๆ
เข้ากันกับความหวานกรอบของบร็อคโคลี่โครงการหลวงได้อย่างไม่มีที่ติ

  

Kebab-e-malai (punjab) / อกไก่หมักเครื่องเทศย่างถ่าน


อีก 1 จานที่เป็นตัวแทนจากรัฐปัญจาบ
กับอกไก่สุดนุ่มหมักครีมชีสและเครื่องเทศย่างเตาถ่าน
หอมเครื่องเทศ และเครื่องเทศซึมเข้าไปในเนื้อไก่ละมุน
กินกับแป้งข้าวกล้อง คล้ายข้าวเกรียบ กรอบอร่อย
เสิรมรสสัมผัสของการเคี้ยวให้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น




Zuani Vigne Collio, DOC 2016 Italy / ไวน์ขาว
คั่นด้วยไวน์ขาวจากอิตาลีอีก 1 ฉลาก ที่เข้มข้นกว่าตัวแรก
แต่ยังคงดื่มง่ายเช่นกัน ด้วยความหนักที่เพิ่มขึ้นมา
พร้อมกับความหวานอีกนิดหน่อยนั้น ทำให้ไปรวมรสชาติ
กระชับรสชาติของอาหารจานอกไก่ได้สวยเลย
รวมถึงจานถัดไปด้วยครับ


Daal dhokli (gujarat) / เกี๊ยวใส้ผักโขมในซุปถั่ว


เมนูคลาสสิคและเป็นเมนูท้องถิ่นของรัฐคุชราฎ
ที่ส่งผ่านต่อกันมาจนถึงกาลเวลาปัจจุบันศตวรรษที่ 21
แป้งเกี๊ยวสุดนุ่มนึ่ง/ต้มสุกพอดี ไส้ในเป็นผักโขมสับปรุงรส
ราดน้ำซุปที่ป่นจากถั่วซีกสีเหลืองอำพัน เข้มข้นสไตล์ครีมซุป
ความมัน หวาน หอม ลงตัว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเมนูนี้ถึงตกทอด
มาถึงปัจจุบัน ให้คนรุ่นใหม่ได้ลองกินแบบคนรุ่นเก่ากินกันครับ





Paturi macch (bengal) / ปลากะพงขาวหมักห่อใบตองนึ่งกับสลัดแตงกวา


เนื้อปลากะพงขาวชิ้นกำลังกิน
หมักกับเมล็ดและใบมัสตาร์ด(พืชคล้ายกะหล่ำปลี)
น้ำมันและนำไปห่อใบตอง นำไปนึ่งในสไตล์เบงกอล
กินพร้อมกับสลัดแตงกวาทีมีน้ำสลัดแบบข้นจากถั่วลิสงรสกลมกล่อม
เนื้อปลาสุกดี รสชาติและกลิ่นฉุนนิด ๆ จากใบและเมล็ดมัสตาร์ด
ทำให้รสชาติของปลาโดดเด่นขึ้นไปอีกระดับ กินกับสลัดแตงกวาแล้วสดชื่น



Proprieta Sperino Uvaggio, 2014, Italy / ไวน์แดง
ไวน์แดงจากอิตาลี ที่ทางร้านตั้งใจจัดมาให้จิบคู่กับ
จานปลาที่มีรสและกลิ่นเครื่องเทศจัด จึงไม่ต้องแปลกใจ
เพราะบางครั้งไวน์แดงก็ดื่มคู่กับอาหารทะเลที่ปรุงรสจัดได้ครับ
ไวน์แดงฉลากนี้ใช้องุ่น 3 พันธุ์ ผสมกันคือ เนบิโอโล่ เวสโปลินา
และโครเอตินา


Kangura kalimirch (maharastra / malabar coast) /
หอยเชลล์ย่างซอสมะเขือเทศรสเผ็ด


หนึ่งในอาหารในตำนานกว่า 100 ปีที่ชาวอินเดียริมชายฝั่ง
รัฐมหาราษฎระนั้นกินกัน คือ หอยเชลล์ แต่ด้วยอิทธิพล
ของกระแสน้ำและอุณหภูมิทำให้หอยเชลล์ในถิ่นนี้
ได้สูญหายไป เมนูนี้ทางร้านจึงเลือกใช้หอยเชลล์ฮอกไกโด
มาปรุงแทน โดยการโรยเกลือและพริกไทยบนหอยเชลล์
แล้วนำไปย่างเซียร์ผิวบนกระทะเหล็ก กินกับซอสมะเขือเทศ
ปรุงรสด้วยกระเทียมและเครื่องเทศ ตัวซอสเปรี้ยวหวานเผ็ด
กำลังกลมกล่อมและหอมเครื่องเทศ กินพร้อมกับเนื้อหอยเชลล์
ที่สุกปานกลาง เนื้อแน่นหวานอร่อย จนอยากจะกินอีกหลายตัว




Chicken chettinad + podi sadam (tamil nadu) /
แกงไก่เสิร์ฟพร้อมข้าวและถั่วเลนติล


อาหารขึ้นชื่อจากรัฐทมิฬนาดู ตอนใต้ของประเทศอินเดีย
เนื้อไก่ถูกปรุงสุกกับหัวหอมใหญ่ มะเขือเทศ พริกไทยดำ
และเครื่องเทศจากตอนใต้ของอินเดียจนเกิดเป็นแกงเข้มข้น
สีส้มน่ากินมาก กลิ่นก็หอมมาก รสชาติแกงและไก่ก็ดีมาก
กินพร้อมกับข้าวเมล็ดเรียวนุ่ม ๆ  เป็นข้าวบาสมาติของอินเดีย
ที่หุงพร้อมกับถั่วเลนติล โดยใส่แซฟฟรอนให้ได้สีเหลืองสวยอร่าม
เข้ากันมาก กินจนเกลี้ยงจานเลย



Chapelle De Meyney, 2011, France, Grand Vin De Bordeaux / ไวน์แดง
ไวน์แดงชั้นยอดจากฝรั่งเศสฉลากนี้ เป็นอีก 1 ความดีงาม
ของเครื่องดื่มในคอร์สนี้ ที่ทำให้กินอาหารอินเดียได้อย่างมีความสุข
ด้วยความเป็นฟูลบอดี้ มีรสเผ็ดและกลิ่นเครื่องเทศ และจบได้นาน
เหมาะกับอาหารอินเดียมาก ๆ เพราะจะไม่โดนเครื่องเทศ
ที่หนักขึ้นในอาหารจานท้าย ๆ กลบรสไวน์ไปซะหมด ทีเด็ดเลย คุ้ม!!!



Raan Sikandari (indus valley) / 
เนื้อขาแกะสโลว์คุ๊ก 7 ชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมแป้งโรตีและซอสโยเกิร์ต


อาหารจานสุดพิเศษแสนอร่อยที่คัดมาจากจานแนะนำของทางร้านอีกที
เป็นเนื้อขาแกะตุ๋นแบบสโลว์คุ๊ก ใช้เวลาช้า ๆ นาน ๆ ถึง 7 ชั่วโมง
ให้ได้ความนุ่มแต่ไม่กระด้างของเนื้อขาแกะรสเข้มข้นของเครื่องปรุง
เครื่องเทศที่เนื้อขาแกะได้ซึมซับไว้ เป็นจานที่เหมาะสมและพิเศษจริง ๆ
กับเมนูคอร์สใหม่นี้ของร้านอินดัส กินพร้อมกับแป้งโรตีบางกรอบ
และซอสโยเกิร์ตที่ให้ความนุ่มละมุนของรสชาติมากยิ่ง ๆ ขึ้น ฟินเลย




Phirni (delhi) / ไรซ์พุดดิ้ง


ของหวานปิดท้าย จากมหานครขนาดใหญ่และเป็นเมืองหลวง
ของประเทศอินเดีย กับไรซ์พุดดิ้ง หรือจะเรียกว่าพุดดิ้งข้าวโอ๊ตดีล่ะ
(กินแล้วรสสัมผัสให้ความรู้สึกถึงข้าวโอ๊ตต้มประมาณนั้น)
โดยปรุงรสชาติด้วยหญ้าฝรั่นและถั่วชนิดต่าง ๆ
เป็นจานล้างปากล้างลิ้นได้อย่างดี



Mango Malay (complimentary)
มะม่วงสุกในโคนกรุบกรอบ มะม่วงรสเปรี้ยวหวาน
เพิ่มเติมความสดชื่นก่อนกลับ ประทับใจจริง ๆ



ทุกเมนูทำอาหารออกมาได้น่าตาสวยงามดี ดูเป็นอาหาร
ที่ไม่ซับซ้อน แต่ซ่อนรสอร่อยไว้ แม้ว่ารสเครื่องเทศต่าง ๆ นั้น
จะไม่รุนแรง และดุดัน แต่ก็มาครบครัน ให้ความรู้สึกถึงอินเดียอย่างแท้จริง
ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับหนุ่มหล่อ/สาวสวยหุ่นสะโอดสะอง
แต่งตัวได้อย่างเซ็กซี่ แต่ไม่โป๊เปลือย ทำให้น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง
ประมาณนั้นเลยล่ะครับ สามารถลองลิ้มชิมรสกันแล้วได้ทุกวัน
ทั้งรอบเวลากลางวัน 11.30 น. - 14.30 น. และ
รอบเวลาเย็น 18.00 น. - เที่ยงคืน


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะได้ที่
Indus Restaurant l สุขุมวิท 26
โทร. 022584900
Fb : indusbkk

#indusbkk #Indianfood #authentic #food 
#contemporary #review #foodblog #eat 
#new #OnTable #ontcu #blogger #bkk
#allstylethaibloggers #bestindianfood
#michelin #michelinguide #michelinplate

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น