เมื่อกล่าวถึงอาหารญี่ปุ่น น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก
และวัตถุดิบสด ๆ หลากหลายจากทะเลญี่ปุ่นนั้น
ก็มีให้เลือกได้ลิ้มรสอย่างมากมาย
(เอ่อ ทำไมขึ้นเกริ่นมาอย่างกับเชฟกระทะเหล็กเลยฟระ)
ก็เพราะว่ามาทานที่ร้าน Honmono Sushi
ที่มีเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่น
เป็นเจ้าของนั่นเองครับ
วันนี้มีการจัดโชว์วัตถุดิบสด ๆ ให้ลูกค้าได้เลือก
ที่หน้าร้านสาขา เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา
เพื่อให้เชฟครีเอทเมนูให้ได้เลย หรือจะสั่งตาม
ที่เราชอบเองครับ
วัตถุดิบมากมายมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ
แต่ที่แน่ ๆ จากที่หลากหลายนั้นมีเจ้านี่ด้วย
นั่นก็คือ ปลาแดงตาโต
หรือชื่อญี่ปุ่นก็คือ "คินเมได-kinmedai"
และวัตถุดิบสด ๆ หลากหลายจากทะเลญี่ปุ่นนั้น
ก็มีให้เลือกได้ลิ้มรสอย่างมากมาย
(เอ่อ ทำไมขึ้นเกริ่นมาอย่างกับเชฟกระทะเหล็กเลยฟระ)
ก็เพราะว่ามาทานที่ร้าน Honmono Sushi
ที่มีเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กอาหารญี่ปุ่น
เป็นเจ้าของนั่นเองครับ
วันนี้มีการจัดโชว์วัตถุดิบสด ๆ ให้ลูกค้าได้เลือก
ที่หน้าร้านสาขา เซ็นทรัล ซิตี้ บางนา
เพื่อให้เชฟครีเอทเมนูให้ได้เลย หรือจะสั่งตาม
ที่เราชอบเองครับ
วัตถุดิบมากมายมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ
แต่ที่แน่ ๆ จากที่หลากหลายนั้นมีเจ้านี่ด้วย
นั่นก็คือ ปลาแดงตาโต
หรือชื่อญี่ปุ่นก็คือ "คินเมได-kinmedai"
หอยกาบยักษ์ "Tairagai"
ปลาแดงกินกิ "Kinki"
ปูขน "Kegani"
หอยนางรม "Kaki"
หอยแครงญี่ปุ่น "Akagai"
และวัตถุดิบสด ๆ อื่น ๆ อีกหลากหลาย
ที่หน้าร้าน เชฟสยาม ที่มาจากสาขาพาร์คเลน
เอกมัย ก็บรรจงบรรเลงการปรุงโชว์ที่หน้าร้าน
กลิ่นและภาพที่เห็นช่างยั่วยวนลูกค้า
ให้มาออรอต่อคิวที่หน้าร้านเป็นอย่างยิ่ง
ในภาพเป็นหอยเชลล์ฮอกไกโดย่างโชยุ
สูตรของทางร้าน ที่ลูกค้าสั่งไว้
ในภาพ โบตันเอบิและขาปูทาราบะ
ย่างและโรยเกลือบีบเลมอนนิด ๆ
ของลูกค้าในร้านอีกเช่นกัน
เอาเป็นว่าโดนยั่วยวนสำเร็จ เลยจัดการ
เลือกวัตถุดิบไป 2 ชนิด และรอโต๊ะประมาณ 15 นาที
ก็เข้าไปรออาหารที่กำลังจะมา
ก่อนหน้าทางร้านจะนำอาหารเรียกน้ำย่อยมาให้
กุ้งทอด
ถั่วแระญี่ปุ่น
กระนั้นเลยจัดการสั่งสาเกมา 1 ขวดใหญ่
กันไปเลยครับรอบนี้
เป็น Karakuchi ขนาด 1.8 ลิตร
ซึ่งสามารถดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น
เสริมให้มื้ออาหารนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อุ่นกระเพาะอาหารด้วยแบบสาเกร้อนก่อน
จากนั้นไม่นานนัก เชฟสยาม ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
กับวัตถุดิบที่เลือกไปให้ทางเชฟจัดการครีเอท
เป็นแนว mini omakaze คือให้เชฟ
จัดการมาให้เลยว่าวัตถุดิบเหมาะกับทานแบบไหน
ซึ่งวัตถุดิบที่เลือกไป 2 อย่างนั้น ก็มี
หอยกาบยักษ์ "Tairagai"
และ ปลาแดงตาโต "Kinmedai" นั่นเองครับ
จานแรกที่เชฟนำมาเสิร์ฟ คือ
หอยกาบซาซิมิ "Tairagai Sashimi"
ส่วนเนื้อหอย ปีกหอย นำมาทำซาซิมิ
ทานสด ๆ ให้รสชาติหวานแบบหอยเชลล์
แต่กรุบกรอบกว่า เคีั้ยวได้สัมผัสของเนื้อหอย
ที่มันและสู้ฟัน แต่ไม่เหนียวแม้แต่น้อย
โดนเข้าไป เหมือนได้ไปยืนเหยียบบนหาดทราย
ขาดสะอาดนุ่มละมุนละไม ที่หาดพัทยา หลีเป๊ะ ก็ไม่ปาน
ชิ้นเนื้อเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว
ได้คำโต ๆ เต็ม ๆ ปาก รสชาติมาเต็ม
ส่วนปีกหอยนั้นกรุบกรอบกว่าเนื้อไปอีก 1 เท่าตัว
เคี้ยวมันสะใจ อร่อยมาก ๆ ครับ
สำหรับหอยกาบนั้นจะมีเครื่องในและไส้หอย
เชฟสยาม ได้บรรจงทำเป็นเมนูสเต็กกระทะร้อน
เครื่องในหอยกาบ มาพร้อมผักและเห็ดพร้อมหน้า
รสชาติหอม อร่อยมากครับ
ไม่ค่อยได้ทานเครื่องในหอยสักเท่าไหร่
ติดใจเลยล่ะ
ไม่แหยะ ไม่ขยะแขยง กลับอร่อยมากกว่า
ดีงามอีก 1 จานเลยครับ
เคี้ยวมัน ๆ เพลิน ๆ อีกแล้ว
ตามด้วยสาเกร้อน ที่กำลังอุ่น ๆ อร่อยล้ำครับ
สำหรับหอยกาบยักษ์ เชฟทำมาให้ 2 เมนูครับ
จากนั้นพระเอกหรือนางเอกดีหว่า เพราะสวยงามเหลือเกินก็มา
Kinmedai Sashimi
เชฟขอดเกล็ดปลา แต่ไว้หนัง แล่มาพร้อมเนื้อ
ชิ้นหนากำลังดีสำหรับปลาเนื้อขาวติดหนัง
ตกแต่งมาอย่างสวยงามด้วยดอกไม้ใบหญ้า
และ อิคุระ 555
เนื้อขาวกระจ่างใส ประหนึ่งใช้ไวท์เทนนิ่ง
ขาวอมชมพูน่าทานมาก ๆ ครับ
ทานสด ๆ หนังกรอบ เนื้อแน่น หอม หวาน
เสริมด้วยอิคุระ ไข่ปลาแซลมอน กลมกล่อม
เหมือนได้แหวกว่ายอยู่ในทะเล มองดูปลาว่ายน้ำไปมา
จากนั้นเมนูที่ 2 ก็ตามมาครับ
เป็น หัวปลาและเครื่องในปลาต้มซีอิ๊ว
หัวใหญ่ ๆ มาเต็ม ๆ จาน พร้อมกับเต้าหู้
ผักกวางตุ้ง ขิงและแครอท
น้ำซีอิ๊วหอม ๆ เข้ากันกับปลามาก ๆ
เห็นแล้วก็ต้องอุทานว่า คอลลาเจนนนนนนนนน!!!
ตับปลา อร่อย
ต้มมาได้พอดิบพอดี เนื้อปลาเป็นลิ่มไม่แข็งแห้ง
ทาน ๆ ดูด ๆ ได้ทุกส่วนกันเลยครับ
ตับปลา อร่อย ย้ำอีกรอบ 555
ถัดมากับเมนูที่ 3 ครับ
นำทั้งตัวอีกด้านมาทำเป็นย่างเกลือ
หอมมาก ๆ เมื่อหนังและเนื้อโดนเบิร์นมา
คลีน ๆ น่าทานมากมาย
บีบเลมอน กระชับรสเพิ่มสักนิดครับ
ตาปลา คาง ครีบ จัดมาอร่อยมาก
เนื้อปลาสด หวานในตัว เค็มเกลือและตัดเปรี้ยว
รสชาติยังคงไม่ลืมเลือน
ตาปลาเคี้ยวได้จนถึงแก้วตาเลยครับ
เนื้อปลาส่วนติดกลางลำตัว ก็นิ่มนวลไม่กระด้าง
เมนูที่ 4 เมนูสุดท้ายของเจ้า Kinmedai ก็มา
เป็นซูชิ/นิกิริ kinmedai ตกแต่งมาสวยงาม
เป็นซูชิ/นิกิริ kinmedai ตกแต่งมาสวยงาม
ท็อปปิ้งมาด้วย ซอสเนงิสับ ไข่กุ้ง ไข่ปลา
และทองคำเปลว !!! ร้องว๊าวเลยครับ
เบิร์นผิวเนื้อปลาและหนังให้หอม ๆ
โปรยด้วยซอสพอนสึ สูตรพิเศษมาเล็กน้อย
ให้พร้อมทานโดยไม่ต้องจิ้มโชยุหรือวาซาบิอีกเลย
ให้พร้อมทานโดยไม่ต้องจิ้มโชยุหรือวาซาบิอีกเลย
งดงามมาก ๆ
น่าทานมาก ๆ
ความอร่อย ระเบิดในปาก
ทั้งรสข้าวซูชิที่ไม่เปรี้ยวจัดเกินไป
เนื้อปลาหนังปลา kinmedai ที่หอมหวลเนื้อนุ่มนวล
ซอสพอนสึและเนงิสับ รวมถึงไข่กุ้ง ไข่ปลา
และทองคำเปลว ลงตัวไปทุกส่วน
ให้คะแนนไป 12 เต็ม 10 ไปเลยครับ
จิบสาเกเย็น ๆ เพิ่มรสและความสดชื่น
ของมื้ออาหาร ตามหลังซูชิคำเมื่อสักครู่
มื้อนี้เอร็ดอร่อยมาก ๆ สะใจมาก ๆ
แต่ยังไม่พอและยังไม่อิ่มครับ
ต่อกันด้วย ซูชิ/นิกิริ อีก 6 คำ
ปลาไหลย่างซีอิ๊ว Unagi
ปลาทูหาแข็ง Aji
ปลาฮามาจิ Hamachi
ปลามากุโร่ (ปลาทูน่า) ส่วนเนื้อแดง Akami
ปลามากุโร่ (ปลาทูน่า) ส่วนท้องติดเนื้อแดง
Chutoro
ดูภาพยั่วกันต่ออีกนิดครับ
ล้างปากด้วยสาเกเย็นอีกก่อนจบมื้อ
ซดซุปร้อน ๆ ตาม สบายท้อง
ตบท้ายด้วยเมล่อนและถั่วดำในน้ำนม
เป็นอันอิ่มอร่อยสำหรับมื้อใหญ่ ๆ มื้อนี้ครับ
สนใจสอบถามรายละเอียดและติดตามข่าวสารได้ที่
https://www.facebook.com/Honmono
สาขาเซ็นทรัลบางนา ชั้น 5 หน้า B2S
โทร. 02-745-6256
https://www.facebook.com/Honmono
สาขาเซ็นทรัลบางนา ชั้น 5 หน้า B2S
โทร. 02-745-6256
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น