Crab & Claw : Lobster Olympic & Oyster Lover

Crab & Claw จัด Theme All You Can Eat อลังการงานสร้าง

กับ Lobster Olympic สำหรับคนชอบกุ้งมังกรจากรัฐ Maine

และ Oyster Lover สำหรับคนรักหอยนางรมจากทั่วโลก

 

ที่จัดขึ้นเพียงเดือน กรกฎาคม 2559 นี้ เพียงแค่เดือนเดียว

วันนี้ผมเลยขอรวบทำรีวิวที่ไปมา 2 รอบในรีวิวเดียวเลยครับ

จัดเต็มกันไปเลย ว่าจะยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างขนาดไหน

ตามชมรีวิวกันได้เลยครับ

เรามากันที่ร้าน Crab & Claw สาขา EmQautier ชั้น 7 โซน Helix

ซึ่งเป็น 1 ในสาขาที่จัดโปรโมชั่น All You Can Eat แบบจัดหนักขนาดนี้

โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบครับ ระหว่าง Lobster Olympic

ที่จะมีทุกวันอังคารและวันศุกร์

กับ Oyster Lover ที่จะมีทุกวันพุธครับ

สามารถเลือกวันมากินได้ยาว ๆ 100 นาทีเต็ม ตามแพ็คเกจราคาดังนี้

Lobster Olympic

-          ราคา 2,800++ บาท กินเมนู Lobster ในรายการไม่อั้น
พร้อมไวน์ 1 แก้ว

-          ราคา 3,300++ บาท กินเมนู Lobster ในรายการไม่อั้น
พร้อมไวน์แบบ Free Flow (ขาวและแดง)

Oyster Lover

-          ราคา 1,500++ บาท กินเมนู Oyster ในรายการไม่อั้น
พร้อมไวน์ 1 แก้ว

-          ราคา 2,000++ บาท กินเมนู Oyster ในรายการไม่อั้น
พร้อมไวน์แบบ Free Flow (ขาวและแดง)

ลูกค้า All You Can Eat ทุกคนจะได้รับ Set อาหารฟรีดังนี้

-          ซุปครีมหอยโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมขนมปังกรอบ

-          สลัดผักสด ๆ

-          มันฝรั่งทอดโฮมเมด

-          ข้าวโพดฝักย่าง

-          ขนมปังกระเทียม(สำหรับ Lobster Olympic)

-          แคลมเมลท์(สำหรับ Oyster Lover)

     โดยการกินแบบ All You Can Eat นั้นมีกติกาดังนี้

-          100 นาทีในการกิน เริ่มนับเมื่อสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มครั้งแรก

-          สำหรับกินที่ร้านเท่านั้น

-          ปรับ 1,000 บาทสำหรับอาหารเหลือ Lobster Olympic

-          Lobster ใช้เวลาปรุงประมาณ 10-15 นาทีหลังจากออเดอร์

-          สามารถสั่ง Lobster ได้ 2 ตัว/คน ในออเดอร์ครั้งแรกและ 1 ตัวในครั้งต่อไป

-          ปรับ 150 บาท ต่อ ตัว สำหรับอาหารเหลือ Oyster Lover

-          การกินหอยนางรมมากเกินไปอาจทำให้ป่วยได้

-          เด็กสูงไม่เกิน 100 cm. กินฟรี

-          เด็กสูง 100-130 cm. จ่ายครึ่งราคา

เอาละครับ อ่านราคา กติกา การกิน All You Can Eat ทั้ง 2 แบบกันแล้ว

เรามาลุยกันเลยดีกว่าครับ ว่าแต่ละไฮไลท์มีอะไรน่ากินและอะไรอร่อยบ้าง

เริ่มจาก Lobster Olympic กันครับ จะได้รับความหวานฉ่ำ

เนื้อแน่น สไตล์กุ้ง Maine Lobster ที่ส่งตรงจากสหรัฐอเมริกา

ที่นำมาปรุงได้หลากหลายเมนู แบบกินเนื้อ Lobster เน้น ๆ

หรือจะนำมาปรุงรสแบบอาหารทะเลอื่น ๆ อีกมากมายดังนี้

Lobster สด ๆ นึ่ง ได้รสชาติกุ้งไปเต็ม ๆ เนื้อกุ้งกรอบเด้ง

สดมาก ๆ ไม่มีที่ติ เนื้อกุ้งรสหวานตามธรรมชาติเลยครับ

เสิร์ฟมาพร้อมเนยละลาย

Lobster สด ๆ ย่างเนยกระเทียม กลิ่นเนยกระเทียม

กับเปลือกกุ้งรวมถึงเนื้อกุ้งโดนไฟย่างถ่านมาหอมมาก

กลิ่นยั่วยวนใจมาก ๆ เนื้อกุ้งก็ย่างมาได้กำลังดีทีเดียว

Lobster สด ๆ อบผงโอเบย์ ได้รสและกลิ่นเครื่องปรุง

และสมุนไพรสูตรเฉพาะของทางร้านที่เข้ากันได้ดีกับ

อาหารทะเลต่าง ๆ รวมถึง Lobster ทั้งตัวแบบนี้ด้วย

C&C Lobster Rolls : เนื้อกุ้งปรุงรสสูตรเฉพาะในขนมปังกรอบนอกนุ่มใน

เมนูต้นตำรับจากรัฐ Maine, USA เนยชุ่ม ๆ ในขนมปังกรอบนอก

นุ่มใน โรยด้วยผิวเลมอน

Spicy Spaghetti เส้นลิงกวีนี่ผัดกับเนื้อกุ้ง ผัดมาแบบแห้ง ๆ

กับพริกแห้ง ให้รสเผ็ดหน่อย ๆ หอมอร่อยและไม่เลี่ยน

Lobster Melt : เนื้อกุ้งอบในขนมปังโฮมเมดและชีส

ขนมปังอบชีส กรอบนอกนุ่มใน ชีสด้านในตู้ม ๆ ท็อปด้วย

เนื้อก้ามกุ้ง Lobster กินมันส์มาก  ๆ ครับ ทั้งชีส ขนมปังและกุ้ง

Lobster Ara : สปาเก็ตตี้เส้นเฟตตูชินี่ผัดกับซอสครีมปูและเนื้อกุ้ง

ซึ่งเป็นเมนูใหม่ของร้าน Crab & Claw หอมอร่อยมาก ๆ

รสชาติแบบไวท์ซอสครีมมี่มาก ๆ ใครชอบแนวครีมซอสสีขาวจะสะใจสุด ๆ

Snow Crab Linguine : เส้นลิงกวินี่ผัดกับเนื้อปูสโนว์แครป

รสชาติซอสผัดมาคล้ายกับซุป Lobster Bisque เข้มข้นถึงรส

Crab and Shrimp Boil : เมนูชื่อดังจากรัฐ Maine, USA.

ที่เต็มไปด้วยกุ้งตัวใหญ่และปูทะเลอบกับมันฝรั่งและข้าวโพด

เป็นเมนูรสชาติดีสุดคลาสสิคที่ต้องกินจริง ๆ ครับ

Fried Calamari : ปลาหมึกทอดกรอบ เนื้อปลาหมึกนิ่มกว่าที่คิด

และด้านนอกก็กรอบอร่อย บีบเลมอนสักนิดหรือจิ้มน้ำจิ้มสักหน่อย

กินอร่อยและเพลินมากมายครับ

จากกุ้ง Lobster เราก็มาต่อกันที่ Oyster Lover ครับ

สำหรับผมแล้ว ชื่นชอบหอยนางรมเป็นทุนเดิม

และก็กินมาค่อนข้างบ่อยและหลากหลายสายพันธุ์

แต่ที่ได้มากินที่ Crab & Claw นี้นั้น ถือได้ว่าเป็นร้าน

ที่สด ใหม่ ที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ หอยนางรม 5 สายพันธุ์

ที่ร้าน Crab & Claw นำมาลง All You Can Eat นั้นมีดังนี้

-          Smokey Bay (ออสเตรเลีย)

-          Fine de Claire (ฝรั่งเศส)

-          Irish Premium (ไอร์แลนด์)

-          Wolf Beach (สหรัฐอเมริกา)

-          Kumamoto (สหรัฐอเมริกา)

แต่น่าเสียดาย ผมได้กินเพียง 3 สายพันธุ์จาก 5 เองครับ

เพราะ Smokey Bay, Kumamoto และ Fin de Claire ของหมด

โดนเหมาไปก่อนหน้านี้ครับ 555

ความสด ใหญ่ หวาน ครีมมี่ในวันนั้น ต้องยกให้ Wolf Beach (USA)

ตัวใหญ่เต็มปากเต็มคำดีจริง ๆ ครับ

ส่วน Irish Premium กับ Kushi(เอามาเสิร์ฟแทน Kumamoto)

จะมีขนาดเล็กกว่าพอสมควร และรสชาติก็จะออกไปในแนวน้ำทะเล

ที่มีความเค็มนำแบบสดชื่น ๆ แล้วก็หวานตามครับ

ถูกใจตัว Wolf Beach มากที่สุดแล้ว จะบีบเลมอนแล้ว

ใส่น้ำส้มบัลซัมมิคกับหอมแดงสับ

หรือจะใส่น้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบไทย ๆ ก็เข้ากันได้ดีมาก ๆ ครับ

Fried Oysters : หอยนางรมทอดราดซอสสูตรเด็ด

หอยนางรมทอดเนื้อแน่น ๆ ราดซอสรสคล้ายมายองเนส

ผสมกระเทียมสดและผักชีสับแล้วท็อปด้วยไข่ปลา/ไข่กุ้ง สีดำ อร่อยดีเลย

Fried Oyster Roll : หอยนางรมทอดในขนมปังกรอบนอกนุ่มใน

หอยนางรมชุบแป้งทอดสูตรพิเศษจาก USA

ใส่ไว้ในขนมปังกรอบนอกนุ่มใน กินสนุกอีก 1 เมนู

Oyster Rockefeller : หอยนางรมกับผักโขมอบชีส

ทางร้านเลือกใช้หอยนางรม  Gallagher Jumbo (ไอร์แลนด์)

ที่เหมาะนำมาใช้สำหรับอบโดยเฉพาะ เนื่องจากหอยมีเนื้อขนาดใหญ่

ทำให้อบแล้วไม่หดหายไป เข้ากันได้ดีกับผักโขมอบชีสที่ปรุงมาอย่างดี

เป็นอีก 1 เมนูที่ผมชอบมาก ๆ เลยครับ

Spicy Prawn Linguine : เส้นลิงกวินี่ผัดซอสรสเผ็ดกับเนื้อกุ้ง

หากใครเลี่ยนหอยแล้ว เมนูนี้สามารถช่วยได้ครับ

รสเผ็ดนิด ๆ ของซอส ช่วยให้ปรับรสลิ้นได้ดีเยี่ยมครับ

ซึ่งอาหารแต่ละจาน ก็สามารถนำมา Match up กัน

กับ ไวน์ขาวและไวน์แดง Brand Outback Jack

ได้ค่อนข้างดีเลยครับ

  

ส่วนเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่น่าสนใจ (จ่ายเพิ่ม) ก็จะมี

I Saw The Dragon ราคา 140 บาท

เป็น Mocktail ที่มีส่วนผสมของแก้วมังกร แตงโม

น้ำส้มและน้ำสับปะรด รสชาติเหมาะสำหรับสาว ๆ

On The Beach  ราคา 140 บาท

เป็นน้ำชาเย็นแบบโฮมเมด ผสมสับปะรด เสาวรส

และมะนาว สดชื่นเหมือนวิ่งเล่นอยู่ริมหาดตามชื่อครับ

หมดแล้วครับสำหรับเมนูต่าง ๆ ทั้งใน Lobster Olympic

และ Oyster Lover ดูแล้วถ้าชอบ ถ้าถูกใจ ยังไงก็รีบไปจัด

รีบไปโดนกันก่อนที่จะหมดโปรโมชั่นในเดือนกรกฎาคมนี้นะครับ

ดูแล้วราคาอาจจะแรง แต่ถ้าเทียบกับกุ้ง Lobster ราคาต่อตัว

ตัวละ 1,900 – 2,800 บาท

และเมนูอื่น ๆ อีกหลายรายการ

ที่จะได้กิน ผมว่าคุ้มค่ามาก ๆ ทีเดียวเลยครับ

ส่วนหอยนางรมนั้น ก็สดคุ้มค่าราคามาก ๆ ได้คุยกับทางร้าน

ทราบมาว่ามีคนเคยกินสูงสุดประมาณ  50 กว่าตัวเลยครับ

ทำให้ผมตกใจไปเหมือนกัน เพราะส่วนตัวคงกินได้ไม่เกิน 20 ตัวครับ

เป็นการกิน 100 นาที ที่แต่ละนาทีมีความสนุกและเอร็ดอร่อย

ไปกับทุก ๆ เมนูจนเวลาผ่านไปไวมาก ๆ อยากให้ได้ไปลองกันครับ

สนใจสำรองโต๊ะและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

สาขา EmQuatier โทร. 02 003 6233

สาขา Siam Paragon โทรใ 02 610 9713

Facebook : CrabandClaw

Line : @crabandclaw

Ig : #crabandclaw

 

ขอให้อิ่มอร่อยกับ Maine Lobster และ Oyster นานาชาติกันนะครับ