รีวิวนี้
ผมขอเกริ่นไว้ก่อนเลยนะครับว่า
จะเหมาะสำหรับคนที่รักและชื่นชอบในการกินอาหารญี่ปุ่น
เป็นชีวิตจิตใจ
… ก็เว่อร์ไปนิด 555
เอาเป็นว่าชอบกินอาหารญี่ปุ่นก็พอ
ซึ่งอาหารญี่ปุ่นมีหลักการ
อยู่หลายรูปแบบ
แต่รีวิวนี้จะขอเน้นที่รูปแบบการกินอาหารญี่ปุ่น
ให้ถึงแก่นของความเป็นญี่ปุ่นในแบบฉบับ
“ไคเซกิ-Kaiseki”
ขยายความกับ
“ไคเซกิ-Kaiseki”
สักเล็กน้อย
ในการกินแบบนี้นั้น
จะหมายถึงอาหาร
ที่ถูกจัดออกมาเรียงลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
ตั้งแต่ต้นจนจบ
คือเริ่มจาก จานเรียกน้ำย่อย
ซุป จานเคียง
จานหลัก
ไปจนจบถึงของหวานและเครื่องดื่มปิดท้ายมื้อ
โดยจะจัดทำเป็นคอร์ส
ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของวัตถุดิบ
ซึ่งการกินอาหารญี่ปุ่นแบบ
“ไคเซกิ-Kaiseki”
ครั้งนี้นั้น
ผมจะพามายังร้านอาหารญี่ปุ่น
ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ
13
บนชั้น
2
ของ
Nihonmura
Mall
ซึ่งเป็นร้านที่เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว
จะรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่เข้าไปครับ
ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านด้วยของที่นำมาจากญี่ปุ่นต่าง
ๆ
รวมไปถึงเสื่อทาทามิที่ยังได้กลิ่นของประเทศญี่ปุ่นติดอยู่เลย
รูปแบบของโต๊ะและห้องก็มีให้เลือกตามความเหมาะสม
บรรยากาศก็ทำได้ออกมาเหมือนอยู่ในร้านอาหาร
ในประเทศญี่ปุ่น
การปรนนิบัติของพนักงานก็ยอดเยี่ยม
ต้นบ๊วยที่จำลองตามชื่อร้านก็สวยงาม
…
มาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะเดาชื่อร้านออกแล้ว
ว่าคือร้านอะไร
แต่ขอพูดถึงใจความสำคัญที่นอกเหนือ
จากการกินอาหารญี่ปุ่นแบบ
“ไคเซกิ-Kaiseki”
อีกประการนึงของรีวิวนี้นั่นก็คือ
“ความพิถีพิถันและละเอียดอ่อนในการคัดเลือกวัตถุดิบ”
ที่เป็นที่สุดของเมนูและฤดูกาลนั้น
ๆ จากประเทศญี่ปุ่น
มาเสิร์ฟให้ถึงประเทศไทยแบบไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่น
คุณก็จะได้กินของญี่ปุ่น
อาหารญี่ปุ่น
บรรยากาศและขนบธรรมเนียมแบบญี่ปุ่น
ได้อย่างเต็มที่
กับ
“อุเมโนะฮานะ-UMENOHANA”
ร้านอาหารสไตล์ไคเซกิที่แท้จริง!!!
พอได้ทำความรู้จักกับ
ร้านอุเมโนะฮานะ,
วิธีการกินอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิกันไปบ้างแล้ว
เรามาดูอาหารกันเลยดีกว่าครับ
ผมเลือกสั่งเมนู
Nagomi
Zen
Grilled
Gindara & Wagyu Kaiseki 1,650
บาท
เป็นเมนูไคเซกิ
12
อย่าง
โดยจานหลักจะเป็น
ปลากินดาระ(ปลาหิมะ)ย่าง
เลือกได้ว่าย่างเกลือหรือมิโซะ(เต้าเจี้ยว)
และเนื้อวากิวย่างกระทะหินร้อน
มาพร้อมกับเมนูเรียกน้ำย่อย
ซุป จานเคียง และของหวานครับ
เริ่มจากเมนูแรก
3
Assorted Appetizers
หรือ
อาหารเรียกน้ำย่อย 3
ชนิด
ประกอบไปด้วย
ของอร่อยประจำร้านอย่างเต้าหู้
ตัวนี้เป็น
เต้าหู้มิเนโอกะ
เป็นเต้าหู้เนื้อแน่นเด้ง
ลักษณะคล้ายมาร์ชเมลโล
เนื้อเนียน
ราดด้วยซอสยูสุมิโซะด้านบน
ซึ่งตัวซอสยูสุมิโซะนี้
ช่วยเติมเต็มรสชาติของเต้าหู้
สร้างความสดชื่นกระปรี้กระเป่าก่อนเริ่มต้นจานต่อไป
จานถัดมาในส่วนของอาหารเรียกน้ำย่อย
ยูบะชิราอาเอะ
เป็นฟองเต้าหู้
หรือถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงผิวตึง
ๆ บนน้ำเต้าหู้นั่นแหละครับ
เสิร์ฟแบบเย็นพร้อมกับยอดผักโขมราดด้วยซอสเต้าหู้และโรยงา
เป็นเมนูหอมมัน
รสชาติดีและมีคุณค่าด้วยไฟเบอร์จากผัก
ไว้รองรับจานหลักได้ดีทีเดียว
สุดท้ายของจานเรียกน้ำย่อย
กับ
เยลลี่ซอสพอนสึรสเปรี้ยว
ที่ด้านในมีเนื้อปูทาราบะชิ้นใหญ่และหน่อไม้ฝรั่งกรอบ
ๆ
เข้ากันเข้ากันล้างปากจากความมันของฟองเต้าหู้และผักโขม
และปรับลิ้นเพื่อรับรสในอาหารจานต่อไป
นี่เพิ่งเมนูแรกจาก
12
เมนูนะครับ
อย่าเพิ่งเริ่มอิ่มล่ะ
เมนูถัดมาเป็นเมนูที่
2
กับ
Streamed
egg custard
ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนสไตล์ญี่ปุ่น
ที่นึ่งมาร้อน ๆ กรุ่น ๆ
น้ำซุปที่นำมาทำไข่ตุ๋นก็ได้จากน้ำดาชิ
(น้ำต้มปลาคัตสึโอะแห้งอย่างดี)
ทำให้ได้ไข่ตุ๋น
ที่มีรสกลมกล่อม
หอม นุ่ม พร้อมเครื่องในไข่ตุ๋น
ผมนี่อยากจะเบิ้ลอีกถ้วยเลยล่ะครับ
เมนูที่
3
Sashimi
ปลาดิบ...
หลังจากวอร์มลิ้นและกระเพาะด้วยไข่ตุ๋น
ทางร้านอุเมโนะฮานะ
เลือกที่จะเสิร์ฟซาซิมิปลาดิบ
ซึ่งเป็นการเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง
ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อให้ได้รสชาติของปลาได้อย่างเต็มที่
โดยเลือกเสิร์ฟปลาคัมปาจิ
ที่ส่งตรงจากตลาดปลา
ประเทศญี่ปุ่น
เสิร์ฟความหนากำลังดี 3
ชิ้น
ให้ได้รับรู้ถึงความสด
กรอบและตามด้วยความนุ่ม
และรสชาติละมุนของปลาฮามาจิที่อร่อยสุด
ๆ
เป็นดั่งตัวแทนฤดูร้อนที่แสนสดใสในญี่ปุ่นเลย
เมนูที่
4
Tofu Shumai
ขนมจีบนึ่ง
ซึ่งแป้งด้านนอกที่ห่อเนื้อในนั้น
เป็นลักษณะคล้ายเส้นบะหมี่แปลกตาดี
โดยตัวแป้งห่อนั้นเนื้อบางกำลังเหมาะ
เข้ากันได้ดีกับไส้ด้านในที่เป็นเนื้อไกและกุ้งสับ
นึ่งมาสุกได้ที่กำลังกิน
กลิ่นหอมเมื่อกัดลงไป
กระจายเข้าเต็มปากเต็มคำ
จิ้มพอนสึรสเปรี้ยว
เพิ่มอีกนิดเพื่อกระชับรสชาติหรือจะกินเปล่า
ๆ
ก็อร่อยกันไปคนละแบบครับ
เมนูที่
5
Ikura Mushi Sushi
ข้าวซูชินึ่งกลิ่นส้มยูสึพร้อมไข่ปลาแซลมอนดองเกลือ
ข้าวซูชิอย่างดีนึ่งได้สุกนุ่มหอมกลิ่นส้มยูสึปั้นเป็นก้อนกลม
กินกับไข่ปลาแซลมอนที่เป็นแบบดองเกลือ
ซึ่งให้ความเค็มมันแตกต่างจากการดองโชยุที่เคยกิน
ตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป
ลงตัวกับข้าวซูชิและไข่หวาน
อยู่ในถ้วยน่ารัก
เป็นเมนูที่ดูสวยงามและลงตัวอีก
1
เมนู
เมนูที่
6
ครึ่งทางแล้วครับ
เรามาเข้าสู่ 1
ในอาหารจานหลัก
Gindara
Shio Yaki ปลาหิมะย่างเกลือ
เนื้อปลาหิมะที่อุดมไปด้วยไขมันชั้นดี
ย่างเกลือหอม ๆ
แล้วบีบเลมอนเล็กน้อยตัดรสให้ได้ความลงตัว
กินไปแล้วก็นึกถึงฤดูร้อนของญี่ปุ่นไป
เพราะรสชาติ
และความสดของปลานั้น
ทำให้รู้สึกสดชื่นมาก ๆ ครับ
แล้วที่ผมเลือกย่างเกลือแทนที่จะย่างมิโซะก็เพราะว่า
ความรู้สึกส่วนตัวถ้าย่างมิโซะ
น่าจะเหมาะกับกินพร้อมข้าว
แต่ว่าข้าวนั้น
จะถูกเสิร์ฟกับเมนูถัดไป
ผมจึงเลือกสั่ง
ย่างเกลือที่รสจะเบากว่ามิโซะครับ
เมนูที่
7
Yuba Age
ฟองเต้าหู้ทอดสอดไส้ลูกชิ้นปลาเนื้อขาวนุ่มเด้ง
เป็นเมนูเด็ดของร้านอุเมโนะฮานะครับจานนี้
ลูกชิ้นปลา
ใช้เนื้อปลาเนื้อขาวบดได้เนียน
ห่อด้วยฟองเต้าหู้อย่างดี
แล้วนำมาทอดกรอบนอก
นุ่มใน
จานนี้โดนมากบีบเลมอนเสริมรสชาติ
อยากได้อีกหลายชิ้นเลยครับ
แนะนำ ๆ
เมนูที่
8,9,
10 และ
Kuroge
Wagyu Yogan Yaki
เสิร์ฟมาพร้อมกับ
Yuba
Miso Soup ซุปเต้าเจี้ยวฟองเต้าหู้
Pickles
ผักดองแบบญี่ปุ่น
และ
Japanese
Streamed Rice ข้าวสวยญี่ปุ่น
มาพร้อมกันเลยแบบมินิเซ็ท
เนื้อวัววากิวสายพันธุ์ขนดำจากคิวชูย่างหินภูเขาไฟ
ตัวเนื้อวากิวญี่ปุ่นแท้
ๆ และยิ่งเป็นสายพันธุ์ขนดำ
ที่ถิ่นต่าง
ๆ ในญี่ปุ่นเลือกเลี้ยงจนโด่งดัง
ไม่ว่าจะเป็นโกเบ
มัตสึซากะ ที่เรา ๆ รู้จักกัน
นำมาย่างบน
กระทะแบนที่ทำจากหินภูเขาไฟร้อน
ๆ
ลงเนยบนกระทะหินให้ละลายเล็กน้อยแล้วก็ลงเนื้อตาม
เป็นอะไรที่คนรักเนื้อวัวแบบผมถึงกับฟินกับเมนูนี้
ได้สนุกกับการเลือกระดับความสุกด้วยฝีมือของตัวเอง
หรือจะให้พนักงานมาบริการให้ก็ย่อมได้ครับ
(ลองฟังเสียงเนื้อดิ้นพร้อมน้ำมันเนยบนกระทะตามคลิป)
เป็นอะไรที่มีความสุขกับการกินเนื้อชั้นดีกับกรรมวิธีการปรุง
และเรายังสามารถนำผักมาย่างบนเตากินได้อีกด้วย
กินพร้อมข้าวญี่ปุ่นหุงร้อน
ๆ จิ้มพอนสึเล็กน้อย
อร่อยเหาะมาก
เนื้อวัวนุ่มละลายอยากได้อีกหลายสิบชิ้น!!!
กินพร้อมผักดองญี่ปุ่น
รสเปรี้ยว
ๆ กรอบ ๆ
และซุปเต้าเจี้ยวฟองเต้าหู้อย่างดี
รสชาติกลมกล่อม
เข้มข้นแต่ไม่เค็ม
เป็นการจบของคาวได้อย่างดี
เมนูสุดท้าย
เมนูที่
12
เป็นของหวานปิดมื้อครับ
กับ
Tofu
Pudding
หรือ
พุดดิ้งน้ำเต้าหู้
ตัวพุดดิ้งทำจากน้ำเต้าหู้อย่างดี
ที่ใส่ใจตั้งแต่ตอน
คัดเมล็ดถั่วเหลืองจนถึงกรรมวิธีการทำต่าง
ๆ
จนเสร็จเป็นน้ำเต้าหู้
รวมถึงฟองเต้าหู้
ในเมนูอาหารต่าง
ๆ ในร้านอุเมโนะฮานะ
ทำให้ได้ของหวานที่คุณภาพยอดเยี่ยม
เนื้อพุดดิ้งเนียน
โรยด้วยถั่วลิสงป่นผสมน้ำตาลทรายแดงและราดด้วย
น้ำเชื่อมที่ได้จากถั่วเหลือง
เป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักถั่ว
และเต้าหู้มาก
ๆ แต่คนที่ไม่เคยคิดจะกินเต้าหู้ขอให้ได้ลองครับ
แล้วจะเปลี่ยนความคิด
จะเป็นคนชอบกินเต้าหู้
น้ำเต้าหู้
ก็เพราะร้านอุเมโนะฮานะก็คราวนี้นี่แหละครับ
รับรอง!!!
จบมื้อจริงแล้วครับ
ด้วยชาร้อน ๆ อุ่นสบายท้อง
มื้อนี้กับเมนูไคเซกิ
สุดคุ้มอีก 1
เมนูที่เป็นที่นิยมของ
ร้านอุเมโนะฮานะ
กับ เมนู Nagomi
Zen เมนูนี้ครับ
ที่ต้องบอกว่า
ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพวัตถุดิบ
ความเอาใจใส่
ละเมียดละไมตั้งแต่ต้นจนจบมื้อนั้น
ทางร้านอุเมโนะฮานะ
ทำให้ผมประทับใจมาก ๆ
แถมด้วยเมนูนั้นมีให้เลือกมากมาย
ไม่ใช่แต่เฉพาะ
แบบไคเซกิเท่านั้น
ยังมีเมนู a
la carte อื่น
ๆ
รวมถึง
set
อาหารกลางวันราคาพิเศษ
ๆ
รอให้ได้กลับไปซ้ำอยู่เรื่อย
ๆ เลยล่ะครับ
และหวังว่าประสบการณ์ดี
ๆ กับการกินแบบไคเซกิ
ในรีวิวนี้ของผม
จะเป็นประโยชน์และตัวเลือก
ในการลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบต่าง
ๆ ได้มากขึ้น
สนใจจองโต๊ะและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร.
084-438-3892
ดูคลิปเพิ่มเติมความอร่อยได้ครับ
ขอให้อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกินะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น