พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

UMENOHANA Authentic Kaiseki Cuisine



รีวิวนี้ ผมขอเกริ่นไว้ก่อนเลยนะครับว่า
จะเหมาะสำหรับคนที่รักและชื่นชอบในการกินอาหารญี่ปุ่น
เป็นชีวิตจิตใจ … ก็เว่อร์ไปนิด 555
เอาเป็นว่าชอบกินอาหารญี่ปุ่นก็พอ ซึ่งอาหารญี่ปุ่นมีหลักการ
อยู่หลายรูปแบบ แต่รีวิวนี้จะขอเน้นที่รูปแบบการกินอาหารญี่ปุ่น
ให้ถึงแก่นของความเป็นญี่ปุ่นในแบบฉบับ “ไคเซกิ-Kaiseki”


ขยายความกับ “ไคเซกิ-Kaiseki” สักเล็กน้อย
ในการกินแบบนี้นั้น จะหมายถึงอาหาร
ที่ถูกจัดออกมาเรียงลำดับเป็นขั้นเป็นตอน
ตั้งแต่ต้นจนจบ คือเริ่มจาก จานเรียกน้ำย่อย ซุป จานเคียง
จานหลัก ไปจนจบถึงของหวานและเครื่องดื่มปิดท้ายมื้อ
โดยจะจัดทำเป็นคอร์ส ปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาลของวัตถุดิบ


ซึ่งการกินอาหารญี่ปุ่นแบบ “ไคเซกิ-Kaiseki” ครั้งนี้นั้น
ผมจะพามายังร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13
บนชั้น 2 ของ Nihonmura Mall






ซึ่งเป็นร้านที่เมื่อก้าวเข้าไปแล้ว
จะรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่เข้าไปครับ
ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านด้วยของที่นำมาจากญี่ปุ่นต่าง ๆ


รวมไปถึงเสื่อทาทามิที่ยังได้กลิ่นของประเทศญี่ปุ่นติดอยู่เลย







รูปแบบของโต๊ะและห้องก็มีให้เลือกตามความเหมาะสม
บรรยากาศก็ทำได้ออกมาเหมือนอยู่ในร้านอาหาร
ในประเทศญี่ปุ่น การปรนนิบัติของพนักงานก็ยอดเยี่ยม


ต้นบ๊วยที่จำลองตามชื่อร้านก็สวยงาม

มาถึงตรงนี้แล้วบางคนอาจจะเดาชื่อร้านออกแล้ว
ว่าคือร้านอะไร แต่ขอพูดถึงใจความสำคัญที่นอกเหนือ
จากการกินอาหารญี่ปุ่นแบบ “ไคเซกิ-Kaiseki”
อีกประการนึงของรีวิวนี้นั่นก็คือ
ความพิถีพิถันและละเอียดอ่อนในการคัดเลือกวัตถุดิบ”
ที่เป็นที่สุดของเมนูและฤดูกาลนั้น ๆ จากประเทศญี่ปุ่น
มาเสิร์ฟให้ถึงประเทศไทยแบบไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่น
คุณก็จะได้กินของญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น
บรรยากาศและขนบธรรมเนียมแบบญี่ปุ่น ได้อย่างเต็มที่



กับ “อุเมโนะฮานะ-UMENOHANA”
ร้านอาหารสไตล์ไคเซกิที่แท้จริง!!!


พอได้ทำความรู้จักกับ ร้านอุเมโนะฮานะ,
วิธีการกินอาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิกันไปบ้างแล้ว
เรามาดูอาหารกันเลยดีกว่าครับ ผมเลือกสั่งเมนู


Nagomi Zen
Grilled Gindara & Wagyu Kaiseki 1,650 บาท
เป็นเมนูไคเซกิ 12 อย่าง โดยจานหลักจะเป็น
ปลากินดาระ(ปลาหิมะ)ย่าง เลือกได้ว่าย่างเกลือหรือมิโซะ(เต้าเจี้ยว)
และเนื้อวากิวย่างกระทะหินร้อน
มาพร้อมกับเมนูเรียกน้ำย่อย ซุป จานเคียง และของหวานครับ


เริ่มจากเมนูแรก 3 Assorted Appetizers
หรือ อาหารเรียกน้ำย่อย 3 ชนิด
ประกอบไปด้วย ของอร่อยประจำร้านอย่างเต้าหู้



ตัวนี้เป็น เต้าหู้มิเนโอกะ เป็นเต้าหู้เนื้อแน่นเด้ง
ลักษณะคล้ายมาร์ชเมลโล เนื้อเนียน
ราดด้วยซอสยูสุมิโซะด้านบน
ซึ่งตัวซอสยูสุมิโซะนี้ ช่วยเติมเต็มรสชาติของเต้าหู้
สร้างความสดชื่นกระปรี้กระเป่าก่อนเริ่มต้นจานต่อไป



จานถัดมาในส่วนของอาหารเรียกน้ำย่อย
ยูบะชิราอาเอะ เป็นฟองเต้าหู้
หรือถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงผิวตึง ๆ บนน้ำเต้าหู้นั่นแหละครับ
เสิร์ฟแบบเย็นพร้อมกับยอดผักโขมราดด้วยซอสเต้าหู้และโรยงา
เป็นเมนูหอมมัน รสชาติดีและมีคุณค่าด้วยไฟเบอร์จากผัก
ไว้รองรับจานหลักได้ดีทีเดียว



สุดท้ายของจานเรียกน้ำย่อย กับ
เยลลี่ซอสพอนสึรสเปรี้ยว
ที่ด้านในมีเนื้อปูทาราบะชิ้นใหญ่และหน่อไม้ฝรั่งกรอบ ๆ
เข้ากันเข้ากันล้างปากจากความมันของฟองเต้าหู้และผักโขม
และปรับลิ้นเพื่อรับรสในอาหารจานต่อไป



นี่เพิ่งเมนูแรกจาก 12 เมนูนะครับ อย่าเพิ่งเริ่มอิ่มล่ะ
เมนูถัดมาเป็นเมนูที่ 2 กับ Streamed egg custard
ไข่ตุ๋นเนื้อเนียนสไตล์ญี่ปุ่น ที่นึ่งมาร้อน ๆ กรุ่น ๆ
น้ำซุปที่นำมาทำไข่ตุ๋นก็ได้จากน้ำดาชิ
(น้ำต้มปลาคัตสึโอะแห้งอย่างดี) ทำให้ได้ไข่ตุ๋น
ที่มีรสกลมกล่อม หอม นุ่ม พร้อมเครื่องในไข่ตุ๋น
ผมนี่อยากจะเบิ้ลอีกถ้วยเลยล่ะครับ




เมนูที่ 3 Sashimi
ปลาดิบ... หลังจากวอร์มลิ้นและกระเพาะด้วยไข่ตุ๋น
ทางร้านอุเมโนะฮานะ เลือกที่จะเสิร์ฟซาซิมิปลาดิบ
ซึ่งเป็นการเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อให้ได้รสชาติของปลาได้อย่างเต็มที่
โดยเลือกเสิร์ฟปลาคัมปาจิ ที่ส่งตรงจากตลาดปลา
ประเทศญี่ปุ่น เสิร์ฟความหนากำลังดี 3 ชิ้น
ให้ได้รับรู้ถึงความสด กรอบและตามด้วยความนุ่ม
และรสชาติละมุนของปลาฮามาจิที่อร่อยสุด ๆ
เป็นดั่งตัวแทนฤดูร้อนที่แสนสดใสในญี่ปุ่นเลย





เมนูที่ 4 Tofu Shumai
ขนมจีบนึ่ง ซึ่งแป้งด้านนอกที่ห่อเนื้อในนั้น
เป็นลักษณะคล้ายเส้นบะหมี่แปลกตาดี
โดยตัวแป้งห่อนั้นเนื้อบางกำลังเหมาะ
เข้ากันได้ดีกับไส้ด้านในที่เป็นเนื้อไกและกุ้งสับ
นึ่งมาสุกได้ที่กำลังกิน กลิ่นหอมเมื่อกัดลงไป
กระจายเข้าเต็มปากเต็มคำ จิ้มพอนสึรสเปรี้ยว
เพิ่มอีกนิดเพื่อกระชับรสชาติหรือจะกินเปล่า ๆ
ก็อร่อยกันไปคนละแบบครับ





เมนูที่ 5 Ikura Mushi Sushi
ข้าวซูชินึ่งกลิ่นส้มยูสึพร้อมไข่ปลาแซลมอนดองเกลือ
ข้าวซูชิอย่างดีนึ่งได้สุกนุ่มหอมกลิ่นส้มยูสึปั้นเป็นก้อนกลม
กินกับไข่ปลาแซลมอนที่เป็นแบบดองเกลือ
ซึ่งให้ความเค็มมันแตกต่างจากการดองโชยุที่เคยกิน
ตามร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป ลงตัวกับข้าวซูชิและไข่หวาน
อยู่ในถ้วยน่ารัก เป็นเมนูที่ดูสวยงามและลงตัวอีก 1 เมนู





เมนูที่ 6 ครึ่งทางแล้วครับ เรามาเข้าสู่ 1 ในอาหารจานหลัก
Gindara Shio Yaki ปลาหิมะย่างเกลือ
เนื้อปลาหิมะที่อุดมไปด้วยไขมันชั้นดี ย่างเกลือหอม ๆ
แล้วบีบเลมอนเล็กน้อยตัดรสให้ได้ความลงตัว
กินไปแล้วก็นึกถึงฤดูร้อนของญี่ปุ่นไป เพราะรสชาติ
และความสดของปลานั้น ทำให้รู้สึกสดชื่นมาก ๆ ครับ
แล้วที่ผมเลือกย่างเกลือแทนที่จะย่างมิโซะก็เพราะว่า
ความรู้สึกส่วนตัวถ้าย่างมิโซะ น่าจะเหมาะกับกินพร้อมข้าว
แต่ว่าข้าวนั้น จะถูกเสิร์ฟกับเมนูถัดไป ผมจึงเลือกสั่ง
ย่างเกลือที่รสจะเบากว่ามิโซะครับ





เมนูที่ 7 Yuba Age
ฟองเต้าหู้ทอดสอดไส้ลูกชิ้นปลาเนื้อขาวนุ่มเด้ง
เป็นเมนูเด็ดของร้านอุเมโนะฮานะครับจานนี้
ลูกชิ้นปลา ใช้เนื้อปลาเนื้อขาวบดได้เนียน
ห่อด้วยฟองเต้าหู้อย่างดี แล้วนำมาทอดกรอบนอก
นุ่มใน จานนี้โดนมากบีบเลมอนเสริมรสชาติ
อยากได้อีกหลายชิ้นเลยครับ แนะนำ ๆ


เมนูที่ 8,9, 10 และ Kuroge Wagyu Yogan Yaki
เสิร์ฟมาพร้อมกับ Yuba Miso Soup ซุปเต้าเจี้ยวฟองเต้าหู้
Pickles ผักดองแบบญี่ปุ่น
และ Japanese Streamed Rice ข้าวสวยญี่ปุ่น
มาพร้อมกันเลยแบบมินิเซ็ท




เนื้อวัววากิวสายพันธุ์ขนดำจากคิวชูย่างหินภูเขาไฟ
ตัวเนื้อวากิวญี่ปุ่นแท้ ๆ และยิ่งเป็นสายพันธุ์ขนดำ
ที่ถิ่นต่าง ๆ ในญี่ปุ่นเลือกเลี้ยงจนโด่งดัง
ไม่ว่าจะเป็นโกเบ มัตสึซากะ ที่เรา ๆ รู้จักกัน นำมาย่างบน
กระทะแบนที่ทำจากหินภูเขาไฟร้อน ๆ




ลงเนยบนกระทะหินให้ละลายเล็กน้อยแล้วก็ลงเนื้อตาม
เป็นอะไรที่คนรักเนื้อวัวแบบผมถึงกับฟินกับเมนูนี้
ได้สนุกกับการเลือกระดับความสุกด้วยฝีมือของตัวเอง
หรือจะให้พนักงานมาบริการให้ก็ย่อมได้ครับ


(ลองฟังเสียงเนื้อดิ้นพร้อมน้ำมันเนยบนกระทะตามคลิป)
เป็นอะไรที่มีความสุขกับการกินเนื้อชั้นดีกับกรรมวิธีการปรุง
และเรายังสามารถนำผักมาย่างบนเตากินได้อีกด้วย





กินพร้อมข้าวญี่ปุ่นหุงร้อน ๆ จิ้มพอนสึเล็กน้อย
อร่อยเหาะมาก เนื้อวัวนุ่มละลายอยากได้อีกหลายสิบชิ้น!!!



กินพร้อมผักดองญี่ปุ่น รสเปรี้ยว ๆ กรอบ ๆ
และซุปเต้าเจี้ยวฟองเต้าหู้อย่างดี รสชาติกลมกล่อม
เข้มข้นแต่ไม่เค็ม เป็นการจบของคาวได้อย่างดี





เมนูสุดท้าย เมนูที่ 12 เป็นของหวานปิดมื้อครับ
กับ Tofu Pudding หรือ พุดดิ้งน้ำเต้าหู้
ตัวพุดดิ้งทำจากน้ำเต้าหู้อย่างดี ที่ใส่ใจตั้งแต่ตอน
คัดเมล็ดถั่วเหลืองจนถึงกรรมวิธีการทำต่าง ๆ
จนเสร็จเป็นน้ำเต้าหู้ รวมถึงฟองเต้าหู้
ในเมนูอาหารต่าง ๆ ในร้านอุเมโนะฮานะ
ทำให้ได้ของหวานที่คุณภาพยอดเยี่ยม เนื้อพุดดิ้งเนียน
โรยด้วยถั่วลิสงป่นผสมน้ำตาลทรายแดงและราดด้วย
น้ำเชื่อมที่ได้จากถั่วเหลือง เป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักถั่ว
และเต้าหู้มาก ๆ แต่คนที่ไม่เคยคิดจะกินเต้าหู้ขอให้ได้ลองครับ
แล้วจะเปลี่ยนความคิด จะเป็นคนชอบกินเต้าหู้ น้ำเต้าหู้
ก็เพราะร้านอุเมโนะฮานะก็คราวนี้นี่แหละครับ รับรอง!!!


จบมื้อจริงแล้วครับ ด้วยชาร้อน ๆ อุ่นสบายท้อง


มื้อนี้กับเมนูไคเซกิ สุดคุ้มอีก 1 เมนูที่เป็นที่นิยมของ
ร้านอุเมโนะฮานะ กับ เมนู Nagomi Zen เมนูนี้ครับ
ที่ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพวัตถุดิบ
ความเอาใจใส่ ละเมียดละไมตั้งแต่ต้นจนจบมื้อนั้น
ทางร้านอุเมโนะฮานะ ทำให้ผมประทับใจมาก ๆ
แถมด้วยเมนูนั้นมีให้เลือกมากมาย ไม่ใช่แต่เฉพาะ
แบบไคเซกิเท่านั้น ยังมีเมนู a la carte อื่น ๆ
รวมถึง set อาหารกลางวันราคาพิเศษ ๆ
รอให้ได้กลับไปซ้ำอยู่เรื่อย ๆ เลยล่ะครับ
และหวังว่าประสบการณ์ดี ๆ กับการกินแบบไคเซกิ
ในรีวิวนี้ของผม จะเป็นประโยชน์และตัวเลือก
ในการลิ้มรสชาติอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น

สนใจจองโต๊ะและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 084-438-3892

ดูคลิปเพิ่มเติมความอร่อยได้ครับ

ขอให้อิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกินะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น