รีวิวนี้จะพามากินอาหารญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร "สึ-TSU"
โรงแรมเจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ
กับฝีมือหัวหน้าเชฟอาหารญี่ปุ่นคนใหม่
ที่เพิ่งมาเมื่อเดือนกรกฏาคม 2560 ที่ผ่านมานี่เอง
กับ "เชฟยูคิโอะ ทาเคดะ" ที่สั่งสมประสบการณ์ยาวนาน
บนเส้นทางสายอาหารญี่ปุ่นมานาน
"เชฟยูคิโอะ ทาเคดะ"
ผ่านงานมาจากทั้งร้านอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม
ร้านอาหารญี่ปุ่นในโรงแรมต่าง ๆ อีกมากมาย
รวมถึงเคยได้คัดเลือกให้เป็นเชฟห้องอาหาร
ระดับมิชเชลิน 2 ดาว อย่างห้องอาหารญี่ปุ่นอูมุ (Umu)
ในลอนดอนประเทศอังกฤษมา และเชฟยัง
เป็นผู้อยู่เบื้องหลังห้องอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง
อย่าง “คัตสึ” ซึ่งเป็นห้องอาหารที่ขึ้นชื่อ
เรื่องการสร้างสรรค์ เมนูซูชิโรล และเทปันยากิ
ของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท ฮ่องกง
โรงแรมชื่อดังระดับโลกอีกด้วย
ดีกรีขนาดนี้มีดีแน่นอน เพราะการมาครั้งนี้
เชฟยูคิโอะ ทาเคตะ จะทำการดูแล
ทั้งห้องอาหารญี่ปุ่น “สึ-TSU”
และห้องอาหาร “นามิ” เทปันยากิ สเต็กเฮ้าส์ เลยนะ
สัญลักษณ์คลื่นนี้ ใครมาก็ต้องเก็บเป็นความทรงจำ
ไว้ว่า ห้องอาหารญี่ปุ่นนี้ อร่อยลืมไม่ลง
บรรรยากาศห้องอาหาร
จะเป็นสไตล์ Casual Dining
แบ่งห้องแบ่งมุมได้อย่างสบายตา
แบบห้องส่วนตัว มีทั้งใหญ่และเล็ก
ตามจำนวนคนและความเหมาะสม
ห้องอาหาร "สึ-TSU" ให้บริการอาหารญี่ปุ่น
ทั้งในรูปแบบโอมาคาเสะ OMAKASE
อาหารจานเดี่ยว A la carte หลากหลายชนิด
ตั้งแต่ซาซิมิ ซูชิ โรล สลัด ซุป ข้าวหน้าต่าง ๆ
โซบะ/อุด้ง ของทอด ปิ้ง ย่าง สุกี้ยากี้ ชาบู ฯ
แถมในมื้อกลางวันยังมี Lunch set
ให้ได้กินแบบเร่งด่วนกันอีกด้วย
ถ้าถามหาเครื่องดื่มก็มีสาเกให้เลือก
มากกว่า 100 ฉลาก รวมถึงค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่น
เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์ที่หาได้ยาก
ในบรรยากาศที่สวยงามและทันสมัยในที่เดียว
ผู้ช่วยเชฟประจำห้องอาหารญี่ปุ่น "Tsu-สึ"
ยืนประจำที่นั่งเคาท์เตอร์ ปรุงและเสิร์ฟ
ความอร่อยได้อย่างใกล้ชิด
เหล่าวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ไม่ใช้ของแช่แข็ง
แม้แต่อย่างเดียว เอาใจใส่ถึงขึ้นจุดเริ่มต้น
ของวัตถุดิบอย่างจริงจัง รสชาติจึงอร่อยเต็มขั้น
อุปกรณ์นำพาความอร่อย
ต่อไปจะเรียงคอร์สออกมากระแทกจอ
ยั่วน้ำลายกันแล้วนะครับ
เมนูวันนี้ที่ได้ลองเป็น Signature ของเชฟทาเคดะ
ที่คัดสรรค์มาให้นั้น ล้วนแล้วแต่เน้นความสด
ใหม่ตามธรรมชาติของวัตถุดิบ
ไม่มีการใช้ของแช่แข็งเด็ดขาด
และยังเตรียมไว้เป็นเมนูใหม่ในเดือนตุลาคม 2560 ที่จะถึงนี้ด้วย
มี 6 คอร์สดังนี้
- Homemade white sesame tofu
(เต้าหู้งาขาวโฮมเมดสไตล์เกียวโต)
Homemade white sesame tofu
เต้าหู้งาขาวโฮมเมดสไตล์เกียวโต
เชฟใช้งานขาว นำมากวนนานติดต่อกันถึง 30 นาที
จนเซ็ตตัวและทำเป็นเต้าหู้ออกมา เนื้อเต้าหู้นั้น
นุ่มและมีความหนึบ สัมผัสอยู่ระหว่างเต้าหู้ก้อน
และแป้งโมจิ เคี้ยวเด้งสนุกแต่ก็ขาดได้ง่ายเช่นกัน
ซึ่งเชฟบอกว่าเป็นการทำเต้าหู้งานในสไตล์เกียวโต
วางเต้าหู้ลงในน้ำซุปดาชิ หอมปลาแห้งมาก ๆ ๆ ๆ
รสชาติซุปกลมกล่อมอยู่แล้ว พอกินเต้าหู้งาขาว
กับอูนิสด ๆ จากฮอกไกโดที่มีความหอม หวาน มัน
ยิ่งดี และถ้ายิ่งแต้มวาซาบิสดที่เชฟปรุงให้มีรสหวาน
ขึ้นมาเล็กน้อยก็จะได้รสสัมผัสที่แตกต่างออกไปอีก
เรียกว่าอร่อยได้หลายชั้นเลยสำหรับเต้าหู้งาเมนูนี้
- Fresh Honmaguro tasting from Nagasaki
(ปลาทูน่าญี่ปุ่นน้ำลึกสด ๆ จากนากาซากิ 3 ชนิด)
อากามิ ส่วนเนื้อแดงของปลาฮอนมากุโร่
ตัวเนื้อจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย วางมาบนซุปดาชิหอม ๆ
ที่เชฟทำเป็นวุ้น/เจลาตินไว้ พร้อมกับสาหร่าย 2 สี
ให้ความกรึบ ๆ ระหว่างเคี้ยว โดยไม่ต้องจิ้มโชยุ
เพื่อให้ได้รสชาติที่เชฟตั้งใจทำออกมาได้อย่าง
อร่อยมาก ๆ อยู่แล้ว
ชูโทโร่ ละลายในปาก รสชาติหอมหวาน
สดฉ่ำ สมเป็นฮอนมากุโร่ ปลาทูน่าจากญี่ปุ่นจริง ๆ
ชิ้นนี้เชฟตั้งใจให้ได้ลิ้มรสความเป็นธรรมชาติ
รสชาติแบบธรรมชาติจากราชาแห่งปลาทะเลจริง ๆ
โอโทโร่ เชฟประดับงาดำแผ่นกรอบ ๆ
มาพยุงสัมผัสของความมันละลาย
ที่ระเบิดไปในปาก ไม่ให้หายไปจนเร็วเกินไป
แถมอร่อยมากยิ่งขึ้น
แต่ถ้าไม่กินแผ่นงาล่ะก็ โอโทโร่จะละลาย
ไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ
แม้รสชาติและความมันจะค้างปากอยู่ก็ตาม
- Grilled miso marinated silver cod fish
(ปลากินดาระย่างมิโซะปรุงรสพิเศษ)
Grilled miso marinated silver cod fish
ปลากินดาระย่างมิโซะปรุงรสพิเศษ
เชฟย่างปลามาได้สุกเนื้อนุ่มหนังกรอบ
ปรุงด้วยมิโซะที่หมักผสมกากสาเก
แต่งรสชาติของตัวมิโซะออกมาได้ละมุน
ไม่เค็มและไม่หวานจนทำร้ายรสชาติ
ความสด หวาน ฉ่ำมัน ของเนื้อปลา
กินกับมะเขือเทศเชอร์รี่ที่หมักกับไวน์ขาว
และไช้เท้าขูดผสมน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น
เพิ่มมิติรสชาติให้กับปลากินดาระจานนี้อย่างมาก
เป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงอีกจานเลยล่ะครับ
เครื่องดื่มที่แกล้มอาหารญี่ปุ่นได้ดีที่สุด
สำหรับผมแล้วก็ยังคงเป็นน้ำใส ๆ เย็น ๆ ช็อตนี้
- Snow crab and Naruto seaweed salad. Tosazu vinegar sauce
(เนื้อปูซูไวกับสลัดสาหร่ายวากาเมะ ในซอสน้ำส้มสายชู 2 ชนิด)
Snow crab and Naruto seaweed salad. Tosazu vinegar sauce
เนื้อปูซูไวกับสลัดสาหร่ายวากาเมะ ในซอสน้ำส้มสายชู 2 ชนิด
เป็นจานเบรค พักลิ้นก่อนก้าวไปยังจานเนื้อที่รออยู่
ตัวน้ำส้มสายชู 2 ชนิดยังคงมีความหอมของ
ปลาคัตสึโอะบุชิ/น้ำดาชิ(ซุปปลาแห้ง)บาง ๆ
ซึ่งกลิ่นดีกว่าน้ำส้มสายชูธรรมดาทั่วไปมาก
ตัวรสชาติได้ถูกแตงกวาญี่ปุ่นซึมซับเอาไว้
เมื่อกินพร้อมกับสาหร่ายหนึบ ๆ แตงกวากรอบ ๆ
และเนื้อปูซูไวหวาน ๆ รสชาติเปรี้ยวของน้ำส้มสายชู
ด้วยกันทั้งหมด รู้สึกได้ถึงความสดชื่น
และเคลียร์ความมันจากจานปลากินดาระย่างมิโซะ ได้อย่างดีจริง ๆ ครับ
- A5 Miyazaki Rib Eye Beef stone grill with miso sauce
(เนื้อมิยาซากิ A5 ริบอายส์ ย่างมิโซะสูตรเชฟทาเคะดะบนหินร้อน)
บรรจงคีบ แล้วเคี้ยวอย่างละมุนละม่อม
เพราะเนื้อมิยาซากิ ริบอาย นั้นละมุนละไมมาก ๆ
ไม่อยากให้เนื้อย่างนี้หมดไปจริง ๆ มีเป็นกิโลก็กินหมดครับ
- Fresh eel grilled Kabayaki
(ข้าวหน้าปลาไหลสดย่างซอส)
Fresh eel grilled Kabayaki
ข้าวหน้าปลาไหลสดย่างซอส
เชฟเลือกใช้ปลาไหลสด
ไม่มีการใช้แบบแช่แข็งเด็ดขาด
รวมถึงจังหวะการชำแหละปลาไหลก็ใจเย็น
ให้ปลาไหลไม่ตื่นเต้น แต่รอให้สงบนิ่งจึงลงมือ
เพื่อให้ได้เนื้อปลาไหลที่มีช่วงเวลาความอร่อย
ที่สมบูรณ์ที่สุด จึงได้เนื้อปลาไหลที่อร่อยสุด ๆ
นำมาย่างทาด้วยซอสที่เคี่ยวจากหัว ก้าง ปลาไหล
ผสมกับสาเก มิริน โชยุ ให้งวดระหว่างที่ย่าง
ซึ่งซอสมีความใส ไม่เหนียวเหนอะปาก
บรรจงวางลงบนข้าวญี่ปุ่นที่หุงได้นุ่มมาก
แต่ไม่เละ ไม่แฉะ และไม่ปรุงรสใด ๆ มา
เพื่อให้ได้ความอร่อยของรสชาติปลาไหลและซอส
ได้อย่างเต็มที่
ชิ้นไม่ใช่เล็ก ๆ นะครับ
ความยาวพอ ๆ กับตะเกียบเลย
เนื้อปลาไหลสด จะฟู นุ่ม หนึบ หวานมันกว่าปลาไหล
ที่ผ่านการแช่แข็งมาอย่างชัดเจน และรู้สึกได้เลย
แตงกวาญี่ปุ่นและไช้เท้าดองยังอร่อยได้
ฝีมือการปรุงรสเยี่ยมจริง ๆ
ไว้สำหรับคนไหนที่แก้เลี่ยนปลาไหลได้ดี
โดยไม่ทำลายรสชาติปลาอีกเช่นกัน
มิโซะซุป ซุปเต้าเจี้ยวที่มากับข้าวหน้าปลาไหล
รสเค็มอ่อน หอมซุปดาชิดีงาม ซดคล่องคอ
หลังจากที่กินปลาไหลอร่อย ๆ กับข้าวนุ่ม ๆ ไปแล้ว
- Yomogi oyaki
(ขนมแป้งโมจิผสมใบโยโมหงิไส้ถั่วแดงทอด)
Yomogi oyaki
ขนมแป้งโมจิผสมใบโยโมหงิไส้ถั่วแดงทอด
หลากหลายสัมผัสในคำเดียว
แป้งโมจิทอดกรอบนอก เนื้อด้านในยังนุ่มหนึบ
ไส้ถั่วแดงที่หวานกำลังดี ไปกันได้ดีกับตัวโมจิ
ขนมที่มีหลายหลากสัมผัส
แต่ยังคงอยู่ในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม
ปิดท้ายมื้ออร่อยได้อย่างสมบูรณ์
แต่ละจานบอกได้ว่า อร่อยมาก ๆ จริง ๆ
ในความอร่อย ความสวยงาม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
และยังอยู่ในความเป็นอาหารญี่ปุ้นดั้งเดิมอย่างแท้จริง
อยากจะแนะนำสุดตัว ว่าให้มาลองฝีมือเชฟยูคิโอะ ทาเคดะ
ให้ได้สักครั้งหรือหลาย ๆ ครั้งจริง ๆ ครับ
ชมความอร่อยในรูปแบบคลิปได้ที่
https://youtu.be/x1eOa9za8Sw
อย่าลืมกด Subscribe+Like+Share นะครับ
ห้องอาหาร "สึ-TSU" ตั้งอยู่ชั้น LL(ใต้ดิน)
เปิดให้บริการทุกวัน
มื้อกลางวัน เวลา 11:30-14:30 น.
มื้อค่ำ เวลา 16:00-22:30 น.
สำรองที่นั่งและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 02-656-7700
#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto #foodblog
#foodblogger #foodreview #food #blogger
#thaiblogger #foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#TSU #JWMarriottBangkok #JapaneseFood
#JapaneseRestaurant #NewChef
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น