พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Water Library Wine dinner กับอาหารจานเด็ดจากมิชลินสตาร์เชฟไฮเคิล โจฮารี


ฤกษ์ยามงามดี กับการได้ชิมฝีมือเชฟระดับมิชลินสตาร์
ชาวสิงคโปร์ อย่างเชฟไฮเคิล โจฮารี 
Corporate Chef ของเครือ Water Library Hospitality Group
ที่มากฝีมือ ด้วยการดูแลอาหารทุกร้านในเครือ Water Library
รวมถึงการผ่านการเป็นเชฟจากร้านระดับมิชลินสตาร์
มามากมายเช่น L’Atelier De Joel Robuchon,
Edition by Koji Shimomura, Amador by Juan Amador และร้านที่ singapore ชื่อ Alma by Juan Amador เป็นต้น
แถมยังเป็นเชฟนักสู้อีกคนนึง ที่ไม่ย่อท้อต่อการเป็นเชฟ
แม้จะประสบอุบัติเหตุเมื่อเดือนธันวาคม 2015
ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป และต้องทำงานบนวีลแชร์
อยู่เป็นปี ๆ เลยกว่าจะหายดีอย่างปัจจุบัน
(สำหรับข้อมูลของเชฟ สามารถหาอ่านได้ใน google เลยครับ)


รู้จักเชฟไฮเคิล โจฮารี กันพอสังเขปแล้ว ทำให้คาดหวัง
กับอาหารแต่ละจานที่ทางเชฟเลือกมาจับคู่กับไวน์ในครั้งนี้เลย
และมีนักชิม นักกิน หลายท่านต่างรอคอยกับงานนี้
จนต้องเปิดรอบเพิ่มเป็น 2 รอบ จากเดิมจะมีเพียง
วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน เพียงวันเดียว จำนวน 40 ที่นั่ง
กลับต้องเพิ่มรอบวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน อีก 1 รอบ
ซึ่งเป็นรอบที่ผมไปมานี่แหละครับ
มื้อ Wine dinner นี้ จัดขึ้นที่ Water Library Crystal Park 
ชั้น 2 ของ The Crystal Veranda ที่เคยไปรีวิวมาแล้วตามลิงค์นี้
โดยมื้อนี้สนนราคาต่อคนอยู่ที่ 3,650 บาท net ครับผม
ประกอบไปด้วย รายการอาหารและไวน์ดังนี้



แก้วพร้อม อุปกรณ์พร้อม

มีดนตรีสดขับกล่อมตลอดมื้อไวน์ดินเนอร์นี้ด้วย


เชฟไฮเคิล โจฮารี เชฟยอดนักสู้ ควบคุมอยู่ในครัวอย่างใกล้ชิด

*********************************************

วอร์มอัพกันด้วย
Canapé and Champagne
Cold Pasta-Salmon Mousse-Crab postriker
คานาเป้กับแชมเปญ
พาสต้าเย็น-มูสแซลมอน-เปาะเปี๊ยะปู


คานาเป้แสนอร่อยเปิดม่านมื้อนี้ทั้ง 3 อย่าง
ผมเลือกเริ่มกินจาก เปาะเปี๊ยะปู แป้งเปาะเปี๊ยะบางกรอบ
ห่อด้วยไส้เนื้อปูปรุงรสชาติเบา ๆ มาแน่น ๆ ชูความหวาน
ตามธรรมชาติของเนื้อปูได้อย่างกลมกลืน


ตามด้วยมูสแซลมอน ที่มีฐานเป็นแป้งพายเบา ๆ กรอบ ๆ
เนื้อมูสหอมแซลมอน มากับความเบาละมุนลิ้น ฟินดีจริง ๆ


ตบท้ายคานาเป้สามสหายด้วย
พาสต้าเย็นเส้นเด้งดึ๋งมากับซอสคล้ายพอนสึผสมสาหร่าย
แต่งกลิ่นเพิ่มความหอมหวลด้วยทรัฟเฟิลแบบชัดเจน
ท็อปด้วยเนื้อกุ้งลวกสุกแบบเย็น กินเย็นทั้งคำอร่อยล้ำกันไปเลย


ซึ่งทั้ง 3 อย่างนั้นเข้ากันได้ดีมากกับแชมเปญที่เลือกมาแล้วอย่าง
Goutorbe-Boulluot Champagne 'Reflets De Riviere' Brut
ดื่มง่าย รสชาติไม่หนัก หอมกลิ่นดอกไม้ สดชื่นมาก ๆ




ก่อนเข้าสู่ 1st course นั้น เชฟยังมีเซอร์ไพรส์อีก
ด้วยการนำเจ้าชิ้นนี้มาเสิร์ฟครับ (จำชื่อไม่ได้ 555)


เป็นคุกกี้เสี่ยงทาย เอ้ย ไม่ใช่ เป็นคุกกี้เนื้อเบามาก ๆ
แบบเข้าปากแล้วละลายกันไปเลย วางด้วยครีมปูที่ผสมเนื้อปู
มาได้เหมาะเจาะพอดีกับซอสหอมใหญ่ไข่กุ้งด้านบน
เป็นของกินเล่น ๆ อีก 1 อย่างที่ทำให้ประทับใจมาก ๆ ครับ
เพราะกินกับแชมเปญตัวเดิมนี่แหละ ก็เหมาะมากสุด ๆ


*********************************************

1st course
Watermelon, ground Salmon, Salmon roe with herb
+ Peter Lauer 'Senior' Ayler, Riesling, Faß 6 2016
ปลา(แซลมอน)แห้ง แตงโม กับไข่ปลาแซลมอนพร้อมสมุนไพร
จับคู่กับ ริสลิ่งไวน์(ไวน์ขาวจากองุ่นพันธุ์ริสลิ่ง)




ฉีกกฎการเป็นปลาแห้งแตงโม อาหารชาววังสมัยโบราณกันไปเลย
ทั้งการเลือกองค์ประกอบของเมนูนี้ การจัดจาน และการใช้ซอส
เชฟเลือกใช้ซอสซีฟู้ดมาปั่นแล้วทำเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
วางบนไข่ขาวดาวน้ำให้สุก ปิดทับแตงโมแช่เย็นชิ้นพอดีคำ
และปลาแห้งที่ทำจากแซลมอน กลิ่นหอม รสชาติแซลมอนชัด
พร้อมไข่ปลาแซลมอนคลุกสมุนไพรไทย ได้อย่างเหนือชั้น


แนะนำให้กินพร้อมกันจะได้รับเท็กซ์เจอร์สัมผัสที่หลากหลาย
และรสชาติที่แตกต่างกัน แต่ไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
ทั้งความเย็นและหวานของแตงโม ความเค็มมันและหอมของแซลมอนแห้ง
และไข่ปลาแซลมอนคลุกสมุนไพรไทย เช่น มะกรูดและตะไคร้
ตัดรสด้วยซอสซีฟู้ดสีเขียวรสเปรี้ยวเผ็ดเย็น ๆ ที่ถูกโอบอุ้มรวมกันด้วยไข่ขาวสุก
จิบไวน์ริสลิ่งตัวนี้ที่มีความหอมของกลิ่นคล้ายน้ำมันก๊าซเป็นทุนเดิม
เสริมกับกลิ่นหอมดอกไม้ ให้ความหวาน สดชื่นดื่มง่ายและเข้ากับ
ปลาแห้งแตงโมงเมนูนี้มาก ๆ อีก 1 จาน


*********************************************

2nd course
Grilled river prawn, Crab curry
+ Domaine Weinbach, Pinot Gris, Cuvee Sainte Catherine 2014
กุ้งแม่น้ำย่างซอสแกงปู จับคู่กับ ไวน์ขาวตัวท็อปจาก Domaine Weinbach


  

กุ้งแม่น้ำไซซ์ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปย่างมาสุกกำลังดี
เนื้อเด้ง มันหัวฉ่ำ ราดด้วยซอสแกงปูรสชาติแบบทางภาคใต้
แต่ไม่เผ็ดจนมาฆ่ารสชาติไวน์ขาวที่มาจับคู่กันนะ
ตัวกุ้งผ่าครึ่งวางท็อปด้วยข้าวรีซ็อตโต้อบกรอบ(เหมือนข้าวพอง)
และฟองโฟมกลิ่นรมควัน กินได้อร่อยมาก ๆ 
ตัดรสด้วยเฟนเนลสไลด์ยำ/ปรุงรสเผ็ด ได้อย่างดีทีเดียว
จิบไวน์ขาวตัวนี้ตามไป เป็นไวน์ขาวที่จบยาว ๆ หอมหวาน
และสดชื่นอีก 1 ตัว เข้ากันได้ดีกับอาหารทะเล 
หรือแกง-อาหารรสจัดได้งดงาม



*********************************************

3rd course
Mussaman Lamb 
+ Arietta, Napa Valley 'Variation One' Red 2010 
or Salmon Tomyum
+ Reference Book, Napa Valley, Cabernet Sauvignon Rose 2013
จานหลักที่ต้องเลือกระหว่าง มัสมั่นแกะ กับไวน์แดง
และ แซลมอนซอสต้มยำ กับไวน์โรเซ่
ผมเลือกเป็น มัสมั่นแกะ กับไวน์แดงจาก Arietta นาปาวัลเล่ย์ครับ


  

ไม่ผิดหวังกับการเลือกอาหารจานหลัก เป็นแกะจานนี้
เชฟเลือกใช้ส่วนซี่โครงแกะ หั่นชิ้นหนา ๆ เลาะออกจากกระดูกส่วนนึง
เพื่อนำมาจัดจานได้อย่างสวยงามและดึงดูดสายตาด้วยระดับความสุก
มีเดียมแรร์ ทำให้ได้เนื้อแกะนุ่มมาก ๆ และแทบไม่มีกลิ่นสาบ
ราดด้วยซอสแกงมัสมั่นรสชาติเข้มข้น ร้อนแรงแต่กลมกล่อม
มีกราแตงค์หัวหอม กินคู่กันเพื่อเสริมกระชับรสชาติของแกะได้ดียิ่งขึ้น
พร้อมจิบ 'Variation One' ที่ให้รสนุ่มลึก แบบฟูลบอดี้ หอมกลิ่นผลไม้ป่า
และเครื่องเทศ แบบชัด ๆ เอามาจัดการกับแกะได้อย่างอยู่หมัด
ถ้ายิ่งเปิดให้หายใจไว้ยิ่งนาน จะยิ่งนุ่ม เพื่อความละมุนขึ้นไปอีกด้วย



แถมอีก 1 เมนูในคอร์สที่ 2 ที่ไม่ได้เลือก
แซลมอนซอสต้มยำ เนื้อปลาแซลมอนสุกกำลังพอดี
กริลล์มาหอมมาก ๆ แซลมอนเนื้อหนา ๆ กับซอสต้มยำ
ที่ราดมา ซอสต้มยำรสชาติครบรส พร้อมจิบโรเซ่ที่ใกล้เคียง
กับไวน์แดงตัวนี Reference Book, Napa Valley,
Cabernet Sauvignon Rose 2013
โรเซ่ตัวนี้พริ้วไปกับเนื้อปลาแซลมอนมาก ๆ
และเป็นโรเซ่อีก 1 ตัวที่ดื่มไม่ยาก เข้าได้กับอาหารหลายอย่าง
ยกเว้นพวกจานเนื้อแดงหรือสเต็กเนื้อวัว เนื้อแกะ เป็นต้น



*********************************************

ปิดท้ายด้วยของหวาน
Mango & Jasmine rice pudding
มะม่วงกับพุดดิ้งข้าวหอมมะลิ


เมนูของหวานสุุดพิเศษที่ได้เชฟจาว (ที่เคยประจำอยู่ที่ร้าน SEED)
มาช่วยทำให้สมบูรณ์ เป็นพุดดิ้งที่แตกต่างจากที่จินตนาการไว้อยู่เหมือนกัน
หวานละมุนละไมกับส่วนผสมของมะม่วงสุก พุดดิ้งข้าวหอมมะลิ
กะทิ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่กินได้อย่างเพลินปิดคอร์สไวน์ดินเนอร์ครั้งนี้
พร้อมจิบชาผลไม้รสอร่อย เสริมกับของหวานถ้วยนี้ได้


*********************************************

เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากและไม่ผิดหวังกับมื้อ Wine dinner
จากฝีมืออาหารจานเด็ดของเชฟไฮเคิล โจฮารี และไวน์ชั้นดี
หากสนใจมื้ออาหารพิเศษ ๆ แบบนี้จาก Water Library ล่ะก็
คอยติดตามความเคลื่อนไหวได้จากช่องทางดังนี้
Tel.094-453-7777



Goutorbe-Boulluot Champagne 'Reflets De Riviere' Brut

Peter Lauer 'Senior' Ayler, Riesling, Faß 6 2016 

Domaine Weinbach, Pinot Gris, Cuvee Sainte Catherine 2014 

Arietta, Napa Valley 'Variation One' Red 2010 

Reference Book, Napa Valley, Cabernet Sauvignon Rose 2013

#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto #foodblog
#foodblogger #foodreview #food #blogger
#thaiblogger #foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#WATERLIBRARYCRYSTALPARK
#WaterLibrary #Brasserie #FrenchThai
#food #Drink #Dessert #Coffee

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น