พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561

BRASSERIE CORDONNIER อาหารฝรั่งเศสสุดคลาสสิคแสนอร่อย


ร้าน Brasserie Cordonnier เป็นร้านที่ 5
ในเครือของ Soho Hospitality ที่เป็นแนวอาหาร
และเครื่องดื่ม ซึ่ง Brasserie Cordonnier
จะให้ความรู้สึกของรูป รส กลิ่น เสียง
ในความคลาสสิคของความเป็นฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม
ซึ่งจะนำพาให้ได้พบกับการกินอาหารฝรั่งเศสแบบแท้ ๆ กัน
ไปพร้อมกับดการตกแต่งบรรยากาศร้าน
ประหนึ่งเราได้หลุดมาอยู่ในปารีสในปี 1930 กันเลย


  



อาหารจากฝีมือ
เอ็กเซคคูทีฟเชฟเคลมองต์ เฮอร์นานเดซ
(Clement Hernandez) 
ที่เคยทำงานในร้านมิชลินสตาร์มามากมาย
ทั้งในยุโรปและเอเชีย
รวมถึง J’AIME by Jean Michel Lorain
สาขาในกรุงเทพฯ ของร้านอาหารระดับ
มิชลินสองดาวจากประเทศฝรั่งเศส
ที่ได้รับการยอมรับจากนักชิมทั่วโลก
พร้อมเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่ควบคุมโดยฝีมือ
Mixologist ชั้นนำ อย่าง Davide Sombo อีกด้วย


ขนมปังฝรั่งเศสกับเนยทรัฟเฟิล
หอมสุดขีด กินเพลินมากกับเนยทรัฟเฟิลนี้
ที่มาเป็น complimentary



ชมคลิปรีวิวได้ที่ https://youtu.be/MP0dWH4Qxac

อย่าลืมกดติดตาม Subscribe กันนะครับ

เมนูแนะนำที่ได้ลองลิ้มชิมรสชาติสุดอร่อยมีดังนี้ครับ


Cold cuts & Cheese Platter 620++
ชีส 3 ชนิดและโคลด์คัท 3 ชนิด ที่เชฟคัดเลือกมาให้
ที่เป็นไฮไลท์ในแต่ละวันสลับผลัดเปลี่ยนกันไป
เสิร์ฟพร้อมแตงกวาดอง มะกอก มะเขือเทศแห้ง
และโฮมเมดพอร์ค กับ พิสตาชิโอ้เทอร์รีน


เสิร์ฟนี้ ชอบบลูชีสของที่นี่มาก ๆ คัดเลือกมาแบบ
มีกลิ่นของบลูชีสเน้น ๆ แต่กินไม่ยาก แกล้มกับ
แตงกวาดอง มะกอก มะเขือเทศแห้ง
พร้อมกับความอร่อยของโคลด์คัทแบบต่าง ๆ
ที่บอกได้เลยว่า ทำรสชาติได้กำลังดี ไม่เค็มเกินไป



Chilled Ratatouille 280++
สตูว์ผัก "ราตาตุย" อย่าเผลอไปอ่าน "ราตาทูอี้" ล่ะครับ
เป็นอาหารจานสามัญประจำชาติของชาวฝรั่งเศส

ซึ่งโดยปกติจะเป็นการต้มให้ผักต่าง ๆ นุ่มนิ่ม
แต่ทางเชฟกลับใช้การทวิสต์ด้วยการผัดร้อนให้ผักนิ่มแทน
โดยใช้มะเขือเทศถึง 3 แบบ คือ แบบสด แบบผสมบัลซามิก
และแบบกงฟี(ตุ๋นในน้ำมัน) โรยหน้าด้วยยอดอ่อนและเมล็ด
ทานตะวันกรุบกรอบ เพิ่มสัมผัสให้กับจานนี้ได้อย่างดี
เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ กินแล้วสดชื่นมากมายจริง ๆ



Terrine de Foie Gras Façon Cordonnier 560++
ฟัวกราส์ - ตับห่าน แบบเทอรีน เชฟได้นำฟัวกราส์
ไปหมักกับเกลือและพริกไทย แล้วนำไปซูวี เสร็จแล้ว
ก็นำมาบด แช่ในน้ำแข็งให้เซ็ตตัว



ตัดชิ้นเทอรีน วางบนขนมปังบริยอช
พร้อมชัตเนย์องุ่น(องุ่นสับปรุงรส)
กินแล้วฟินมาก ๆ ทั้งความกรอบมันเนยของขนมปังบริยอช
เข้ากันได้ดีมากกับฟัวกราส์เทอรีนและชัตเนย์องุ่น
รสชาติมาครบ เริ่มจาก เค็มมัน ตามด้วยเปรี้ยวหวานตอนปลาย
อร่อยมากมายอีก 1 จานเลยเมนูนี้ กินไปหลายชิ้นเลย



French Onion Soup 280++
ซุปยอดนิยม รสเข้มข้นตั้งแต่คำแรก เพราะเชฟใช้หอมใหญ่
และแรดิชนำไปผัดให้หอมขึ้นสีน้ำตาล ต้มรวมกับซุปไก่และ
ดิจองมัสตาร์ด ตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย ด้านบนวางด้วยขนมปังฝรั่งเศส
และชีสเอ็มเมนทอลที่นำมาแทนชีสกรูแยร์ตามปกติ

ให้รสชาติและสัมผัสเข้นข้นมากกว่าเดิม อร่อยมากกว่าเดิม
ใครชอบซุปหัวหอมแบบฝรั่งเศสนี้ ต้องไม่พลาดนะ



Burgundy Snails 390++
หอยทากจากแคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตหอยทากที่ดีที่สุด อบกับเนย
กระเทียม พารซ์ลี่(ผักชี)และเหล้าบาสติก ให้รสชาติ
ความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ของหอยทาก กินพร้อมกับขนมปัง


ด้วยการราดเครื่องอบทั้งหลายและน้ำมันเนยที่ละลาย
ลงบนขนมปัง ไม่ว่าจะเป็นบาร์แก็ตต์ หรือบริยอช
ก็อร่อยได้ สัมผัสได้ถึงรสชาติหอยทากและเครื่องอย่างเต็มที่



Linguines aux Champignons et beurre a la Truffle 280++
จานพาสต้ากลิ่นหอมไร้เทียมทานด้วยเนยทรัฟเฟิลสูตรพิเศษ
ของทางร้าน เชฟเลือกใช้เส้นลิงกวินี่ลวกแบบ Al Dente


ผัดกับน้ำมันมะกอก ใส่กระเทียม ผัดพร้อมเห็ดแชมปิญอง
และเห็ดป่าพอร์ชินีสับรวมกัน คลุกเคล้าให้เข้ากันกับเนยทรัฟเฟิล
เป็นพาสต้าที่หอมอร่อย และเหมาะกับคนกินมังสวิรัติอีกซะด้วย



Tartare de boeuf Wagyu D'Australie et huître 460++
ทาทาร์เนื้อออสเตรเลียนวากิวสับพร้อมกับหอยนางรมสด
เปิดประสบการณ์ใหม่อีก 1 จาน ที่นำเนื้อวัวดิบ
กับหอยนางรมสด มาปรุงให้เข้ากันได้อย่างอร่อยลงตัว



เชฟนำไปคลุกกับครีมหอมแดง ที่เป็นตัวผสานกันได้ดี
ทำให้มีมิติของจานเนื้อที่มีกลิ่นไอทะเลลงไปแบบไม่ขัดกัน
กินอร่อยมากทั้งสัมผัสของเนื้อที่ได้เคี้ยวนิด ๆ
รสชาติมัน ๆ ปนเปรี้ยวหน่อย ๆ เป็นจานที่กินสบาย ๆ
สำหรับคนชอบกินเนื้ออีก 1 จาน จนสามารถเลือกเป็น
อาหารจานหลักได้เลยล่ะ



Magret de Canard Poêlé 520++
จานนี้ตอนเสิร์ฟมา ถึงกับร้องว๊าว ยาว ๆ เลยล่ะครับ
กับปริมาณและวัตถุดิบที่เสิร์ฟมา กับ อกเป็ดเชอร์รี่
ชิ้นใหญ่มาก ปรุงเพียงเกลือและพริกไทยดำ
แล้วนำไปย่างกับกระทะให้พอสุกระดับมีเดียมแรร์

หั่นสไลด์มาพอดีคำ และที่สำคัญด้านบนวางด้วย
ฟัวกราส์-ตับห่าน ชิ้นใหญ่ที่ย่างกับกระทะมาอย่างดี
แต่ละคำที่กินเข้าไป ทั้งหนังเป็ดหนึบ เนื้อเป็ดนุ่มแน่น
หวานหอม ไร้กลิ่นสาบ และฟัวกราส์ที่นุ่มเนียน
ผสมผสานได้ความละมุนละไม โดยมีรสเค็มเกลืออ่อน ๆ
และความหอมของพริกไทยดำ กระชับรสชาติทุกอย่างเข้าด้วยกัน

จัดได้ว่าเป็นสุดยอดอาหารฝรั่งเศสอีก 1 จาน
ที่ราคาเรียกได้ว่าถูกมาก ๆ แถมด้วยการเสิร์ฟมาพร้อมกับ
มันฝรั่งบดที่เอาน้ำเกรวี่ของเป็ดมาราดกินด้วยกัน
อร่อยมาก ๆ และสลัดผักสดพร้อมเดรสซิ่งแบบฝรั่งเศสเบา ๆ
จัดได้ว่าเป็นจานหลักที่ขอแนะนำเลยจริงจังครับ
ยิ่งจิบไวน์แดงแกล้มไปด้วย ยิ่งมีความสุขสุด ๆ ครับ



Apple Tarte Tatin 220++
แอปเปิ้ลทาร์ต เป็นทาร์ตตาแต็งแบบอัพไซด์ดาวน์
เนื้อแอปเปิ้ลสไลด์บาง ๆ เป็นชั้น ๆ กับแป้งพัฟฟ์เพรสตรีบางเฉียบ
กินกับไอศกรีมชินนามอน สดชื่นกลมกลืนกันได้อย่างลงตัว

ไอศกรีมชินนามอนกลิ่นชัดเจนมาก ถ้าตักไม่บาลานซ์ให้ดี
อาจจะกลบกลิ่นแอปเปิ้ลทาร์ตได้เลยครับ แต่โดยรวมอร่อยเลย



Mousse Au Chocolat 180++
มูสช็อคโกแล็ต รสชาติมันเข้มข้น
กินคู่กับช็อคโกแล็ตครัมเบิลและครีมช็องตียี่

เพิ่มเนื้อสัมผัสของมูสได้อย่างเอร็ดอร่อยมาก ๆ



Nougat glacé sauce fruits rouges 200+
เนื้อมูสเย็น ๆ สดชื่นที่ด้านในมีความหอมและกรุบกรอบ
จากถั่วนานาชนิด ราดด้วยซอสเบอร์รี่เปรี้ยวตัดรสหวาน
ของนูกัต เกรซ ได้เป็นอย่างดี 

เป็นขนมหวานจานเด็ด
ที่ควรค่ากับการสั่ง เพราะทั้งสัมผัสนุ่มลื่น มาพร้อมกับรสชาติ
หวาน เปรี้ยว ลงตัวได้อย่างสดชื่น ปิดท้ายมื้อได้ดีเยี่ยม



สำหรับเครื่องดื่มแนะนำ กับ Cocktail รสเยี่ยม

With Love from Monet 350++ 
ค็อกเทลรสเข้มที่ใช้เหล้าวิสกี้เป็นส่วนผสมหลัก
ดัดแปลงจากเนโกรนียอดนิยม เสิร์ฟในกระป๋องเหล็กแบบพกพา
พร้อมพู่กันและแยมเลมอนมะนาวโฮมเมด

เวลาดื่มแนะนำให้ลองรสค็อกเทลฉบับดั้งเดิมก่อน
แล้วค่อยลองหยิบพู่กันจุ่มแยมป้ายบนปากแก้วแล้วจิบชิม
จะได้รสชาติแปลกใหม่แบบมีลูกเล่น
คล้ายผลงานของโมเนต์ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เคยหน่ายเลย



Moulin Sour 390++
เมนูที่ได้รับการดัดแปลงจาก New York Sour
บาร์เทนเดอร์จะนำแก้วไปรมควันไม้เชอร์รี่ก่อน
จากนั้นจะเตรียมค็อกเทลที่เบสด้วยสก็อตช์วิสกี้ที่ร้านเบลนด์เอง

พร้อมผสมพอร์ตไวน์ ตามด้วยเห็ดทรัฟเฟิลเพื่อเพิ่มกลิ่น
ทำให้ค็อกเทลแก้วนี้มีกลิ่นที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น
กลิ่นของตัวเห็ดทรัฟเฟิลเอง หรือกลิ่นวิสกี้ และควันไม้
ให้ได้สัมผัสอย่างลึกซึ้ง



อยู่ใจกลางย่านท่องเที่ยวเส้นสุขุมวิท
พิกัด ซอยสุขุมวิท 11 เปิดบริการทุกวัน
ระหว่าง 18.00 น. - 24.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 23.00 น.)
สนใจสำรองโต๊ะหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 094 970 8599



#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto #foodblog
#foodblogger #foodreview #food #blogger
#thaiblogger #foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#BrasserieCordonnier #French
#Classic #Traditional #Brasserie

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น