รีวิวนี้ จัดเต็มกันอีกเช่นเคยครับ กับบุฟเฟ่ต์เด็ดดวง
ประจำมื้อสายวันอาทิตย์ Sunday Brunch ราคา 2,400 บาท net
และมีโปรโมชั่น ไป 4 ท่าน จ่ายเพียง 2 ท่านด้วยครับ
จัดเต็มแบบครบครัน Full Options กันเลยทีเดียว
ทั้งอาหารทะเล, อาหารยุโรป, อาหารไทย, อาหารจีน,
อาหารญี่ปุ่น, อาหารนานาชาติ, B.B.Q./Carving Station,
ของหวานไทยและเทศ และเครื่องดื่มนานาชนิด
โดยเฉพาะกับเมนูไฮไลท์ประจำเดือนนี้ ก็คือ
รวมทะเลหม้อไฟ - Seafood Hotpot
และจะมีเพียงแค่เดือนพฤษภาคม-เดือนมิถุนายน 2015 เท่านั้น
ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เดี๋ยวเราตามมาดูกันครับ
กับห้องอาหารเอเทรี่ยม โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ
ATRIUM, The Landmark Bangkok Hotel.
ห้องอาหารเอเทรี่ยม ตั้งอยู่บนชั้น L (ล็อบบี้)
ของโรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ
ระหว่าง ซอยสุขุมวิท 4 และ 6 ครับ
การเดินทางสะดวกสบายทั้งทางรถส่วนตัว
และขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง
หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีนานา) โดยช่วงเปิดห้องอาหาร
เชฟรูปหล่อจะมายืนคอยทักทายกันด้วยเลยล่ะครับ
เฟรนด์ลี่มาก ๆ
ในมื้อ Brunch นั้น ห้องอาหารเอเทรี่ยม ให้บริการ
ทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยเริ่มเวลา 11.45 น.
ยาวไปจนถึงเวลา 15.00 น. กันเลยครับ
เรียกว่านั่งทาน นั่งดื่มกันได้ยาว ๆ
ซึ่งในราคา 2,400 บาท net นั้น จะรวมซอฟท์ดริ้งค์
น้ำผลไม้ และชา กาแฟ ไว้แล้วด้วยครับ
แต่ถ้าชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น
ไวน์ขาว ไวน์แดง สปาร์คกิ้งไวน์ เบียร์(ในประเทศ)
รวมถึงค็อกเทลต่าง ๆ อีกกว่า 10 ชนิด
ก็สามารถเลือกเพิ่ม Free Flow ในราคา 899++ บาท
เพิ่มเติมได้อีกครับ คุ้มมาก ๆ ครับ
ห้องอาหารเอเทรี่ยม นั้นสามารถรองรับแขกที่มาใช้บริการ
ได้มากถึง 150 ที่นั่ง ลักษณะห้องเป็นรูปตัว L เพดานสูง
ทำให้ไม่อึดอัด การจัดวางไลน์อาหาร ก็ทำให้เดินได้ไหลลื่น
มุมอาหารต่าง ๆ ก็จัดเรียงได้อย่างลงตัว และโดยเฉพาะในมื้อ Brunch นั้น
จะจัดยาวไปถึง Rendezvous Bar เพื่อลงเครื่องดื่มและของหวาน
เพิ่มเติมกันเลยล่ะครับ เพราะอาหารจะเยอะมาก ๆ จนเรียงราย
ไว้ในห้องอาหารเอเทรี่ยมห้องเดียวไม่พอ ลองมาชมบรรยากาศ
และไลน์อาหารกันได้เลยครับ
หลังจากดูไลน์อาหารซะจนตาลายแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเลือกแล้วล่ะครับ
ว่าจะทานอะไรบ้างดี เลือกเอาที่ชอบเป็นพิเศษมาลองครับ
เพราะถ้าจะลองทุกอย่าง เวลา 3 ชั่วโมงและกระเพาะอาหารของผม
คงจะไม่เพียงพออย่างแน่นอนครับ 555
ผมเลยกระซิบบอกเชฟ/ห้องอาหาร ว่าช่วยจัดที่เป็นไฮไลท์
เด็ด ๆ ที่ไม่ควรพลาดมาให้สัก 6-7 จาน
เพราะถ้าผมไปตักเอง คงต้องตักทุกอย่างมาจริง ๆ
รักพี่เสียดายน้องนะครับ
เลยได้ออกมาเป็นดังนี้ครับ
Seafood HotPot หม้อไฟรวมมิตรทะเล
จัดเต็มทั้งปูอลาสก้า ปูทะเล กุ้ง หอยแมงภู่
ในน้ำซุปล็อบสเตอร์ กระเทียม มะเขือเทศและพริกหวาน
รสซุปเข้มข้น แต่เบาสบาย ซดได้คล่องคอ
ส่วนซีฟู๊ดทุกตัวนั้น เด็ด สด ไร้ที่ติครับ ... จัดไป 2 หม้อ
ถัดมาเป็น B.B.Q. Seafood กุ้ง หอยเชลล์ ปลาหมึก
สดมาก เสียบไม้ทำ B.B.Q. ได้รสกำลังดี
ทานเปล่า ๆ หรือจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด แล้วจิบไวน์ขาวตามก็เลิศเลย
อีกจานที่เด่นและเด็ด ปูอลาสก้า King Crab เนื้อหวานฉ่ำ
แกะง่าย จะให้นึ่งใหม่ทานร้อน หรือจะทานแบบออนไอซ์เย็น ๆ ก็ดี
แกล้มด้วยไวน์ขาวเช่นกัน
ตามด้วย Seafood on Ice ทั้งหอยนางรม
หอยแมลงภู่ หอยลาย หอยหวาน กุ้ง
ซึ่งสดมาก ๆ อร่อยมาก ๆ
และ Cold Cut ต่าง ๆ ครับ
รสชาติดีครับ ไม่ว่าจะเป็นแฮมชนิดต่าง ๆ และปลาแซลมอนรมควัน
ลองอาหารจีนบ้างครับ ทางห้องอาหารมีแป้งไว้ห่อเป็ดย่าง
ไว้ทานแบบเป็ดปักกิ่ง ก็แปลกแต่อร่อยดีครับ
ขนมจีบกุ้ง ก็หอมอร่อย เนื้อกุ้งเต็มคำ
ส่วนหมูกรอบนั้น กำลังดี หนังกรอบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำชั้นไขมัน
ก้าวสู่วิถีอาหารญี่ปุ่นกันบ้างครับ กับรวม ซาซิมิ ซูชิ และเทมปุระ
ชนิดปลามาตรฐานทั่วไป ทั้งแซลมอนลายสวย ๆ หวาน ๆ,
ทูน่า(มากุโร่ส่วนเนื้อแดง), ปลากะพงทะเล และปูอัด
นอกจากนี้ยังมีซุปมิโซะอีกด้วยครับ
ไวน์ขาวเย็น ๆ ชื่นใจ ก่อนไปอาหารหนัก ๆ ฝั่งยุโรปกันครับ
ข้ามฝั่งมาทางอาหารตะวันตกกันบ้างแล้วครับ
จานเนื้อ ๆ เนื้อ ๆ จานแรกจาก Carving Station
กับขาแกะอบ ราดน้ำเกรวี่เล็กน้อย ทานคู่กับมิ้นท์ซอส
อร่อยมาก นุ่มมาก เนื้อแกะกลิ่นดี ทานได้ไม่เบื่อเลย
ถัดมาเป็นเนื้ออบครับ ฉ่ำ แดงอมชมพู สวยงาม
เนื้อหวาน ๆ จะราดซอสเห็ด หรือ ซอสพริกไทยดำ
ก็ได้รสชาติดีที่แตกต่างกันอย่างลงตัว
จะจับคู่กับไวน์แดง หรือ เบียร์ ก็เหมาะสมอย่างยิ่งยวด
ตักมาหลายรอบเลยครับ สำหรับเนื้อวัวและเนื้อแกะ
ดื่มไวน์แดงตาม ๆ ลื่น ๆ คอเลยครับ
ถัดมากับสิ่งที่ผมไม่เคยพลาด ถ้ามีในไลน์
นั่นก็คือ ตับห่าน Foiegras นั่นเองครับ
ที่ห้องอาหารเอเทรี่ยม เป็นอีก 1 ห้องอาหาร
ที่ทำและปรุงออกมาได้ขนาดกำลังดี ความสุกกำลังดี
ผิวนอกกรอบ ๆ นิด ๆ แต่ด้านในชุ่มฉ่ำพอดีเป็นครีมมี่อร่อยครับ
ซอสผลไม้ที่ราดก็สดชื่นด้วยมะม่วง แอปเปิ้ล เติมกันหลายรอบเช่นเคย
ไวน์แดงมี 2 ฉลากให้เลือกครับ
ตัวนี้จะ dry กลิ่นน้อยไปหน่อย ดื่มยากนิดหน่อยครับ
ส่วนตัวนี้กลิ่นหอม ชวมดม ชุ่มฉ่ำกว่าและดื่มง่ายกว่า
ลองสปาเก็ตตี้กันบ้างครับ เส้นหมึกผัดเบคอนพริกแห้ง
รสแจ่ม สดชื่น ตัดเลี่ยนอาหารได้ดีเลยครับ
เพนเน่คาโบนารา รสชาติดีครับ แต่ยังไม่ถึงใจ
ไส้กรอกหมู เนื้อสับหยาบ ๆ เคี้ยวเพลินเข้ากับซอส
กลับสู่มาตุภูมิครับ กับอาหารไทย ๆ ขนมจีนซาวน้ำ
ทำรสมืออาหารไทยได้เยี่ยมเลยล่ะครับ ครบรสมาก ๆ
มีซุ้มส้มตำและอาหารไทยอื่น ๆ อีกเยอะ
แต่ลองไม่ไหวแล้วครับ รวมถึงก๋วยเตี๋ยวด้วย
จานนี้เเป็นกั้งกระดานนึ่งมะนาว เด็ดอีกแล้วครับ
เริ่มอิ่มของคาวแล้ว เลยสั่งค็อกเทลสัก 2 แก้ว
มาลองลิ้มชิมรส ก่อนไปทานของหวานกันต่อสักเล็กน้อยครับ
บลูฮาวาย กับ มาการิตต้า รสชาติดี สดชื่นทั้ง 2 แก้ว
แต่มาการิตต้า แตะเกลือรอบปากแก้วเยอะไปนิดนึงครับ
ของหวานที่ได้ลองนั้น มีไม่มากแล้วครับ เพราะกว่าจะไปตัก
ก็เกือบจะเก็บไลน์อาหารแล้วครับ
ได้ลองข้าวเหนียวมะม่วง ปลาแห้ง กุ้ง และมะพร้าว
ขอบอกเลยว่าข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ นั้นอร่อยจริง ๆ
ส่วนมะม่วงก็แล้วแต่ลูกล่ะครับ หวานบ้าง เปรี้ยวบ้าง
แต่ก็เข้ากับข้าวเหนียวมูนได้ดีครับ
ชีสเค้กผ่านมาตรฐาน เนื้อชีสเนียน เนื้อเค้กเบา ๆ
ครีมบูเล่ หอม ๆ หวาน ๆ ทานง่ายครับ
ขอตบท้ายหลังเก็บไลน์อาหารตอน 15.00 น. ด้วยกาแฟดำ
ตามสเต็ป เป็นอันจบมื้อครับ
มื้อ Brunch อันแสนวิเศษอีกแห่งที่แนะนำให้ไปลอง
ถ้าหากใครไม่เคยลองทานห้องอาหารเอเทรี่ยมแล้วล่ะก็
รับรองจะจุใจ ถูกใจ กับสารพัดอาหารนานาชนิดครับ
และถ้าหากจัดหาสมาชิกได้ครบ 4 คนด้วยจะยิ่งดี
จะได้ใช้โปรโมชั่น มา 4 ท่าน จ่าย 2 ท่าน ซึ่งจะเหลือราคาเพียง
ท่านละ 1,200 บาท net เท่านั้นเองครับ
ขอให้มีความสุขกับการรับประทานอาหารนะครับ
สนใจติดต่อสอบถามและจองที่นั่งได้ที่
Tel : 0-2252-4222
http://www.landmarkbangkok.com/atrium
http://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok
E-mail : fb@landmarkbangkok.com
Tel : 0-2252-4222
http://www.landmarkbangkok.com/atrium
http://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok
E-mail : fb@landmarkbangkok.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น