รีวิวนี้ พาไปทานอาหารไทย-อีสาน รสเด็ด เผ็ดแซ่บซ่า
เต็มไปด้วยบรรดาวัตถุดิบ OTOP ชั้นดีจากทั่วประเทศกันครับ
กับร้าน ตำแซ่บ ตำซ่า ซึ่งตั้งอยู่ที่ปากซอยอุดมสุข 50
(สุขุมวิท 103 มุ่งหน้าไปยัง ถ.ศรีนครินทร์ อยู่ขวามือ)
เป็นร้านห้องปรับอากาศ 2 คูหา รองรับลูกค้าได้ประมาณ 50-70 ท่าน
*หากขับรถมาจะมีเวลาจอดและห้ามจอดที่ริมถนน 2 ฝั่งนะครับ
แนะนำว่าควรจะเข้าไปจอดตามซอยต่าง ๆ เพื่อปลอดภัยจากใบสั่งครับ*
นอกจากทีเด็ดของร้านที่มาจากความอร่อยแซ่บซ่าและวัตถุดิบชั้นดีแล้ว
ทางร้านยังมีเบียร์วุ้นไว้บริการนักดื่ม รวมถึงเบียร์นอกอย่าง Hoegaarden
ไว้ให้ได้เพลิดเพลินคู่กับอาหารรสจัดจ้านกันอีกด้วย
ร้านตำแซ่บ ตำซ่า นั้น เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของผู้บริหาร
และผู้จัดการของ บริษัท 3K แบตเตอรี่ จำกัด ที่ได้จัด Road Show
ผลิตภัณฑ์ไปทั่วประเทศ ทำให้ได้ลองชิมอาหารจากแต่ละพื้นที่
ผลิตภัณฑ์ไปทั่วประเทศ ทำให้ได้ลองชิมอาหารจากแต่ละพื้นที่
ที่เป็นทีเด็ด ประกอบกับมีที่ว่างที่ปากซอยอุดมสุข 50 แห่งนี้
เลยจัดการปรับปรุง ต่อเติม ให้กลายเป็นร้านตำแซ่บ ตำซ่า
เพื่อเปิดให้บริการอาหารไทย-อีสาน รสชาติดีเด็ดขึ้นมาครับ
อาหารจานหลักของร้านตำแซ่บ ตำซ่า ที่เป็นที่ยอดนิยม
และเท่าที่ผมได้ลองชิมแล้วนั้น ก็อร่อยและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะแต่ละจาน แต่ละวัตถุดิบนั้น ใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบจริง ๆ ครับ
เริ่มจาก จานส้มตำ ครกแรกนี้คือ ตำซ่า(เผ็ดตายไม่เอาเรื่อง) 65 บาท
เหมาะสำหรับคนที่ชอบกินเผ็ดและปลาร้าครับ
เป็นตำมะละกอผสมแครอท รสชาติเผ็ดนำ หอมปลาร้านัว ๆ
มีเมล็ดกระถินสดมาทานคั่วกันให้มัน ๆ เพิ่มขึ้นไปอีก
ก็ต้องบอกว่า เด็ด แซ่บซ่า สมชื่อร้านเลยครับ
ครกต่อมา ตำไทย ไข่เค็ม 65 บาท
ส้มตำของร้านตำแซ่บ ตำซ่า นั้น จะใช้มะละกอผสมแครอท
เพื่อสีสันที่สวยงาม จานนี้ เป็นตำไทย ใส่กุ้งแห้งอย่างดี
และที่ดีที่สุดก็คือ ไข่เค็ม ที่เฟ้นหานำมาจากแหล่งที่อร่อยที่สุด
เนื้อไข่ขาวไม่เค็มจนทำให้ส้มตำเสียรสชาติ ส่วนไข่แดง
ก็มัน อร่อย เข้ากันได้ดีทีเดียวครับ
ครกต่อมา ตำไทยโบราณ 75 บาท
หลาย ๆ ท่านที่ไม่ใช่คอส้มตำ อาจจะงงว่าครกนี้คืออะไร
จะเป็นตำมะละกอและแครอทพร้อมกับถั่วลิสงคั่วแล้ว
แบบละเอียด ลักษณะรสชาติคล้ายตำไทยทั่วไป
แต่ได้ถั่วที่ละเอียดมาจับให้รสชาติเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
ยิ่งทานยิ่งมันไปกับถั่วลิสงกันเลยครับ
ครกต่อมา ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าถาด เพราะคือ ตำถาด 165 บาท
เป็นจานส้มตำที่เลือกรสชาติ ชนิดของส้มตำได้ครับ
จะมาพร้อมกับเครื่องเคียง เช่น ผักต่าง ๆ แคปหมู หมูยอ ไข่ต้ม
มากันแบบเต็มถาด ซึ่งเครื่องเคียงเหล่านี้นั้นก็ได้มาจากของดี
ในแต่ละจังหวัดครับ
เบรกความเผ็ด แซ่บซ่า ด้วยเมนูถัดมากันดีกว่าครับ
กับ ไก่ย่างปักธงชัย มีให้เลือกสั่งทั้งแบบครึ่งตัว 150 บาท
หรือจะเลือกทั้งตัว ในราคาเพียง 260 บาท ก็คุ้มค่าความอร่อย
เพราะไก่ย่างปักธงชัยนี้ เป็นไก่บ้าน หอมเครื่องเทศที่หมัก ย่างหนังได้กรอบ
แต่เนื้อยังมีความชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งติดกระดูกเหมือนไก่ย่างตระกูลอื่น ๆ ครับ
แก้เผ็ดได้อย่างดีเลยครับ และยิ่งถ้าเคี้ยวพร้อมกับหอมเจียวที่โรยมาด้วย
ยิ่งเข้ากันได้ อร่อยขึ้นอีกขั้นเลยครับ แต่ถ้าใครยังไม่อยากหยุดเผ็ด
ก็จิ้มแจ่วข้น ๆ รสเด็ดได้ต่อเนื่องกันอีกนะครับ
ผมขอตามด้วยเบียร์วุ้น 85 บาท/ขวด
จากตู้แช่เบียร์วุ้นโดยเฉพาะ นำมาใส่ในคูลเลอร์อีกชั้น
รินใส่แก้วที่แช่เย็น เบียร์จะจับตัวกันจนฟองกลายเป็นวุ้นเกล็ดหิมะ
จัดการดื่มแบบเย็น ๆ แบบนี้ไม่ต้องรอให้ละลาย จะได้ความสดชื่น
ไปเต็ม ๆ แต่ต้องระวังหากดื่มเร็วไปจะเย็นจนขึ้นสมองได้ครับ
ต่อกันที่ คอหมูย่าง 70 บาท
เนื้อหมูส่วนคอหมูหมักมาอย่างดี รสชาติหวานน้ำผึ้งนำ หอมงาขาว
ย่างออกมาสีสวยงาม น่ากิน กินแล้วก็กินอีกแบบหยุดไม่อยู่เลยครับ
ทีเด็ดจานปลา ต้องยกให้ เมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ 280 บาท
ที่จะมาพร้อมกับชุดผักห่อและเส้นขนมจีน กับน้ำจิ้มรสชาติอร่อย
ทั้งแบบเผ็ดและแบบหวาน จะจิ้มเดี่ยว ๆ หรือผสมกันก็อร่อย
ปลาสด ไม่มีกลิ่นเหม็น ระดับความสุก บอกได้คำเดียวว่า เยี่ยม
หรือหากไม่อยากทานเป็นเมี่ยงปลา
จะสั่งเฉพาะปลาทับทิมเผาเกลือ 250 บาท ก็ย่อมได้ครับ
และจานปลาอีกจานที่อร่อยไม่แพ้กัน คือ ปลาทับทิมทอดน้ำปลา 280 บาท
ทอดปลามาได้กรอบนอก นุ่มใน เนื้อขาว ๆ ด้านในยังชุ่มฉ่ำ
น้ำปลาปรุงรสที่ราดมาก็หอมอร่อย เพราะใช้น้ำปลาชั้นดีจากระยอง
ปรุงผสมแบบกลมกล่อมเข้มข้นดีเลยครับ ทานพร้อมกับน้ำยำรสเปรี้ยวเผ็ด เด็ดมากครับ
กินของลดเผ็ดกันพอสมควรแล้ว ก็หันกลับมากินของเผ็ดกันต่อครับ
กับ ซุปหน่อไม้ 60 บาท เป็นซุปหน่อไม้ที่ผมกินแล้วรู้สึกอร่อยที่สุด
เท่าที่ผมเคยกินมาครับ รสชาติแซ่บ ๆ นัว ๆ กันอย่างลงตัว
หน่อไม้ก็ใช้ของคุณภาพดี หอม อร่อย ทานเพลินมาก ๆ เลยครับ
ตับหวาน 80 บาท ตับลวกสุกแต่ไม่แห้ง แป้งไม่ติดลิ้น
กินได้อร่อย จนแทบหยุดไม่ได้ เพราะน้ำลาบน้ำลาด
ก็อร่อยเข้าขั้นกินคนเดียวหมดจานได้ครับ
ยำมะม่วงปลากรอบ 65 บาท ก็เป็นอีกเมนูนึงที่น่าสนใจ และน่าลอง
พอได้ลองแล้วก็อยากจะแนะนำต่อ เพราะมะม่วงก็ใช้ของดี
ปลากรอบก็เยี่ยมยอด ปรุงรสน้ำยำอร่อยอีกด้วยครับ
และถ้าหากใครมองหา เมนูน้ำ ๆ ไว้ซดแซ่บ ๆ อยากจะขอแนะนำ
ต้มซุปเปอร์แซ่บซ่า 100 บาท ซึ่งเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟเลย
เป็นต้มซุปเปอร์ตีนไก่ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
เพราะใช้ตีนไก่นำไปทอดผ่านน้ำมันให้หนังพองก่อนที่จะนำไปตุ๋นยาจีน
แนวสีน้ำพะโล้ แล้วนำมาปรุงเป็นต้มซุปเปอร์ให้ได้รสชาติแซ่บซ่าถึงทรวง
หรือจะเลือกเป็น ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน 90 บาท
ที่มาเป็นหม้อไฟเช่นกัน เป็นกระดูกหมูที่ติดปลายกระดูกอ่อน
ได้รสชาติของกระดูกหมูดี เคี้ยวกระดูกอ่อนกรุบ ๆ พร้อมซดน้ำต้มแซ่บตาม
เพลิดเพลินดีจริง ๆ ครับ
นอกจากเครื่องดื่มจะมีเบียร์หิมะแล้วนั้น ก็ยังมีเบียร์นอกอย่าง
Hoegaarden 159 บาท/ขวด มีทั้งแบบ original และ rose ให้เลือกเลยครับ
หากยังไม่หายเผ็ดจากความแซ่บซ่า ก็ต้องตามด้วยของหวานครับ
เมนูนี้ เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน 35 บาท
จัดได้ว่าเป็นเต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อนที่อร่อยมาก ๆ เลยครับ
เอาจริง ๆ หลังจากที่ได้ชิมแล้ว ผมคิดว่าตัวผมถ้าซ้ำเมนูนี้
คงจะได้เกิน 5 ถ้วยขึ้นไปเลยล่ะครับ
ส่วนถ้วยนี้เป็น สละลอยแก้ว 35 บาท เหมาะสำหรับสายผลไม้ครับ
เย็น ๆ หวาน ๆ เปรี้ยวหอมสละอร่อยดีครับ
จัดคาวจัดหวานครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ
ทั้งหน้าตาอาหารแต่ละเมนูที่นำมาให้ได้ชมกัน รวมถึงราคา
ที่เป็นมิตร นั่งสบาย ๆ ในห้องแอร์ น่าจะทำให้ร้านตำแซ่บ ตำซ่า
เป็นร้านอาหารไทย-อีสาน ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา ที่น่ามาอุดหนุนเป็นอย่างยิ่ง
และแน่นอน สำหรับตัวผมเอง คงจะได้ไปซ้ำอีกในเร็ว ๆ นี้แน่ ๆ ครับ
สนใจสำรองที่ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร.098-848-3332
เวลาเปิด-ปิด 11:00-22:00 น.
ขอให้อาหารไทยไปไกลสู่อาหารโลก ด้วยความอร่อยแบบแซ่บถึงใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น