พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

OpenRice Party 41 RIBROOMandBAR + ATRIUM

ก่อนเริ่มรีวิวแรกของปีนี้ ปีใหม่ 2559 ขอให้ทุกคนมีความสุข
อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า สุขภาพแข็งแรง มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือนะครับ

รีวิวแรกของปีนี้ ขอเริ่มด้วยกิจกรรมดี ๆ ส่งท้ายปีเก่า
ที่จัดโดย Openrice Thailand กับงานปาร์ตี้ครั้งที่ 41
โดยครั้งนี้นั้น ผมได้รับเชิญไปในฐานะของ Blogger ครับ
ทางทีมงานแสนน่ารักของ Openrice Thailand ได้จับมือ
กับ The Landmark Bangkok Hotel เปิดห้อง RR&B Bar
ให้ทางเพื่อนสมาชิกผู้โชคดีและ Blogger ได้ทดลองทำ
Cocktail และ Mocktail เพื่อใช้ในงานฉลองปีใหม่อย่างง่าย
และยังพาไปตบท้ายด้วย dinner ห้องอาหาร Atrium ในธีม
อาหารทะเลและอาหารญี่ปุ่น กันอย่างสนุกสนาน อิ่มหนำสำราญ
กันอีกด้วย เป็นการปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทาง
Openrice Thailand ที่แสนประทับใจให้กับสมาชิกอีกด้วยครับ



เริ่มต้นกันกับกิจกรรมแรก ณ RR&B Bar ที่เป็นส่วน Bar เครื่องดื่ม
ของห้องอาหาร Rib Room and Bar ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องสเต็ก
(แอบอยากจะมาลองรีวิวดูเหมือนกันนะนี่ วิวสวยด้วยล่ะ)
ที่ได้ทดลองจับกลุ่มกันทำ Cocktail และ Mocktail
ตามสูตร และตามที่บาร์เทนดี้สอนกันครับ สนุกสนานเฮฮากันอย่างมากมาย



โดยเครื่องดื่ม D.I.Y. ที่จะได้ลองทำนั้น เป็น Cocktail มีชื่อว่า Mintly Melon Cocktail
ส่วน Mocktail นั้นมีชื่อว่า Cherry Ray Mocktail ครับ


แต่ก่อนอื่นทางโรงแรมแลนด์มาร์ค The Landmark Bangkok
โดย Mr.Johannes Kern ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม
ได้มาเป็นตัวแทนกล่าวเปิดงานเล็กน้อย พร้อมกับแนะนำบาร์เทนดี้
ที่จะมาเป็นผู้สอนทำเครื่องดื่มอันแสนสนุกสนานกันครับ


แก้วแรกนี้ เป็น Mintly Melon Cocktail เป็นส่วนผสมของแตงโมสด,
Midori กลิ่น Melon, Ketel One, ใบสาระแหน่, น้ำเชื่อมและท็อปด้วยโซดา
ส่วนผสมแต่ละอย่างต้องพอดี ไม่งั้นรสชาติออกมาจะไม่อร่อยนะครับ ไม่ง่าย ๆ


เพื่อนสมาชิก Openrice รุ่มถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนานกับแก้วฝีมือบาร์เทนดี้
ก่อนที่จะต้องไปลองทำเอง อย่างสนุกมือกัน


Mintly Melon Cocktail


และแก้วที่ 2 กับ Cherry Ray Mocktail 
ที่เป็นส่วนผสมของ น้ำเชอร์รี่ น้ำแครนเบอร์รี่ น้ำเลมอน(มะนาวฝรั่ง)
น้ำตาลทรายและจินเจอเอลล์ สำหรับคนที่ไม่ถนัดแอลกอฮอล์
ก็จัดตัวนี้ไปได้เลยครับ


สีสันแดงสดใส ตัดกับเลมอนที่ประดับไว้ขอบแก้ว


เอ้า ดื่มครับ ฉลองกันส่งท้ายปีเก่าครับ เฮ


ส่วนที่เป็น Bar นี้นั้น ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นด้วยโลหะทองแดงขัดเงา
และระบบไฟที่จะคอยเปลี่ยนสีสันยามค่ำคืนให้ได้เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นไวน์ วิสกี้ บรั่นดี ค็อกเทล ม็อคเทล เคล้าคลอกันกับเสียงเพลงอันไพเราะ
แุถมยังมี "ซิการ์" ไว้บริการสำหรับคนที่ชอบอมควันอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด : 17.30-24.00 น. รองรับได้ 50 ที่นั่ง


จบกิจกรรมนี้ ก็ต้องลงไปต่อกับ Dinner แต่ขอเก็บบรรยากาศห้องอาหาร
Rib Room and Bar มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันสักนิด กับวิวทิวทัศน์ Rooftop
ชั้น 31 ชั้นบนสุดของโรงแรมกันครับ


ห้องอาหาร Rib Room and Bar เป็นห้องอาหารแนว Steak House
ให้บริการ Steak และไวน์ เป็นหลัก รวมถึงอาหารแนวตะวันตก
ตกแต่งห้องอาหารด้วยโทนสีแดงเฟอร์รารี่ สะดุดตา


สามารถกินสเต็กไป ดื่มไวน์ไป พร้อมกับมองวิวทิวทัศน์ยามพระอาทิตย์ตก
และยามราตรีของกรุงเทพได้อย่างจุใจอีกแห่งหนึ่งเลยครับ


ห้องอาหารจุได้ 64 ที่นั่ง (รวมห้องส่วนตัว 1 ห้อง)
เปิดให้บริการ เฉพาะมื้อค่ำ วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 18.00-23.00 น.
วันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 18.00-23.30 น.


ระหว่างเดินทางจากชั้นบนสุดลงมายังชั้นล่างสุดเพื่อมาห้องอาหาร Atrium
ก็จะพบกับการตกแต่งต้นคริสมาสต์สวยงามหลายจุด


มีป้ายโฆษณา โปรโมท อยู่ตลอดทาง ทำให้เราไม่พลาดข่าวสารดี ๆ



บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมก็ อลังการด้วยการประดับประดาไฟอย่างสวยงามเช่นกัน








ก้าวเข้าสู่ห้องหาร Atrium อาหารมุมแรกที่จะพบก็คือไฮไลท์ของวันเลยครับ
โดยที่วันนั้นจะเป็น ธีม อาหารทะเล จัดเต็มกันตั้งแต่ ปูอลาสก้า ปูม้า
หอยนางรมสด ปลาหมีก กุ้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยแมลงภู่ดำ
น้ำจิ้มซีฟู๊ดและเครื่องปรุงก็ครบครัน








ถ้านับซีฟู๊ดเป็นพระเอกของงานแล้วล่ะก็ ถัดมาก็เป็นนางเอกของงานครับ
กับมุมอาหารญี่ปุ่น ไลน์อาหารมีทั้งปลาดิบชิ้นโต โดยเฉพาะแซลมอนที่ลายสวย
ซูชิหน้าต่าง ๆ เทมปุระ หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วและมิโซะซุป ของดีมีคุณภาพ


มุมนี้ก็มีไวน์ไว้บริการ (ค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากบุฟเฟ่ต์)




ถัดมาเป็นมุมบาร์บีคิวสเตชั่น มีสะเต๊ะหมู ไก่ แล้วก็ท้องปลาแซลมอน
กุ้งและหอยเชลล์รอให้เลือกทำบาร์บีคิวตามชอบครับ


มุมพาสต้า มีซอส 3 แบบ โบโลญเนส มะเขือเทศและคาโบนาร่า
เส้นก็มี 3 แบบ เฟตตูชินี่ สปาเกตตี้ และสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำ
แต่จะสั่งแบบผัดพริกกระเทียมก็ยังได้ด้วยครับ



มุม Carving มีทั้งเนื้ออบ ไก่อบ(ย่าง) และขาหมู(แฮมอบน้ำผึ้ง)
เด็ดไม่แพ้มุมอื่นเหมือนกันครับ


หอยแมลงภู่ดำอบ และมุมก๋วยเตี๋ยว


อาหารไทยห้องอาหาร Atrium ก็ขึ้นชื่อครับ ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยา


ข้าวกับแกงเขียวหวาน





ลาบ แกง สาระพัดยำ มากันให้ครบ แบบรสชาติดีซะด้วย


มุมชีส แครกเกอร์และผลไม้อบแห้ง


มุม Cold Cut ทั้งแซลมอนรมควัน และแฮมนานาชนิด กับเครื่องเคียงเพียบ




อาหารฝรั่งปรุงสำเร็จเบา ๆ ก็มีให้เลือกครับ


แซลมอนรมควัน ยังไม่ทิ้งลาย ยังเก็บลายที่สวยงามไว้อีกด้วย


มุมสลัดผักสด ๆ


แกงหมู ใช้ส่วนน่อง/ขา นุ่ม ๆ ส่วนไก่ย่างนั้นผัดกับพริกระฆังสาระพัดสี



ซุปแบบไทยกับต้มแซ่บ และซุปแบบฝรั่งกับซุปฟักทอง


ใครที่ชอบคาร์โบไฮเดรต ขนมปังก็มีเพียบ


มาถึงไลน์ผลไม้


ไลน์ของหวานทั้งไทยและเทศ






สารพัดเค้กและขนมฝรั่ง ให้เลือกมากมาย เป็นอันจบไลน์อาหารครับ
แล้วจะลองชิมกันแล้วครับ และเนื่องจากผมเคยมาทานครั้งนึง
ตอนวันอาทิตย์ เป็นมื้อซันเดย์บรั้นช์ อาหารบางอย่างจึงเคยลองแล้ว
และรอบนี้จะได้เปรียบเทียบกันดู สำหรับคุณภาพ รสชาติ ว่าเป็นยังไง
ดูได้ในลิงค์นี้ครับ สำหรับ Sunday Brunch





ชุดแรกกับอาหารญี่ปุ่น มาตรฐานดี ไม่ตกหล่น คุณภาพดีสมกับทีทำเป็นธีม








ซีฟู๊ดก็อร่อย สดไม่มีที่ติ เช่นกัน น้ำจิ้มก็รสชาติกำลังกลมกล่อมไม่เผ็ดโดด
ไม่หวานเจี๊ยว ไม่เปรี้ยวปรี๊ดแต่อย่างใด คุณภาพ รสชาติสมทำเป็นธีมครับ



เนื้ออบ ผมขอให้เชฟไปนาบกระทะเล็กน้อย เพื่อเพิ่มสัมผัสและความหอม
ของเนื้อให้มากยิ่งขึ้น กินกับซอสเห็ดและพริกไทยดำ ยิ่งเด่นทั้งรสและกลิ่น
โดยที่เนื้อนั้นก็ยังนุ่มชุ่มฉ่ำอยู่ครับ



บาร์บีคิวแซลมอน กุ้งและหอยเชลล์ ของสดได้มาตรฐาน
และ สะเต๊ะ รสชาติดี หมูและไก่นุ่มหอม



ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ต้องลองจะติดใจ



แฮมอบน้ำผึ้งหอมหวานอร่อย ไก่อบ(่ย่าง)ก็หอมสมุนไพรเนื้อไก่นุ่ม
ในส่วนของอาหารไทยนั้น เชื่อมือครับ เคยลองตอน ซันเดย์บรั้นช์แล้วเด็ดจริง ๆ
วันนี้เลยไม่ได้ตักมาลองครับ เลยไปเข้าของหวานเลยครับ





ของหวานผมตักมากิน 4 อย่าง ที่อยากกิน
มี ทีรามิสุ ช็อกโกแล็ตทรัฟเฟิลเค้ก เอแครล์ และสตอเบอร์รี่พานาค็อตต้า
อร่อยทุกอย่าง ให้ผ่านทุกชิ้นครับ


ปิดท้ายด้วยเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตดี ๆ สักแก้ว เป็นมื้ออร่อย
และมีความสุขกับ Openrice Party ครั้งที่ 41 ส่งท้ายปลายปีจริง ๆ ครับ

สำหรับห้องอาหาร Atrium ให้บริการอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ 
รองรับลูกค้าได้ 150 คน แนะนำให้โทรจองก่อนครับ

·    มื้อกลางวัน วันจันทร์ – วันศุกร์   11.30-14.00​ ในราคาสุทธิท่านละ     1,500 
·    มื้อค่ำ วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี ​18.00-22.00​  ในราคาสุทธิท่านละ 2,000 
​·    มื้อค่ำวั​นศุกร์ – วันเสาร์ ​ 18.00-22.00​      ในราคาสุทธิท่านละ     2,​4​00 
·    มื้อสายวันเสาร์​ ​– ​วันอาทิตย์ 11.45 - 15.00​​ในราคาสุทธิท่านละ  2,400
​โปรโมชั่นพิเศษ มา 4 ท่านขึ้นไปลด 50% ทุกมื้อกลางวันและค่ำ

สนใจติดต่อสอบถามและจองที่นั่งได้ที่
Tel : 0-2252-4222
http://www.landmarkbangkok.com/atrium
http://www.facebook.com/TheLandmarkBangkok
E-mail : fb@landmarkbangkok.com

สวัสดีปีลิง 2559 ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น