รีวิวฉบับนี้ เป็นฉบับควบ 2 ร้านเฉพาะกิจเลยครับ
เนื่องจากผมมีนัดคุยงานกับรุ่นพี่ที่เคารพแถวย่าน
ถนนราชพฤกษ์ ก็เลยมองหาร้านอาหารหรือสถานที่
ที่มีตัวเลือกครบ ๆ ก็เลยได้ที่นี่เลยครับ
โครงการ The Circle ราชพฤกษ์
และร้านที่ตอบสนองความอยากกิน ณ วันนั้น
ก็ได้แก่ 2 ร้านนี้ Scoozi Pizza และ Vista Cafe ครับ
โครงการ The Circle ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ริมถนนราชพฤกษ์
ถ้ามาจากเส้นสาทร-สมเด็จพระเจ้าตากสิน ก็มุ่งหน้าตรง
มายังถนนบรมราชชนนี ตัวโครงการจะอยู่ซ้ายมือ เห็นชัดเจน
แต่ช่วงนี้กำลังทำการขยายถนน ทำให้ช่องทางเข้าโครงการ
จะต้องเข้าเลนคู่ขนานที่กำลังทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนถึงตัวโครงการ
ไม่อย่างนั้นถ้าเลยแล้วต้องกลับรถถึง 2 รอบแบบผม..โดนมาแล้ว 555
ภายในโครงการมีที่จอดรถเยอะครับ
จอดรถเสร็จก็เดินไปยังร้านที่นัดหมายกันไว้
ร้าน Scoozi "Original Italian Pizza"
ตัวร้านจะอยู่ด้านหน้าโครงการ The Circle ราชพฤกษ์
เป็นร้านแรก ๆ ที่จะเจอเมื่อเลี้ยวรถเข้าโครงการมาครับ
สาขานี้มีจำหน่ายไวน์ ไว้กินกับอาหารอิตาเลี่ยนแบบทำสดใหม่
กันด้วย เสียดาย ๆ ผมไปตอนที่ติดเวลาขายแอลกอฮอล์
เลยอดแพร์ริ่งกับอาหารเล..ไว้มาใหม่
การตกแต่งร้านจัดไปในทางคลาสสิคและอบอุ่น
แต่ก็มีความโมเดิร์นผสมลงไป เหมาะกับทุกวัยครับ
ตอนนี้มีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ลองติดตามดูได้
ที่หน้าร้าน ในร้าน หรือตามช่องทางออนไลน์ของร้านครับ
สำหรับร้าน Scoozi นี้ ผมเคยกินมาบ้างแล้วที่สาขาอื่น
แต่ก็ยังไม่เคยเขียนรีวิวจริง ๆ จัง ๆ จนมาวันนี้
เมนูได้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงหน้าตาจนสวยงามขึ้นอีกขั้น
นอกจากกินในร้านแล้วก็ยังสามารถสั่ง Delivery 1227
นั่งรอกินที่บ้านได้อีกด้วย (เสื้อพนักงานส่งสวยดีนะ 555)
เมนูที่เล็งและเลือกมาก็เป็นตัวแนะนำของทางร้าน
เพราะเนื่องจากมีเมนูเยอะมากเลยให้ผู้จัดการสาขา
แนะนำมาเลยก็แล้วกันครับ ได้เมนูไหนมาบ้าง ตามมาดูกัน
จุดเด่นของสาขานี้และอีกหลาย ๆ สาขาของร้าน Scoozi
ก็คือการมีครัวแบบโอเพ่นให้ลูกค้าได้มองเห็นทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ นวดแป้งพิซซ่า การปรุง
จนถึงก่อนที่จะเสิร์ฟให้ถึงมือลูกค้า ด้วยความเอาใจใส่
และการรักษาความสะอาด เพราะการที่กล้าโชว์ครัวแบบนี้
ต้องมีดีและมีความแน่ในมาตรฐานความสะอาดเป็นอย่างมาก
เอาภาพมาให้ชมพอหอมปากหอมคอในขั้นตอนการปรุงแล้ว
เดี๋ยวเรามาเริ่มชิมเริ่มกินกันเลยดีกว่าครับ
เครื่องดื่มแนะนำ :
Sicilian Lemonade (ซ้าย) และ Scoozi 2 Berry (ขวา)
ทั้ง 2 แก้วนี้ ให้บริการเฉพาะในร้านเท่านั้น ราคาเหยือกละ 160 บาท
ตัว Sicilian Lemonade หอม เปรี้ยว มะนาวชื่นใจดีครับ
ส่วน Scoozi 2 Berry นั้นแนวคล้ายน้ำส้มผสมน้ำแดง
กลิ่นเบอร์รี่ 2 ชนิดนั้นยังไม่ชัดเท่าไหร่นัก แต่ดื่มง่ายครับ
เครื่องดื่มแนะนำ : สำหรับคอกาแฟแบบผมและอากาศร้อน
แนะนำตัวนี้ครับ Caffe Latte 75 บาท
กาแฟรสกลมกล่อม ออกแนวนุ่ม เข้ม ไม่เปรี้ยวปลาย
ใช้นมดี และหวานน้อย ไม่กลบรสกาแฟครับ
ของกินเล่น : จานนี้เป็นเมนูใหม่ครับ กับ Scoozi Wings 195 บาท
ปีกไก่ทอดพอกรอบผิวนอกนิด ๆ คลุกและราดซอสบาร์บีคิวสูตรเฉพาะ
มาชุ่มฉ่ำ รสชาติ และกลิ่นของซอสดี เข้ากับปีกไก่มาก
แถมมีเฟรนซ์ไฟร์มาให้ปาดซอสกินได้อีกด้วย เด็กก็กินได้ครับเมนูนี้
พาสต้า : Black Fettuccine Seafood Arrabbiata 295 บาท
เส้นพาสต้าสีดำ แบน แบบเฟตตูชินี่ ลวกผ่านน้ำสุกระดับเด้งสู้ฟัน
คลุกเคล้าราดมากับซอสอาราเบียต้า ที่เป็นซอสมะเขือเทศเข้มข้น
ผสมผสานกับอาหารทะเลนานาชนิด ทั้ง กุ้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
และปลาหมึก ตัวซอสเข้มข้น จัดจ้าน ครบรส เข้ากันกับเส้นดำดี
สเต็ก : ลองจานเนื้อของร้าน Scoozi กันบ้างครับ
ผู้จัดการร้านก็ไม่ได้แนะนำแต่อย่างใด เพียงแต่ผมอยาก
เป็นการส่วนตัว และอยากลองเมนูที่ไม่ใช่พิซซ่า พาสต้า
เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับท่านที่อยากมาลองสเต็กครับ
จานนี้เป็น Signature ซะด้วย
กับ Grilled Tenderloin 520 บาท
เนื้อสันในสเต็กนำเข้า ขนาดประมาณ 200-250 กรัม
นำมาย่างเตาถ่าน ตะแกรงเหล็ก ตามที่เห็นภาพการทำด้านบน
ระดับความสุกที่สั่ง Medium Rare ก็ออกมาได้ใกล้เคียงกับที่สั่ง
ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่มีส่วนผสมของซอสเกรวี่
กับเห็ดและพริกไทอ่อน ให้รสกลมกล่อม กินง่าย เข้ากับเนื้อได้ดี
ตัวเนื้อเป็นสันใน ไร้มัน คนกลัวอ้วนกินได้ไม่เสียอารมณ์
แต่คนชอบเนื้อติดมันแบบสันนอกหรือริบอายส์นั้น อาจจะรู้สึกธรรมดา
แต่ว่าเนื้อนุ่มดี สมกับเป็นสันในนำเข้าครับ
และน่าจะเข้ากับไวน์ของร้านได้ดีอีกด้วย
พระเอก/นางเอก เอ้ย พิซซ่า : มาร้านพิซซ่าอิตาเลียนแบบ Scoozi
จะไม่สั่งพิซซ่าเลยก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะมาไม่ถึงครับ
เลยจัดเป็นถาดกลางสั่งหน้า half 2 อย่างตามที่ได้รับคำแนะนำ
เพราะเป็นหน้าพิซซ่ายอดนิยม และเป็นหน้าที่ทางร้าน
แนะนำเป็นพิเศษในเมนูอีกด้วย นั่นก็คือ
หน้า Mediterranean และ หน้าที่เป็น Signature ของร้านอีกหน้า
ก็คือ Chef's Special มาลองกันครับ
Mediterranean (ซ้าย) ประกอบไปด้วย พาร์ม่าแฮม ผักร็อคเก็ต
ชีสมอซซาเรลล่าแบบนุ่ม และมะเขือเทศเชอร์รี่ กับซอสมะเขือเทศ
พาร์ม่าแฮมเข้ากันกับผักร็อคเก็ต ชีสและแป้งพิซซ่าดีมากครับ
แป้งพิซซ่าบางกรอบ ทำให้ได้รสชาติของเครื่องได้เต็มคำ
สมเป็นเมนูแนะนำพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วน Chef's Special (ขวา) ประกอบไปด้วย แป้งพิซซ่า
ราดซอสมะเขือเทศ มอสซาเรลล่าชีส สไปซี่ซาลามี
แฮม เห็ดแชมปิยอง กุ้งและพริกป่น รสชาติโดยรวม
เป็นพิซซ่าแก้เลี่ยน อาหารอิตาเลียนดี ๆ นี่เองครับ
เพราะยิ่งกิน ยิ่งเผ็ด ยิ่งอยากอาหาร ทำให้เกิดการ
เผาผลาญได้เร็วขึ้น มากับความอร่อยแบบไทยผสมอิตาเลียน
พิซซ่าทั้ง 2 หน้า ที่ผมก็ต้องบอกว่า ขอแนะนำด้วยเช่นกัน
หากไม่มีหน้าในดวงใจเป็นพิเศษ หรือเลือกไม่ได้ว่าจะกินหน้าไหนครับ
เป็นอะไรที่อิ่มกำลังดีสำหรับ 2 คน กินไปคุยงานกันไปเพลิน ๆ
แป๊ปเดียวก็หมด แล้วก็รู้ตัวว่า ยังขาดของหวาน แต่จะไปหาของหวานทั้งที
ขอเป็นร้านที่ดี อร่อย มีคุณภาพและดีต่อสุขภาพครับ
เราเลยมาต่อกันที่นี่เลย Vista Cafe ครับ
Vista Cafe หลาย ๆ คนคงรู้จักกันดีว่าเค้าดังทางด้าน
ขนมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง
สำหรับสาขา The Circle ราชพฤกษ์ นี้นั้น ตั้งอยู่บริเวณกลางโครงการ
หน้าสัญลักษณ์ The Circle of Love เลยครับ
ภายในร้าน Vista Cafe เป็นการแบ่งโซนกันกับร้าน Verasu
มีเคาท์เตอร์ขายขนม เค้ก ไอศกรีมและเครื่องดื่ม
จัดร้านโปร่ง สบายตา ของไม่รกระเกะระกะ
ที่นั่งกินในร้านมีประมาณ 5-6 โต๊ะ (20 ที่นั่ง)
ช่วงที่ผมเข้าไปนั้นคนเบาบางแล้ว
เพราะปกติร้านนี้คนจะแน่นมากครับ โชคดีจริง ๆ
ไม่รอช้า จัดการสั่งขนมกับเครื่องดื่มกันมากินกันครับ
เครื่องดื่มสุขภาพแนะนำ : น้ำผักปั่นเสริมบูสเตอร์ 60 บาท
ชื่อภาษาอังกฤษเค้าคือ Fresh Morning Booster
แต่ไม่จำเป็นต้องกินเฉพาะตอนเช้าตามชื่อนะครับ
กินได้ทั้งวัน ทุกเวลาที่ต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่
มีปัญหาระบบลำไส้และคนรักสุขภาพ เพราะมีส่วนผสม
ของแอปเปิ้ลเขียว หอมหัวใหญ่ และผักกาดเขียว
ผสมกับรำข้าว น้ำมะนาวและน้ำผึ้ง
ข้อแนะนำ อย่าทิ้งไว้นานเกิน 15 นาที ควรรีบดื่มให้หมด
รสชาติก็ไม่ต้องถึงกับกลั้นใจดื่มสำหรับคนที่กินผักได้ครับ
เมนูแนะนำ : ปังเย็นชาไทยนมสด 80 บาท
เป็นเมนูใหม่ ที่ทางร้านแนะนำอยู่ และผมก็แนะนำด้วย
เป็นนมปั่นผสมชาไทยเข้มข้น ไม่หวานมาก
ท็อปด้านบนด้วยขนมปังแป้งสเปลท์นุ่ม ๆ
ซึมซับนมและชาไว้อย่างเต็มที่ อร่อย ๆ แบบเย็น ๆ เลยครับ
เค้ก : Apple Soft Cake 90 บาท
เนื้อเค้กทำมาจากแป้งสเปลท์ออร์แกนิค เหมาะสำหรับ
คนที่หลีกเลี่ยงการกินเนย เพราะเค้กตัวนี้ใช้น้ำมันรำข้าว
แทนการใช้เนย มีเนื้อแอปเปิ้ลผสมกับเนื้อแป้ง
และวางท็อปปิ้งด้วยเนื้อแอปเปิ้ลเคลือบผิวด้วยชินนามอน
เพิ่มความหอมอร่อยขึ้นไปอีกขั้น
เค้ก : Brownie Cheese Cake 120 บาท
เนื้อครีมชีสรสชาติดี ไม่เค็ม ไม่เปรี้ยว โดดไปทางใดทางหนึ่ง
กลมกล่อม ราดซอสเชอร์รี่แช่อิ่มที่ให้รสเปรี้ยวนิด ๆ มาตัดรส
กับฐานบราวนี่ช็อคโกแล็ตที่ทำจากแป้งสเปลท์
รสชาติกลมกล่อมกินพร้อมกันอร่อยเพลิน ๆ
หมดไปอย่างรวดเร็ว 555
เค้ก : Belgian Double Chocolate Fudge Cake 130 บาท
เป็นเค้กช็อคหน้าเหลว / หน้านิ่ม ที่ใช้ช็อคโกแล็ตจากเบลเยี่ยม
รสชาติและกลิ่นหอม ถูกปากผมมาก ๆ จนไม่อยากจะกินหมด
เนื้อเค้กช็อคโกแล็ตก็นุ่มละมุนด้วยแป้งสเปลท์ ซอสช็อคโกแล็ต
ก็จัดการทำเนื้อซอสได้เนียนและไม่เหลวหรือเซ็ทตัวแข็งเกินไป
รสไม่หวานแหลม เป็นความหวานปานกลางให้ความนุ่มละมุน
อยู่ในทุก ๆ คำที่กิน
กาแฟ : Hot Vista Classic 60 บาท
กาแฟร้อน ตัว Signature ของ Vista Cafe
ปิดท้าย ให้ความนุ่ม แบบคลาสสิค สบายคอและท้อง
เป็นอันถูกอกถูกใจกันไปอีกกับร้านขนมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
แบบ Vista Cafe ที่โดดเด่นเรื่องการนำแป้งสเปลท์ที่นุ่มและย่อยง่าย
มาทำขนมได้อย่างอร่อยและถูกปากเป็นอย่างมาก
สำหรับชาวฝั่งธนหรือฝั่งกรุงเทพ ที่ชื่นชอบการเดินเล่น
ตาม Community Mall ที่มีความครบครันทั้งร้านอาหาร
ร้านขนม เครื่องดื่ม และร้านค้าหลากหลายรูปแบบ
ที่นี่ The Circle ราชพฤกษ์ สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
การเดินทางก็สะดวก จากใจกลาง กทม. เพียง 20-30 นาที
ก็ไปถึงยังโครงการแล้วครับ
แล้วไปพบความสุขและความอร่อย ที่ The Circle ราชพฤกษ์
กันได้อีกในครั้งถัด ๆ ไปนะครับ สำหรับผมต้องมีไปซ้ำแน่นอน
เพราะยังมีอีกหลายร้านที่น่าลองจริง ๆ
สนใจรายละเอียดโครงการ The Circle ราชพฤกษ์
ติดต่อข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่
โทร. 02 865 6850-53
โทร. 02 863 8589, 02 863 8590
Vista Cafe สาขา The Circle ราชพฤกษ์
โทร. 02 863 8611-3
http://www.vistacafe.co.th
http://www.vistacafe.co.th
ขอให้มีความสุขกับอาหาร ขนมและเครื่องดื่มในรีวิวนี้นะครับ
