พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2558

เจ๊นกทะเลเผา เราเน้นกุ้ง

กลับมาอีกครั้งและหลายครั้งแล้วมั้งครับเนี่ย
กับร้านเจ๊นกทะเลเผา ที่มากี่ครั้ง ๆ กี่ครั้ง
ก็ต้องโดนกุ้งเผาให้ได้ทุกครั้ง 555

เพราะเป็นร้านที่ผมชอบในการเผากุ้งของกุ๊กหนุ่มไฟแรง
(รอบหน้าจะเก็บภาพมาฝาก)
ขนาดกุ้งที่กำลังดีไม่ใหญ่เกินไปในราคาสมเหตุสมผล

รอบนี้สั่งอาหารไปไม่เยอะเน้นของสด ๆ ครับ
มีอะไรบ้างนั้น ตามดูเลย

ก่อนอื่นสตาร์ทจากเครื่องดื่มกันก่อนครับ
ไม่พลาดที่จะต้องจัดเบียร์เย็น ๆ เช่นเคย



ตามมาด้วยอย่างแรกก "กุ้งแช่น้ำปลา"


กุ้งไซส์กำลังดี น้ำปลาที่แช่ก็กลมกล่อม


เนื้อกุ้งสดใสอยู่ในสภาพพร้อมโดนหม่ำ


จัดไปพร้อมกันน้ำจิ้มซีฟู๊ดและกระเทียมสด
(ไม่ทานมะระ 555) สุดยอดเรียกน้ำย่อยครับ


ถึงกับต้องเบิ้ลกันเลย 2 ที อิอิ


จากแรกกับจานที่ 2 ไม่แพ้กันเลย


ต่อกันที่ "ปลาทรายทอดกระเทียม"


ทอดมาได้กรอบกริ๊บ กินได้ทั้งตัว หัวจรดหาง
กระเทียมทอดก็กรอบพร้อมปรุงรสอ่อน ๆ มา
เข้ากันกับเนื้อปลาที่กรอบตลอดตัว


เบรคอาหารปรุงสุก มาทานของสด กับ"หอยนางรมสด"
ที่วันนี้น่าเสียดายที่ตัวใหญ่ไซส์ 55 บาทหมด
เลยต้องลองไซส์มินิมาทานแทนครับ


ขนาดก็ประมาณ 2 ตัวรวมกันได้ 1 ตัวใหญ่


เครื่องเคราและน้ำจิ้มพร้อม


ปรุงเครื่องแต่งองค์กันสักนิด


จัดเข้าปากพร้อมกันทันทีทันใด อ้ามมมมมมมมมม


สลับมาของสุก ๆ ร้อน ๆ ตามลงท้อง
จะได้ทำให้หอยนางรมสุก เหรอ!!!
กับ "ปลากะพงเผาเกลือ"
เห็นผิวนอกไหม้แต่ด้านในแจ่มนะครับ


ที่นี่เน้นปลาเป็น ๆ ว่ายน้ำ แข็งแรง
เนื้อปลาได้มากำลังน่าทาน ฉ่ำระอุความร้อน
จากการเผา เนื้อนุ่ม ซัดกับน้ำจิ้มและผักย่างที่มาด้วยกัน
ลั่ลล้ากันเลยครับ


ตามด้วย "หอยแครง"
ที่วันนี้สั่งทั้งแบบลวกและแบบเผาเลย
จานนี้เป็นแบบลวก จะเลือดเยิ้ม ๆ หน่อย


ถ้าใครชอบแห้ง ๆ ให้สั่งเผาแบบจานนี้ครับ



เผาอีกจาน


ลงเล่นในน้ำจิ้ม


ตามด้วย "หอยเชลล์เอาเนยกระเทียม"


จานนี้อร่อยนะ แต่ขอติตรงที่กระเทียมที่อบมาแล้วนั้น
ยังดิบเกินไป สดเกินไป คิดว่าน่าจะใช้ไฟแรงไป
ทำให้หอยจะสุกก่อนกระเทียมครับ แต่อร่อยนะ
หอยใหญ่ใช้ได้เลย


 และแล้วก็มาที่นางเอก หรือ พระเอก ของเราดีเนี่ย
"กุ้งแม่น้ำเผา" สั่งไป 2 จาน จานละ 1 กก.


เผาแล้วด้านนอกดูไม่งามงดเท่าไหร่


อีกมุม แต่รับประกันเนื้อในนั้นหมดจด


แกะจับมากินกับกระเทียมของหอยเชลล์เลย


หรือจะกินเปล่า ๆ


หัวกุ้งทั้งมันที่ยังเยิ้ม ๆ รอให้ได้จุ๊บ ๆ


เยิ้ม ๆ...


จะเอามาคลุกข้าวราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็ได้


ลงไปแช่น้ำจิ้มก็อร่อย


พร้อมจะทานรึยังครับ อ้ามมมมมมมมมมมมมม


มันกุ้ง โอยยยยยยยยยยยย ทรมาน 555


ลอกคราบเลย


เอาเปลือกออกหมดจดพร้อมทานทั้งตัวและหัว(ใจ)


ขอผัดผักสักจาน "กระเฉดไฟแดง"
มีทั้งอ่อนและแก่(เหนียว)ปนกันมาบ้างครับ


แต่ปรุงและผัดผ่านไฟได้ดี กรอบอร่อย


แล้วก็เป็นอันจบมื้อน้อย ๆ อีกมื้อครับ

ร้านเจ๊นกทะเลเผา อยู่ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน
ถึงก่อนตลาดน้ำตลิ่งชันครับ ไปไม่ยาก
จะเห็นรถจอดริมถนนหน้าร้านตลอดสายครับ

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Seafood Night ใจกลางเมืองหลวง



กลับมาเยือนอีกครั้งกับห้องอาหาร The Square 
โรงแรมโนโวเทล เพลินจิต
มื้อนี้เป็นค่ำคืนวันศุกร์ ซึ่งตรงกับ Seafood Night 
ที่จะมีเฉพาะมื้อเย็น(Dinner)วันศุกร์และวันเสาร์
ในแต่ละสัปดาห์เท่านั้นครับ สนนราคา 1,299++ 
หรือ 1,529 บาท net โดยประมาณ
โดยในราคานี้จะรวมน้ำดื่ม ชา และกาแฟ ไว้ให้แล้วครับ

แต่ถ้าใครอยากจะได้น้ำอัดลม(Soft drink) 
ทางห้องอาหารก็มีบริการเพิ่มเติม
ในแบบ Free flow(เติมตลอด) ราคาท่านละ 100 บาท net

และถ้าใครชื่นชอบแอลกอฮอล์(แบบผม) 
ก็มีให้บริการในแบบ Free flow เป็นไวน์แดง ไวน์ขาว 
และเบียร์สดด้วยครับในราคาท่านละ 500 บาท net


โปรบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ไป 2 จ่าย 1 ก็มี
citibank, scb, Krungsri, Centralcard 4 บัตรครับ
สำหรับโปรบัตรเครดิต ถ้ามี บัตร accor advantage plus
ลดเพิ่มอีก 10% ได้ด้วยครับ
ใครมีบัตรก็คุ้มเลยครับตกเหลือคนละ 75x บาท net เอง
มี Seafood, Foiegras ไม่อั้นก็คุ้มสุด ๆ แล้ว

นอกเหนือจากนั้น หากท่านใดมีบัตร accor advantage plus
และทำการโหลด app accor advantage plus มาใช้ด้วย
จะได้รับ Free flow Soft drink มูลค่า 100 บาท ฟรี
โปรโมชั่นนี้มีถึง 13 กุมภาพันธ์ 2558 นี้เท่านั้นครับ

เกริ่นนำไปพอสมควรแล้ว
เดี๋ยวเรามาดูอาหารกันเลยดีกว่าครับ
เนื่องจากวันนี้เป็น Seafood Night ผมเลยประกบกับ
แอลกอฮอล์ด้วยเลย เพราะได้ทราบมาว่า
นอกจาก Seafood Night ที่เป็นไฮไลท์ของวันแล้ว
ยังมี Foiegras(ตับห่าน) ให้ได้ทานกันอีกด้วยครับ !!!


 หลายท่านคงสงสัยว่า Free flow ของที่นี่มีอะไรบ้าง
ตามที่ผมได้เกริ่นนำไว้ครับ จะมีไวน์แดงและไวนขาว
ซึ่งเป็นไวน์จากประเทศชิลี
โดยตัวไวน์แดงจะเป็นองุ่นพันธุ์ Merlot
เหมาะกับทานจานเนื้อ จานหนัก ๆ รสจัดได้ดีครับ

 
ส่วนไวน์ขาวจะเป็นองุ่นพันธุ์ Chardonnay
เหมาะกับทานซีฟู๊ดในค่ำคืนนี้มาก ๆ ครับ


 และเบียร์สดนั้น จะเป็นเบียร์สิงห์ครับ
ไม่ต้องบอกเลย เบียร์สดดื่มคู่กับอะไรก็อร่อย 555




ดูไลน์อาหารกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ
ซึ่งซีฟู๊ดนั้น จะทานแบบออนไอซ์ที่จัดไว้
หรืออยากจะทานแบบร้อนก็ตักไปให้เชฟอุ่นให้ได้ครับ

 
โดยไฮไลท์ของซีฟู๊ด ต้องยกให้ ปูอลาสก้าครับ
เพราะที่นี่ทำออกได้รสหวานของปูอยู่
ไม่เหมือนหลาย ๆ ที่ ที่ทำออกมาแล้วจืดสนิทไปเลย




หอยนางรมสดตัวใหญ่ ไม่คาว จิ้มซีฟู๊ดเด็ดมากครับ

 
กั้งกระดานตัวเล็กไปนิดแต่ความสดใช้ได้เลย

 
หอยแมลงภู่ยักษ์ก็แน่นดี ไม่เหม็นคาวเช่นกัน หวานอร่อย




กุ้งแม่น้ำเผา เชฟบอกว่าเป็นกุ้งเป็น ๆ มาน็อคน้ำแข็ง
แล้วค่อยทำการย่าง แต่เนื้อกุ้งที่แกะออกมาจากเปลือก
ค่อนข้างยุ่ย ๆ ทราย ๆ ไม่กรอบเด้งครับ
แจ้งห้องอาหารไปแล้วล่ะน่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ


ปูม้า เนื้อหวานแน่นสด เป็นปูเผานะครับ ไม่ใช่ปูนึ่ง
ซึ่งการเผาก็ทำให้ได้กลิ่นหอม ๆ ของเปลือกปูมาด้วย

 
ต่อกันที่ฟัวกราส์(ตับห่าน) เชฟจะทำให้ใหม่ ๆ
เยือนรอได้เลย ตัวฟัวกราส์ชิ้นใหญ่พอดีคำ
ไม่บางไม่หนาไป แต่ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า
เชฟทำ over cook ไปครับ คือสุกเกิน
ด้านนอกเกรียม ๆ ด้านในความที่เป็น creamy
ที่น่าจะเนียนละมุนหายไป
ถ้าทำสุกน้อยกว่านี้จะดีมาก ๆ เลย



ตามมาด้วยเนื้อวัวอบที่ Craving Station
เนื้อแรร์ถูกใจ สุดยอดมากครับ นุ่ม ๆ
ราดซอสไวน์แดง แล้วป้ายด้วย
มัสตาร์ดผสมเบซิลสักเล็กน้อย
กระดกไวน์แดง/เบียร์ได้หลาย ๆ แก้วเลยครับ


อาหารในไลน์สำเร็จก็มีให้เลือกหลายแบบ
แต่ผมไม่ค่อยได้ลองครับ เพราะเน้นซีฟู๊ดเป็นหลัก




มาที่ไลน์อาหารญี่ปุ่น ก็ยังคงมาตราฐานชนิดอาหาร
ทั้งซาซิมิ ซูชิและโรล โดยแซลมอนซาซิมินั้น
ก็มีการปรับปรุงเรื่องการแล่ให้ดีขึ้นจากครั้งก่อนที่มาทาน
ความสด ความหวาน กรอบ ของปลามาดีเลยครั้งนี้ครับ






ส่วนไลน์ของหวานนั้น น่าจะถูกใจคนชอบขนมเค้ก
ขนมต่าง ๆ เพราะมีให้เลือกเยอะมากเช่นกันครับ
ไอศกรีม และ ผลไม้ก็มีให้ครับ





ชมไลน์อาหารแล้ว ก็ตักมาทาน/ดื่มตามอัธยาศัยกันเลยครับ
เพราะบรรยายตามในไลน์ไปหมดแล้วครับ
ที่เหลือลงรูปรัว ๆ เลยละกันครับ 555
ขอให้มีความสุขกับการรับประทานนะครับทุกคน



























สอบถามและจองที่นั่งได้ที่
เบอร์โทร 0-2305-6000 ต่อ 1632
www.novotelbangkokploenchit.com
www.facebook.com/novotelbangkokploenchit