พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

JONES and MOWLEM Traditional British

 
รีวิวนี้ จะพาเข้าเมืองกันสักนิด กับครั้งแรกของผม
ที่มาเยือนยังศูนย์การค้า EmQuartier ซะด้วยครับ



โดยจุดหมายของวันนี้ อยู่ที่ชั้น 8 โซน Helix ใน EM Distric
ที่เป็นร้านซีฟู๊ดบาร์สุดชิค เอาใจคนรักอาหารทะเลสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
กับร้าน JONES & MOWLEM กันครับ


ร้าน JONES & MOWLEM นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
ตลาด Billingsgate ที่เป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุด
ในสหราชอาณาจักร โดยที่ มร.โรเบิร์ต พินคอก และ มร.เกรแฮม ฮิล
ได้นำกลิ่นไอมนต์สเน่ห์ของตลาดแห่งนี้ มาผสมผสานเป็นร้านที่บรรยากาศ
และสไตล์ไม่เหมือนใคร และนำชื่อของ Sir Horace Jones
ผู้ก่อตั้ง JONES MOWLEM และเป็นผู้ร่วมก่อสร้างตลาด Billingsgate
มาตั้งเป็นชื่อร้าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงความยิ่งใหญ่นั่นเอง


โดยตัวร้านนั้น มีบรรยากาศสนุกสนาน เป็นกันเอง ตกแต่งความมีสเน่ห์
มีสไตล์อินดัสเตรียลของตัวตลาดและความทันสมัยในแบบฉบับลอนดอนใน
เหมาะกับการมาร่วมกันกินกันเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน





ทางร้านจะมีบริการทั้งอาหารทะเลนานาชนิด
หรือถ้าใครไม่ทานอาหารทะเล ทางร้านก็มีอาหารเช้าแบบสไตล์อังกฤษ
อาหารจานเนื้อ จานผัก เส้นพาสต้า ซุปต่าง ๆ รวมถึงของหวานและชายามบ่าย
ให้ได้เลือกลองลิ้มชิมรสอย่างหลากหลายเลยครับ

และที่พิเศษคือ ครอบครัวที่มีเด็กไปกินที่ร้าน เด็กได้กินฟรีด้วยนะครับ
ตามนี้เลย ดีอ่ะ

 
อาหารที่ขึ้นชื่อและเป็นความพิเศษของทางร้าน JONES & MOWLEM
ก็คือ ฟิชแอนด์ชิฟส์ ที่ไม่เหมือนใคร เพราะสามารถเลือกเนื้อปลาได้ถึง 4 ชนิด
ไม่ว่าจะเป็น ปลาค็อต ที่ให้เนื้อแน่นรสชาติต้นตำรับ
ปลาหิมะ ได้ความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อปลา ปลาดอรี่ ที่สดใหม่จากเรือทุกวัน
และปลากะพง ที่เนื้อไม่แน่นไม่เหนียวเกินไปกำลังดี

สำหรับเครื่องดื่ม ที่ร้าน JONES & MOWLEM ก็มีให้เลือกตั้งแต่เบียร์สด
เอล ไซเดอร์ ไวน์ ค็อกเทล ม็อคเทล สมูทตี้ หลากหลายเลยครับ


ลองดูเมนูเล่นกันคร่าว ๆ ครับ เมนูเล่มหน้าหลัง แยกกันระหว่างอาหาร
และเครื่องดื่ม



เกริ่นมาพอสมควร ก็คงถึงเวลาสำหรับอาหารแต่ละเมนูที่ได้ลองกันแล้ว
แต่อยากจะบอกว่าอาหารที่ร้านนี้จะจานใหญ่พอตัว
ทำให้โต๊ะเล็กไปถนัดตาหากสั่งอาหารหลายจานมาพร้อม ๆ กันครับ


เริ่มจากสตาร์ทเบา ๆ ด้วยเครื่องดื่มเบียร์เย็น ๆ ที่ทางร้านแนะนำ
London Pride มาแบบเย็น ๆ ดื่มแล้วรู้สึกถึงความนุ่มแต่ลุ่มลึกครับ



แล้วก็เรียกน้ำย่อยด้วย Smoked Salmon Plate ปลาแซลมอนรมควัน
ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปังสดใหม่ พริกย่างและดริลซอสผสมครีมชีส
ตัวแซลมอรมควันสไลด์แล้วบรรจงม้วนมาพอดีคำ
ขนมปังอบกรอบใหม่ ๆ กินพร้อมกันกับครีมชีสดริลซอสและพริกย่าง
เข้ากันดีทีเดียวเชียว




ตามมาด้วย Steamed Mussels หอยแมลงภู่ดัชต์อบด้วยไวน์ขาว
ซอสมะเขือเทศรสเผ็ดผสมไส้กรอกโชริโช่
รสชาติซอสที่จัดจ้าน ทำให้หอยอบจานนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ




ต่อมาเป็นสลัด กับ Retro Prawn Cocktail กุ้งค็อกเทล
เสิร์ฟมาในแก้วทรงทรูงที่บรรจุผักต่าง ๆ เอาไว้ กุ้นสด
ผักก็จัดมาได้พอดี กับซอสฮอลลันเดส สาว ๆ น่าจะชอบกันครับ





เบียร์หมด ผมเลยต่อด้วย Aspalls Premier CRU Cyder
เป็นฟองฟู่รสหวาน ดื่มง่าย ๆ มาลอง ขวดใหญ่ใช้ได้เลยครับ



เหมาะกับอาหารจานหลักมาก ๆ อย่างจานนี้
เป็น Seared Scallop หอยเชลล์ตัวโต ๆ จี่กระทะร้อน
แล้ววางบนถั่วบดราดซอสบัลซามิก ท็อปด้วยเบคอนให้ได้เท็กซ์เจอร์
ความกรุบกรอบผสมผสานความนุ่มของเนื้อหอย เข้ากันกับซอส
รสเปรี้ยวเล็กน้อยและความมันของถั่วลันเตาบดด้านล่างเป็นอย่างดี




จานหลักจานต่อมา คือ Chippy (Catch of the day)
ก็คือ ฟิชแอนด์ชิปส์ อาหารเมนูเด็ดประจำร้านนั่นเอง
ตัวนี้เป็นปลาดอรี่ เนื้อนุ่มนิ่มด้านใน สุกกำลังได้ที่
มีแป้งทอดบางกรอบเคลือบไว้ ทำให้กรอบนอกนุ่มใน
อร่อยถึงใจเลย เสิร์ฟมาพร้อมมันฝรั่งทอด จิ้มทาร์ทาร์ซอส
แกล้มถั่วลันเตา เข้ากันดี



ซึ่งถ้าหากเปลี่ยนเป็นปลาหิมะ ก็จะได้แนวนุ่มชุ่มฉ่ำไขมันปลา
อร่อยไปอีกแบบเลยครับ


ต่อกันที่ Fish Pie ครับ เป็นพายอบลักษณะคล้ายกราแตงค์
เป็นมันฝรั่งผสมเนื้อปลาแซลมอนอบในครีมซอสไวน์ขาว
รสชาติดีมาก ๆ นวล ๆ กลมกล่อมเลยครับ



นอกจาก Fish Pie ถ้าคนไม่ทานอาหารทะเล
แต่เป็นคนรักเนื้อนั้น ทางร้านก็ยังมี Sheppard's Pie
ที่เป็นพายเนื้ออบอร่อย ๆ ไว้ให้เลือกแทนเช่นกัน




ต่อด้วยเมนู Pasta สำหรับคนรักเส้น
ด้วยจานนี้ Crab AOP พาสต้าปูผัดกระเทียมและพริก
ทางร้านใช้เส้นแองเจิ้ลแฮร์ที่มีขนาดเล็ก
เคี้ยวนุ่มละมุนลิ้น ไปพร้อมกับเนื้อปูที่ซับรสกระเทียม
และพริกไว้ ทำให้จานนี้แก้เลี่ยนอาหารต่าง ๆ ได้ดีเลยครับ



เริ่มอิ่มก่อนไปของหวานเลยขอจิบเบา ๆ กับ
Black Label on the rock สักแก้ว เสียดายที่ร้านมีแต่น้ำแข็งหลอดเล็ก


แล้วก็ไหมไทยสีสวย ๆ อีกสักแก้ว รสชาติค็อกเทลดีใช้ได้เลย


ปิดท้ายด้วยของหวาน อย่าง Apple Crumble พายแอปเปิ้ล
ที่เสิร์ฟมาให้กินพร้อมกับไอศกรีมวนิลาโฮมเมด เข้ากันดีอร่อยเลย


และก็ Chocolate Mousse with Kit Kat ช็อคโกแล็ตมูส
กับคิทแคท รสชาติเข้มข้นดี ได้รสช็อคโกแล็ตเต็ม ๆ คำ
ทั้งนุ่มนวลและกรอบอร่อยในคำเดียวเลย


ก็เป็นอันอิ่มหมีพลีมัน กับอาหารชิค ๆ ร้านชิค ๆ ในใจกลางเมือง
แบบผู้ดีอังกฤษ ณ ร้าน JONES & MOWLEM
ต้องขอบอกว่าหลาย ๆ เมนูนั้นอร่อย ประทับใจ
โดยเฉพาะเมนูเด็ดของทางร้านอย่าง Chippy ที่เป็นฟิชแอนด์ชิปส์นั้น
กรอบอร่อยคุ้มค่าแก่การมาลอง เครื่องดื่มเบียร์ London Pride
และ Aspalls Cyder ก็เด็ด ชอบมากเลยล่ะครับ 
ถ้าใครเข้า EmQuartier อย่าลืมแวะไปชิมที่ชั้น 8 โซน Helix กันนะครับ
ร้านเปิดปิดเวลา 10:00 - 22:00 น. ครับ

สนใจสำรองที่นั่ง ติดตามข่าวสารหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทร.0-2003-6285


ขอให้อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลในสไตล์ตลาดอังกฤษเท่ห์ ๆ นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น