พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

Brasserie by Water Library ฝรั่งผสมไทยได้กลมกลืนและเลิศรสลงตัว


หากนึงถึงอาหารฝรั่งอร่อย ๆ  คงจะคุ้นเคยและได้ยินชื่อร้าน
Water Library Brasserie กันอยู่แล้ว
โดยที่ผมเคยไปนั้นเป็น สาขา Central Embassy
ซึ่งจะประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว
จนทำให้เปิดสาขา 2 โดยใช้ชื่อว่า
Brasserie By Water Library
ซึ่งทำเลที่ตั้งนั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของ 
The Crystal Veranda ห้างใหญ่ย่านเลียบด่วน

ชมคลิปรีวิว 3 นาทีได้ที่นี่
https://youtu.be/VP1GsqKJ2XA
อย่าลืมกด Subscribe ติดตามคลิปกันด้วยนะครับ


Brasserie By Water Library นั้น 
ได้แรงบันดาลใจการแต่งร้านแบบคลาสสิค
มาจากช่วงยุคทองของฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1920
แต่คงความทันสมัย โดยมีทั้งโซนด้านใน และ ด้านนอก
เหมือนการนั่งกินอยู่ที่ร้านในกรุงปารีส


เคาท์เตอร์บาร์ ด้านหน้าร้านเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย

ผนังอีกด้านของร้านจะเป็นเนื้อที่ของ The Godfather ไวน์บูติก 

จัดพื้นที่ระหว่างโต๊ะได้สบายตา ภายในร้านกว้างขวางเลย


อุปกรณ์มาตรฐานบนโต๊ะ แก้วน้ำ มีด ช้อน ส้อม
ที่รองจาน ทิชชู่ เกลือ พริกไทยดำ

ด้านในลึกสุดของร้าน จะเป็นห้องกระจกสวยงามแบบนี้

โซนนี้รับแสงยามสาย กลางวัน บ่าย ได้สวยงาม
แอร์ยังเย็นสู้แดดไหวสบาย ๆ ครับ และบริเวณนี้
จะมีวงดนตรีสดมาเล่นทุกคืนวันศุกร์อีกด้วยครับ

ขอนั่งจิบเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตสักแก้ว
ชมบรรยากาศก่อนเริ่มมื้อกันเล็กน้อย



ด้วยเมนูที่หลากหลาย และคงความต้นตำหรับ

ของอาหารฝรั่ง ไปพร้อมกับเมนูสุดครีเอท
ผสมผสานความเป็นไทย-เอเชียที่น่ากินสุด ๆ
กินกันได้ตลอดวัน หรือจะจิบกาแฟในช่วงบ่าย
และจิบไวน์ในช่วงค่ำหรือจะลิ้มรสค็อกเทลสูตรพิเศษ
ของทางร้านก็ยังได้อีกด้วย รวมถึงถ้าซื้อเครื่องดื่มจาก
ร้านในเครืออย่าง The Godfather ไวน์บูติก
ที่เป็นส่วนหนึ่งของร้าน ก็ไม่ต้องเสียค่าเปิดขวดอีกด้วย


เมนู Thai Brasserie

เมนูของหวาน Thai Brasserie 

สามารถดูเมนูของร้าน BRASSERIE ได้ที่
เมนู Thai Brasserie 
เมนูปกติ

สั่งอาหารไปแล้วก็รอสักนิด ระหว่างรออาหาร
ทางร้านมีขนมปังอบกรอบนอกนุ่มใน
เสิร์ฟพร้อมกับเนยโยเกิร์ตเนียน ๆ อร่อย เป็น complimentary ครับ



กินเพลิน แต่อย่ากินหมดก้อนเชียว ตัดกำลังไปครับ 555 


เมนูที่ได้ลองลิ้มชิมรสชาติกันในครั้งนี้มีดังนี้



Spicy "Larb" Wagyu 1,490 บาท

ลาบเนื้อวากิวย่าง และไข่แดงออนเซ็น

Spicy "Larb" Wagyu 1,490 บาท

ลาบเนื้อวากิวย่าง และไข่แดงออนเซ็น

เนื้อวากิวคัทแบบสเต็กชิ้นใหญ่ ย่างให้สุกแบบมีเดียม
นำมาหั่นเป็นชิ้นสเต็กพอดีคำ คลุกเคล้าเครื่องลาบรสจัด


พร้อมวางไข่แดงออนเซ็น ความสุกที่ 60 องศา

เจาะไข่แดงไหลเยิ้ม ๆ เคล้าเข้ากับลาบเนื้อวากิว
ได้ความนุ่มและนัวมากยิ่งขึ้น ตัวเนื้อวากิวจากออสเตรเลียนี้
กินแล้วหอมนุ่มได้ใจมาก ๆ ได้รสชาติไทยกับวัตถุดิบฝรั่ง
ในเมนูแซ่บ ๆ แบบนี้ได้ยอดเยี่ยม



Pork Chop 580 บาท

สเต็กหมูพอร์คชอป

Pork Chop 580 บาท

สเต็กหมูพอร์คชอป

เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและมันเทศอบ

พอร์คชอปติดกระดูก หมักสไตล์ไทย ๆ ทั้งกลิ่นและรสชาติ


หั่นแล้วจิ้มแจ่วรสจัดจ้าน เข้ากันจนอยากได้ข้าวเหนียว
แต่เดี๋ยวก่อน เค้าจัดมันเทศอบ 2 สีมาให้แทนแล้ว รับรองว่า
กินแล้วจะติดใจ เพราะมันเทศอบอร่อยและเข้ากันมาก
กับเนื้อหมูพอร์คชอปนุ่ม ๆ และมันน้อย ไม่ต้องกลัวอ้วนนัก



Ka-Prao Crusted Lamb 990 บาท

ซี่โครงแกะย่างซอสกะเพรา และยอกกี้มันฝรั่ง

Ka-Prao Crusted Lamb 990 บาท

ซี่โครงแกะย่างซอสกะเพรา และยอกกี้มันฝรั่ง

ซี่โครงแกะผ่านการซูวีร์มาอย่างดีที่ 65 องศา
นำมาย่างต่อบนกระทะต่อให้ได้ผิวเนื้อด้านนอกขึ้นสี

ส่วนความสุกด้านในเป็นแบบมีเดียมแรร์ 2 ชิ้น กำลังดี
โดยที่ผิวนอกของเนื้อแกะถูกห่อหุ้มด้วยเนยกะเพรา
ทำให้ได้กลิ่นหอมและความกรอบของผิวนอก
กับความนุ่มชุ่มฉ่ำของเนื้อแกะที่อุ้มน้ำซอสกะเพราได้อย่างดี
กินกับยอกกี้มันฝรั่งละมุน ๆ เบา ๆ กับซอสกะเพราพร้อมเนื้อแกะ
และใบกะเพรากรอบ ก็ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ครับ



Crab Curry Spaghetti 690 บาท

สปาเกตตี้ซอสแกงปู และไข่คน

Crab Curry Spaghetti 690 บาท

สปาเกตตี้ซอสแกงปู และไข่คน

จานนี้คำแรกที่ได้กินเข้าไป ก็รู้สึกฟินแล้ว
เพราะทั้งรสชาติแกงปู ที่มีเนื้อปูผสมอยู่ ให้รสจัด
รสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมของเครื่องแกง
ที่คล้ายน้ำยาปูผสมแกงเหลืองทางใต้

น้ำแกงปูเคลือบทั่วเส้นสปาเก็ตตี้นั้น คือดีมาก ๆ
ประกอบกับได้ไข่คนมาลดความเผ็ดร้อน
ให้ได้ความละมุน เป็นอีก 1 สุนทรีย์รสจากการ
ผสมผสานความเป็นฝรั่งและไทยได้ดีอีก 1 จาน



Nam-Pla Chocolate Fondant 290 บาท

ช็อคโกแล็ตฟองดองท์ เสิร์ฟพร้อมคาราเมลน้ำปลา
สูตรพิเศษ และไอศกรีมวนิลา


Nam-Pla Chocolate Fondant 290 บาท

ช็อคโกแล็ตฟองดองท์ เสิร์ฟพร้อมคาราเมลน้ำปลา
สูตรพิเศษ และไอศกรีมวนิลา


เค้กช็อคโกแล็ตอุ่น ๆ ไส้ด้านไหนไหลเยิ้มเข้มข้นรสหวาน
กินกับแผ่นคาราเมลและวิปครีมน้ำปลา
รสเค็ม กลิ่นน้ำปลาหอม ๆ แล้วตัดรสชาติด้วย
ไอศกรีมวนิลาเย็น ๆ เป็นการเปิดประสบการณ์
การกินของหวานแบบไม่ซ้ำซากจำเจ

เป็นการนำน้ำปลาที่เป็นเครื่องปรุงของคาว มาทำเป็นขนมหวาน
ได้อย่างสร้างสรรค์และกล้าหาญมาก ๆ ครับ



Durian Souffle 390 บาท

ซูเฟล่ทุเรียนหมอนทอง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมข้าว

Durian Souffle 390 บาท

ซูเฟล่ทุเรียนหมอนทอง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมข้าว


ถ้าคุณชอบและหลงรักทุเรียนเป็นทุนเดิม
เมนูนี้ ถ้าพลาดไปแล้วจะเสียใจมาก ๆ


กับซูเฟล่นุ่มละมุน กลิ่นและรสทุเรียนหมอนทอง
มาแบบจัดเต็มทุกอณู ทุกคำที่ได้กินประหนึ่งเหมือนว่า
ได้กินทุเรียนสด ๆ เพียงแค่แปลงร่างมาเป็นซูเฟล่ก็ไม่ปาน 

กินตัดรสด้วยไอศกรีมข้าว ที่มีสัมผัสของเมล็ดข้าวเหนียวมูน
ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วยอีกเล็กน้อย เป็นอะไรที่อร่อยสุด ๆ



Coconut Creme Brulee 290 บาท

ครีมบูเล่มะพร้าวน้ำหอม เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อน
และถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล


Coconut Creme Brulee 290 บาท

ครีมบูเล่มะพร้าวน้ำหอม เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อน
และถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล


เมนูของหวานแนะนำ สำหรับคนชอบความเบาสบาย
กลิ่นหอมของน้ำมะพร้าวในเนื้อครีมบูเล่ สดชื่น
รสชาติไม่หวานมากนัก เพราะจะได้กินคู่กับถั่วเคลือบน้ำตาล
หรือจะกินกับเนื้อมะพร้าวอ่อน ก็ยิ่งได้รสมะพร้าวอย่างแท้จริง

ปิดท้ายด้วยคาปูชิโน่ร้อนอีกสักแก้ว ฟินกันไปอีกรอบ 


หลังจากได้ลองแต่ละเมนูแล้ว ทุกเมนูทำรสชาติได้ถูกปากมากจริง ๆ
กับการใช้วัตถุดิบหลักต่าง ๆ เสริมด้วยรสชาติแบบไทย
ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวอย่างเก๋ไก๋ แบบต้องมาลอง
แล้วได้การบริการดีงาม ประกอบกับบรรยากาศของร้าน
ที่หรูดูสง่าดี ทำให้มื้ออาหารนี้ สามารถพาคนรู้ใจ
ครอบครัวหรือรับรองแขกได้อย่างดีจนประทับใจกลับไปแน่นอน

Brasserie By Water Library
เปิดบริการทุกวัน
วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี 11.00 - 22.00 น.
วันศุกร์-วันเสาร์ 11.00 - 00.30 น.
สามารถจองโต๊ะออนไลน์ได้อีกด้วยที่
โทร. 094-453-7777

#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto #foodblog
#foodblogger #foodreview #food #blogger
#thaiblogger #foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#BRASSERIEbyWATERLIBRARY
#WaterLibrary #Brasserie #FrenchThai
#food #Drink #Dessert #Coffee

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น