Ciao !!! ทักทายพร้อมกรีดร้อง
ด้วยความอิจฉาคนในเมืองย่านสุขุมวิทกันเลยทีเดียว
หลังจากที่ได้ไปลองอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ
อร่อยสุด ๆ อีก 1 ร้าน ที่เคยเป็นตำนานย่านหลังสวน
ทั้งเจ้าของ Mr.Antonio Calderazzo
และเชฟ Marco Calderazzo นั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นชาวอิตาเลียนแท้ ๆ
ที่มากประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น
การคัดเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ ฝีมือการปรุง
รวมถึงไวน์ทุกขวดนั้นจะต้องผ่าน Mr.Antonio ชิม
แล้วถึงเลือกมาวางจำหน่ายในร้านกันเลย
กับร้าน Calderazzo on 31
หรือ C on 31 ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31
(ก่อนถึงแยกทางลัดไป ซ.ประสานมิตร)
ชมรีวิวคลิปสั้น ๆ ได้ที่
https://youtu.be/VP1GsqKJ2XA
อย่าลืมกด Subscribe กันไว้ด้วยนะครับ
ชมรีวิวคลิปสั้น ๆ ได้ที่
https://youtu.be/VP1GsqKJ2XA
เชฟ Marco Calderazzo
เมื่อก้าวเข้าไปในร้านก็จะพบกับ
บรรยากาศอบอุ่น แสงไฟสลัว ๆ ในยามค่ำคืน
กับเพลงบรรเลงเคล้าคลอเคลีย
พร้อมการตกแต่งร้านสไตล์ cozy
ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์มาก ๆ
เข้ามาซ้ายมือจะเป็นบาร์เครื่องดื่ม พร้อมจัดโชว์ผลิตภัณฑ์
ที่ทางร้านเลือกใช้ โชว์คุณภาพเห็น ๆ กันเลย
ไวน์มีให้เลือกเพียบ
จัดโต๊ะแบ่งพื้นที่ได้สบายตาไม่อึดอัด และเข้าออกสะดวก
ลายวอลเปเปอร์เท่ห์ ๆ
ตัวร้านมี 2 ชั้น บริเวณชั้น 2 ก็สวยงามไม่แพ้ชั้น 1
การจัดโต๊ะมีเอียงบ้าง ตรงบ้าง เป็นสไตล์ที่ไม่จำเจ
ก็เลยไม่รอช้า ขอจัดเบา ๆ
ด้วยเครื่องดื่ม cocktail
แบบที่ชาวอิตาเลียนนิยมดื่มกัน
และยังเข้ากับอาหารได้ดีอย่าง Spritz
Spritz
ที่เป็นส่วนผสมของ Aperol กับ Prosecco
พร้อมส้มฝาน เรียกความสดชื่น
ก่อนเริ่มมื้ออาหารได้แจ่มมาก
Spritz ส่วนผสมของ Aperol กับ Prosecco
หรือใครถนัดสายไวน์ ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน
เพราะที่ร้านมีทั้งสปาร์คกลิ้งไวน์,
ไวน์ขาวและไวน์แดงดี ๆ ให้จัด
อย่างไวน์แดงแนะนำขวดนี้
AGLIANICO CERASO San Salvatore ปี 2015
AGLIANICO CERASO San Salvatore ปี 2015
ที่ให้รสชาตินุ่ม หอม หวานผลไม้ ถึงแม้จะฟูลบอดี้
แต่ก็ดื่มไม่ยาก เหมาะกับชีสและจานเนื้อมาก
แถมราคาก็ไม่แรงอีกด้วย เลือกตัวนี้
เพราะอาหารที่สั่งนั้นมีทั้งชีสและเนื้อ
และนอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลาย
ให้ได้เลือกกันอีกเพียบ
AGLIANICO CERASO San Salvatore ปี 2015
เอ้า ไปดูอาหารกันเลย แต่ต้องไม่ลืม
ขนมปัง complimentary 3 ชนิดที่นวด
และอบเองพร้อมกับซอสจิ้มที่ใช้พริกระฆังสีสวย
และอร่อยมาก ต้องลองกันเลย
ห้ามพลาดก่อนไปกินอาหารนะ
ขนมปัง complimentary 3 ชนิด
ซอสจิ้มที่ใช้พริกระฆังสีสวยและอร่อยมาก
- เรียกน้ำย่อยกันด้วย Caprese Salad
Caprese Salad
มะเขือเทศสด ๆ ลูกโต ๆ ฝานเป็นแว่น ๆ
วางสลับกับ Mozzarella ชีสที่ฝาน
เป็นแว่นเช่นกัน แต่งด้วยใบโหระพาสด
พร้อมกับราดซอสบัลซามิคสลัด
สูตรเฉพาะของทางร้าน ได้ความเป็นอิตาเลียนเต็ม ๆ
Caprese Salad
- Burrata Cheese
Burrata Cheese
บูราต้าชีส ด้านเปลือกนอกเป็น Mozzarella ชีส
เนื้อในเป็น Mozzarella เหลวผสมครีม
คนที่ชื่นชอบชีสโดยเฉพาะ Mozzarella หรือ
ชีสที่มีความนุ่ม ห้ามพลาดเลย เสิร์ฟมาพร้อมกับ
สลัดมะเขือเทศเชอร์รี่สดกรอบ น้ำสลัดแบบอิตาเลียนเบา ๆ
เข้ากันได้เป็นอย่างดีที่สุด
Burrata Cheese
- Caesar Salad
Caesar Salad
สลัดผักสดกรอบมากับเนื้ออกไก่นุ่มชุ่มฉ่ำ
ได้น้ำสลัดซีซ่าร์ที่เข้มข้นเกาะติดกับผักได้ดี
รสชาติไม่หนักเหมือนซีซ่าร์ร้านไหน ๆ
ทำให้กินได้เพลินมากและไม่เสียรสชาติผักด้วย
Caesar Salad
- N’DORATA 290 บาท
N’DORATA
เป็น Ricotta ชีสผสมพริกระฆังและมะกอก
จากเมืองกาลามาตา นำไปทอดจนกรอบ
สีเหลืองทอง ผิวนอกกรอบแต่ด้านในชีสนุ่มฟิน
N’DORATA
- พิซซ่า MARGHERITA 380 บาท
MARGHERITA
แป้งบางกรอบ แต่แป้งฟูเบาอย่างกับแป้งพาย
อร่อยลืมอ้วน ลืมว่าเป็นแป้งกันไปเลย
กับหน้ามาการิต้า ที่ใส่เพียงมอซซาเรล่าชีส
มะเขือเทศเชอร์รี่ และใบโหระพาสด
อีกทั้งแป้งนำเข้า SEMOLINA
กับซอสมะเขือเทศโฮมเมด
ทำให้เป็นพิซซ่าหน้าน้อยแต่อร่อยมากได้อย่างไม่เชื่อ
MARGHERITA
- พิซซ่าพัฟฟ์
แป้งพิซซ่าพับครึ่งสอดไส้เครื่องทะเลและมะกอกดำ
ผสมกับซอสมะเขือเทศโฮมเมดแล้วอบ
จนแป้งพองกรอบนอกนุ่มใน ถึงเครื่อง
ถึงอกถึงใจ อร่อยไม่แพ้พิซซ่าแบบออริจินัลเลย
พิซซ่าพัฟฟ์
- พาสต้า GAMBERI 360 บาท
GAMBERI
เป็นพาสต้าเส้นลิงกวินี่ผัดกุ้งลายเสือ
โดยที่ซอสนั้นใช้มันจากหัวกุ้ง
ผสมลงไปให้ความหอม เกาะเส้นที่ลวก
ได้ al dente หรือเด้งสู้ฟันกำลังอร่อย
ตัวกุ้งก็สะใจ ด้วยความสดและสุก
ในระดับพอดิบพอดีเข้ากันลงตัว
ด้วยรสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นไอทะเล
GAMBERI
GAMBERI
- ปลา AUSTRALIAN PRIME
DEEP SEA WILD FISH 780 บาท
AUSTRALIAN PRIME DEEP SEA WILD FISH
ปลาทะเลน้ำลึกเนื้อนุ่มแน่นสีขาว
จากทะเลออสเตรเลีย อบให้เนื้อชุ่ม
ปรุงเบา ๆ เพียงเกลือและพริกไทยดำ
เพือให้ได้สัมผัสถึงรสชาติความอร่อยของเนื้อปลา
เสิร์ฟมาพร้อมกับผัดแอนติโช๊ก และมันฝรั่ง
ฝานรูปกลีบดอกไม้อบโรสแมรี่
จานนี้เหมาะกับสายคลีนหรือสาว ๆมาก ๆ
แถมอร่อยมากด้วย
AUSTRALIAN PRIME DEEP SEA WILD FISH
AUSTRALIAN PRIME DEEP SEA WILD FISH
- เนื้อ T-BONE marinated
หนักถึง 1 กิโลกรัม 2,490 บาท
T-BONE marinated
T-BONE marinated
T-BONE marinated
ทางร้านเลือกใช้ Australian Black Angus
ที่เลี้ยงแบบอิสระ ให้ธัญพืชเป็นอาหารหลัก
และไม่เสริมฮอร์โมนใด ๆ โอ้ววววว
แค่บรรยายก็อยากจนน้ำลายไหลแล้ว
ย่างมาแบบมีเดียมแรร์ ทั้งนุ่มทั้งหอม
กินกับซอสไวน์แดงที่ใช้ไวน์ Aglianico ทำให้งวด
พร้อมกับผักย่างต่าง ๆ แล้วแทบจะขึ้นสวรรค์
T-BONE marinated
T-BONE marinated
T-BONE marinated
T-BONE marinated ฟินมากกกกกกกกกก ละลายในปากเลย
T-BONE marinated คู่กับไวน์แดงอร่อยมาก
- จานพิเศษ หอยแมงภู่ออสเตรเลียอบเกล็ดขนมปังและชีส
หอยแมงภู่ออสเตรเลียอบเกล็ดขนมปังและชีส
หอยแมลงภู่ออสเตรเลีย
มาแบบสด ๆ เป็น ๆ รสหวานฉ่ำ
กัดกินพร้อมเกล็ดขนมปังและชีสเข้ากันมาก ๆ
หอยแมงภู่ออสเตรเลียอบเกล็ดขนมปังและชีส
จบของคาวเราก็ต่อด้วยของหวาน
ที่ทางร้านและเชฟก็ทำเองใหม่ ๆ วันต่อวันอย่าง
- TIRAMISÚ zia TETTELLA 220 บาท
TIRAMISÚ zia TETTELLA
อร่อยกับ Mascarpone ชีส และ Ladyfingers
(หรือในภาษาอิตาเลียนเรียกว่า savoiardi)
ที่ชุ่มฉ่ำและหอมหวลไปด้วยกาแฟผสมเหล้าอิตาเลียน
กินแล้วฟินมาก ๆ กับของหวานจานนี้
TIRAMISÚ zia TETTELLA
TIRAMISÚ zia TETTELLA
- TORTA di MELE CIOCCOLATO 240 บาท
TORTA di MELE CIOCCOLATO
ช็อคโกแล็ตแอปเปิ้ลเค้กอบเนื้อฟูนุ่มหนักแน่น
รสชาติช็อคโกแล็ตเข้มข้น กินกับอิตาเลียนคัสตาร์ด
และไอศกรีมเจลาโต้รสวนิลาหอมหวานเย็น เป็นคอมโบที่ดีงาม
TORTA di MELE CIOCCOLATO
TORTA di MELE CIOCCOLATO
- พายส้มคัสตาร์ดอิตาเลียนและไอศกรีมซอร์เบท์รสมะนาว
พายส้มคัสตาร์ดอิตาเลียนและไอศกรีมซอร์เบท์รสมะนาว
เป็นของหวานที่ใช้ความเปรี้ยวเป็นตัวชูโรง
ให้ความปิดท้ายมื้ออาหารได้ดี แก้เลี่ยนด้วยความเปรี้ยว
ของส้มด้านบนและอิตาเลียนคัสตาร์ดที่มีรสเปรี้ยว
คล้ายเลมอนเคิร์ด บวกเข้ากับความเปรี้ยวเย็นสดชื่น
จากซอร์เบท์รสมะนาว ทำให้ได้ยิ้มแย้มกับความอร่อย
พายส้มคัสตาร์ดอิตาเลียนและไอศกรีมซอร์เบท์รสมะนาว
พายส้มคัสตาร์ดอิตาเลียนและไอศกรีมซอร์เบท์รสมะนาว
เครื่องดื่มกับของหวาน ก็มีชาร้อนแบบอิตาเลียนสไตล์ออริจินัล
ชาร้อนแบบอิตาเลียนสไตล์ออริจินัล
หรือจะเป็นกาแฟสดชงร้อนที่ผมชอบมากเพราะไม่ติดเปรี้ยวเลยก็ดี
ดับเบิ้ลเอสเพรสโซ่
แต่ถ้าจะข้ามไปจัด Liqueur (เหล้าหวาน)
ปิดท้ายมื้อแบบชาวอิตาเลียนเลยก็ได้
ไม่ว่าจะเป็น Limoncello ที่เหมาะสำหรับสาว ๆ
เพราะเป็นรสหวานผสมเปรี้ยวของเลมอนเพื่อช่วยย่อยอาหาร
Limoncello
และ Grappa ตัวแรงแอลกอฮอล์สูงสำหรับคนที่คอแข็งหน่อย
ซึ่งส่วนใหญ่ Grappa เหล้าอิตาเลียนตัวนี้จะทำจากเปลือกองุ่น
ที่นำไปหมักไวน์เสร็จเรียบร้อยแล้ว บอกได้ว่าอร่อยเลยล่ะ
Grappa
ก่อนกลับ ทางร้านยังแถมช็อคโกแล็ตผสมนูกัตและ
ช็อคโกแล็ตผสมสมุนไพร ที่มีเฉพาะที่อิตาลีให้ได้ลองอีกด้วย
อร่อยมาก ๆ ครับ
จบมื้อนี้แล้ว ทำให้ Calderazzo on 31 นั้น
กลายเป็นร้านอาหารอิตาเลียนในดวงใจของผม
ไปอีก 1 ร้าน อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทุกสิ่งอย่าง
ของร้าน Calderazzo on 31 ถูกใส่ใจและถ่ายทอด
ลงมายังอาหารทุกจาน ภาชนะทุกชิ้น การตกแต่งร้าน
บรรยากาศ รวมถึงการบริการดีแต่มีความเป็นกันเอง
โดยเฉพาะกับ Mr.Antonio รวมไปถึงเชฟ Marco ด้วย
ไปลองพิสูจน์กันได้เลยครับ Addio !!!
Calderazzo on 31 เปิดให้บริการทุกวัน
เวลา 11.30 - 23.30 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะ
โทร.022583828
การเดินทาง : Calderazzo On 31
จอดรถได้ฝั่งตรงข้ามประมาณ 10 คัน
ในแบบ valet parking
#OnTable #ontcublogspotcom #ontcu
#foodphotographer #foodphoto #foodblog
#foodblogger #foodreview #food #blogger
#thaiblogger #foodpinterest
#AllStyleThaiBloggers
#CalderazzoOn31 #Calderazzo
#ItalianFood #Beef #Steak #Grill
#Pasta #Pizza #Cheese #wine #drink
#Cheese #dessert #cocktail #coffee
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น