รีวิวนี้ ผมจะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างครับ
หลังจากที่ริวิวของกินมาหนัก ๆ กันแล้ว
เรามาพักผ่อนกันบ้าง ซึ่งผมมีโอกาสได้เดินทาง
ไปทำธุระที่จังหวัดเชียงใหม่
เลยมองหาที่พักที่สามารถตอบสนองความสุข
ผ่อนคลาย ให้ความสบายได้อย่างวิเศษสุด
เลยนึกถึงที่พักที่ต้องมีความเป็นธรรมชาติ เงียบสงบ
บรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม และที่สำคัญ
ต้องมีสปาชั้นยอดอยู่ในบริเวณที่พัก พร้อมสระว่ายน้ำ
เมื่อตั้งโจทย์ได้แล้ว ก็ลองค้นหาดูด้วยช่องทางต่าง ๆ
รวมถึงมีรุ่นพี่แนะนำ จึงได้มาพบกับที่พัก
ที่ตรงตามความต้องการและเป็นที่มาของรีวิวครั้งนี้ครับ
กับ "Oasis Baan Saen Doi Spa Resort"
"โอเอซิส บ้านแสนดอย สปา รีสอร์ท"
โอเอซิส บ้านแสนดอย สปา รีสอร์ท นั้น
ตั้งอยู่ในโครงการบ้านในฝัน ถนนเลียบคลองชลประทาน
ก่อนถึงแยกแม่เหียะ ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่,
สนามบิน และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี สามารถดูแผนที่
ได้ที่นี่ครับ แผนที่โอเอซิส บ้านแสนดอย สปา รีสอร์ท
เมื่อเข้ามายังภายในโครงการบ้านในฝัน
เราก็จะเห็นป้ายรีสอร์ทบอกทางมาตลอดครับ
หาไม่ยากเลยครับ จะมีป้ายด้านหน้าใหญ่ชัดเจน
พร้อมที่จอดรถด้านหน้าตัวรีสอร์ท
สัมผัสแรกที่ได้รับคือความสงบร่มรื่น
และด้วยจำนวนห้องเพียง 11 ห้องพัก
(2 ฝั่งถนน) ทำให้รู้สึกพิเศษขึ้นมาอีกเพียบ
ทางเข้าโอ่โถงสวยงามแบบไทยสไตล์ล้านนา
เสาไม้ใหญ่ เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
ก้าวเข้าสู่บริเวณล็อบบี้ เป็นห้องโถงใหญ่โอ่อ่า
แต่อบอุ่น กลิ่นหอมของสมุนไพรและดอกไม้จาง ๆ
ทำให้รู้สึกดีกับย่างก้าวแรกที่มาถึง
ขับรถมาเหนื่อย ๆ ได้เครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำตะไคร้
และผ้าเย็นหอมกลิ่นตะไคร้ สดชื่นกระปรี้กระเป่าขึ้นมาทันที
ทำให้มีแรง เดินถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ
และห้องพักหลาย ๆ แบบมาฝากกันในรีวิวนี้ได้เลยครับ
บริเวณส่วนของล็อบบี้และทางเดินไปยังปีกซ้ายและขวา
เพื่อไปสู่ห้องพักแบบต่าง ๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
และหมอนอิงลายสวย ๆ แบบล้านนา แล้วเราก็ไปชม
ห้องพักแบบแรกกันเลยครับ ซึ่งเป็นแบบที่ใหญ่ที่สุด
ห้องพักแบบ The Grand Suite
เป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่เหมาชั้น 2 ของรีสอร์ทไว้
มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ภายในห้องพัก
จะประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องครัว
ระเบียงและศาลาส่วนตัว โต๊ะทำงาน รวมไปถึงห้องนอน
แบบ Luxury Suite และแบบ Deluxe
พร้อมห้องน้ำในตัว อีกแบบละ 1 ห้อง
ว่าแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่าครับ ว่าแบบห้อง
ที่เหมาะกับการมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ จะมีอะไรบ้าง
เมื่อเปิดประตูเดินเข้ามา จะพบกับห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่
ที่มีที่นั่งกึ่งนอนแบบ day bed ขนาดใหญ่มาก ๆ
ไว้นั่ง ๆ นอน ๆ ดูรายการโทรทัศน์หรือดูหนังจากเครื่องเล่น
โฮมเธียร์เตอร์ ที่มีไว้ให้พร้อมสรรพครับ
เลี้ยวขวาเข้ามาจากห้องนั่งเล่น
จะเป็นห้องครัวครับ มีเตาไฟฟ้า อ่างซิงค์
ตู้เย็นขนาดใหญ่ ไว้ให้พร้อมทำกิจกรรม
ประกอบอาหารกันเองได้เล็ก ๆ น้อย ๆ อีกด้วย
มองย้อนกลับมาทางซ้ายของห้องนั่งเล่น
เราจะพบกับระเบียงขนาดใหญ่พร้อมศาลาส่วนตัว
ไว้พักผ่อนหย่อนใจ นอนรับแสงแดดยามเช้า
หรือจะเฮฮาสังสรรค์กันในยามค่ำคืนก็ยังได้
จากระเบียงจะเป็นทางเดินไปสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องครับ
ห้องแรกนี้จะเป็นห้องแบบ Deluxe
มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 55 ตารางเมตร
เตียงนอนเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียง
มีระเบียง โต๊ะทำงาน และโทรทัศน์ดาวเทียม
มินิบาร์ ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำแยกออกมาเป็นสัดส่วน
และอุปกรณ์ครบครัน
ห้องถัดมา เป็นแบบ Luxury Suite
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร
เตียงนอนเป็นแบบเตียง Double Bed
หรือเตียงขนาด King ไซซ์ มีมุมนั่งเล่น
โต๊ะทำงาน และโทรทัศน์ดาวเทียมเช่นเดียวกัน
แต่ห้องน้ำของห้องนอนนี้จะเป็นแบบ Walk in Closet
มีมินิบาร์พร้อมระหว่างทางเดินไปห้องน้ำกับห้องนอน
แยกส่วนแห้งส่วนเปียก และมีฝักบัวแบบ Rain Shower
กับอ่างจากุซซี่ให้ได้เลือกความสุขของการอาบน้ำครับ
จบชั้น 2 ห้อง The Grand Suite กันแล้ว ลงไปชั้นล่างกันครับ
มาดูห้อง Deluxe กันครับ เป็นห้องแบบมาตรฐาน
ห้องนี้มีขนาด 55 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยสไตล์ล้านนา
มีของตกแต่งห้องจำพวกทองแดง เงิน และผ้าทอ
เตียงแบบ Twin พร้อมโต๊ะทำงานและโทรทัศน์ดาวเทียม
หมอนลายผ้าสวยงามสมเป็นล้านนา
ห้องน้ำแยกออกจากห้องนอน โดยมีมินิบาร์
ตู้เสื้อผ้า เชื่อมห้องทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
ที่อาบน้ำจะเป็นฝักบัวแบบ Rain Shower
มาต่อกันที่ห้องอีกแบบครับ กับ ห้อง Corner Suite
ห้อง Corner Suite มีพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร
ตกแต่งสไตล์ล้านนาเช่นกัน เป็นเตียงแบบ Double
พร้อมกับมุมนั่งเล่น โต๊ะทำงานและโทรทัศน์ดาวเทียม
และระเบียงขนาดใหญ่หลังม่านไม้ตรงมุมนั่งเล่น
มินิบาร์และตู้เสื้อผ้าแบบ Walk in Closet เช่นเดียวกัน
มี Rain Shower พร้อมกระจกกั้นกันน้ำกระเด็นครับ
ผ่านไปแล้วห้อง 3 แบบ ต่อไปเป็นแบบสุดท้าย
ของฝั่งนี้ และเป็นแบบที่ผมเข้าพักครับ ไปเจาะลึกกันเลย
ห้องพักแบบ Luxury Suite
มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 75 ตารางเมตร
ตกแต่งสไตล์ล้านนาด้วยผ้าทอมือเป็นหลัก
ก้าวแรกที่เข้ามายังห้องนี้ รู้สึกประทับใจมาก
กว่าภาพที่เคยเห็นก่อนจะจองมาครับ ห้องมีขนาด
ที่กว้างขวางมาก รู้สึกสบายเพียงแค่ได้เข้ามาในห้องนี้
โต๊ะทำงานและชุดโซฟานั่งเล่น ไว้ดูโทรทัศน์ดาวเทียม
จัดเป็นสัดส่วนไว้ตรงกลางห้องได้อย่างเหมาะเจาะ
ใต้โต๊ะทำงานมีชุดปลั๊กไฟซ่อนใต้พื้นได้ใช้งานง่ายเลย
มีจดหมายถึงผู้เข้าพักด้วย กุญแจห้องพักสวยงาม
เตียงนอนเป็นแบบ Double Bed (King Size)
เตียงมีความนุ่มสบายกำลังดี ไม่ยุบยวบและไม่แข็งกระด้าง
หมอนขนเป็ดนุ่มสบายมากสำหรับการนอนพักผ่อน
แต่ผมต้องใช้หลายใบเพราะเป็นคนนอนหมอนสูง
เนื่องจากมีปัญหาเรื่องช่วงต้นคออยู่ครับ แต่นอนสบายจริง ๆ
บริเวณหัวเตียงทั้ง 2 ด้านก็มีโคมไฟอ่านหนังสือแยกชุด
มี Iphone docking ไว้บริการให้ด้วยครับ เสียดาย ๆ
เพราะผมใช้ android เลยอดเล่นเลยครับ และถ้ากลัวยุง
ก็มียากันยุงไฟฟ้าไว้ให้เสียบเพิ่มเติมอีกด้วย
ที่ปลายเตียง จะมีช่องทางเดินเพื่อไปยังห้องน้ำ
ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของมินิบาร์ ตู้เย็น ตู้เซฟ
โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า
ตู้เซฟระบบสัมผัส มินิบาร์และตู้เย็น
ห้องพักให้บริการน้ำดื่มวันละ 2 ขวดฟรีครับ
โต๊ะเครื่องแป้ง ไว้แต่งตัวหลังจากออกจากห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้า พร้อมชุดคลุม รองเท้าสลิปเปอร์
ไดร์เป่าผม ไม้แขวนเสื้อและถุงผ้าพร้อมผ้าเช็ดตัว
ที่สามารถนำไปใช้บริเวณสระว่ายน้ำได้ครับ
อ่างล้างหน้า 2 อ่างพร้อมกระจกขนาดใหญ่
และชุดอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็น
สบู่เหลวล้างมือ+โลชั่น กลิ่นหอมมาก ๆ
เป็นกลิ่นสมุนไพรและดอกไม้ แก้วน้ำ ผ้าเช็ดมือ
และชุดแปรงสีฟัน หวี หมวกคลุมผม ฯ มีให้พร้อม
ชักโครกพร้อมสายชำระ ห้องอาบน้ำฝักบัวแบบ
Rain Shower พร้อมประตูกระจกกั้นน้ำกระเด็น
และอ่างจากุซซี่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาพร้อมกับ
ระบบน้ำวน นวดตัวได้สบาย ๆ
เติมสบู่ทำฟอง นอนแช่ นวดตัวสบาย ๆ
พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ไม่อยากจะลุก
ออกจากอ่างเลยครับ 555
ศาลาด้านหน้ารีสอร์ท ที่สามารถมองจากห้องนอนได้
เป็นยังไงบ้างครับ กับห้องพักแต่ละแบบ สามารถเลือกดู
ราคาเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ คลิ๊กเพื่อดูราคา
นี่เป็นเพียงฝั่งที่ผมเข้าพักเท่านั้นนะครับ
รีสอร์ทยังมีอีกฝั่งที่เป็น Pool Connect สามารถ
เดินออกจากห้องพักมาเป็นสระว่ายน้ำได้
แต่ผมไม่ได้ไปถ่ายภาพมาให้ชม
เนื่องจากมีลูกค้าเข้าพักเต็มทุกห้องครับ
พอมีเวลาอีกนิดหน่อย ได้ออกมาเก็บภาพบรรยากาศ
ด้านหน้ารีสอร์ทครับ สวยงามร่มรื่นกับธรรมชาติ
และการตกแต่ง และจักรยานสามารถนำไปขี่เล่น
ออกกำลังกายได้ทั่วโครงการอีกด้วยครับ...
เดี๋ยวเราไปดูอาหารกันครับ เพราะที่พักจะรวม
อาหารเช้าไว้ให้แล้วครับ
ห้องอาหารเช้านั้นตั้งอยู่บริเวณฝั่งปีกซ้ายของรีสอร์ท
(ใต้ห้อง The Grand Suite ครับ)
ให้บริการตั้งแต่เวลา 07:00-10:00 น. ของทุกวัน
โดยที่ในแต่ละวัน ทาง Reception จะมีรายการ
ของอาหารมาให้เราเลือกไว้ล่วงหน้า ว่าจะกินอะไรบ้าง
ซึ่งถ้าหากไม่พอ เราก็สามารถมาสั่งเพิ่มที่ห้องอาหาร
ได้อีกด้วยครับ ดีมาก ๆ เลยล่ะครับ
เพราะอาหารจะทำออกมาสดใหม่ทุกจานในแบบ
a la carte ถูกใจผมและเป็นวิธีที่ดูแลแขก
ที่มาพัก อย่างเอาใจใส่จริง ๆ ครับ
ภาพอาหารเช้าทั้งหมดนี้ ผมรวบยอด 2 วัน
ที่ได้พักมาให้ชมกันเลยนะครับ ที่เห็นนี่ยังไม่ครบ
ทุกเมนูที่สั่งได้นะครับ มีทั้ง ABF ข้าวต้ม โจ๊ก
แซนวิช แพนเค้ก ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ เป็นต้น
เครื่องดื่มเลือกได้ตามชอบ ทั้งน้ำเปล่า นม
น้ำส้มและน้ำฝรั่ง
ชา กาแฟสด ขนมปังพร้อมเครื่องปิ้งและเนย+แยม
ไว้รองท้องระหว่างรออาหารครับ
อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร มีซีเรียล มูสลี่
ให้ได้กินด้วยครับ
ชุดแรกแซนวิชแฮมชีส น้ำส้ม ผลไม้สดและโยเกิร์ต
ตามด้วยน้ำเต้าหู้ ABF ไข่ดาว หมูแฮมไส้กรอก
และ ABF ไข่เบเนดิกซ์ หมูแฮมไส้กรอก
ซึ่งไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้ครับ
จานนี้เป็นแซนวิชแฮมชีสแบบอบมาแล้ว
แพนเค้กกล้วย ราดน้ำผึ้ง เมนูยอดฮิตมื้อเช้าครับ
และก็อร่อยสมกับเป็นเมนูยอดฮิต แป้งดีมาก ๆ
สลัดผัก โอวัลติน กาแฟสด น้ำส้ม
แซนวิชแฮมชีส ผลไม้ แพนเค้ก
โจ๊กหมู
ข้าวต้มปลา
แซนวิช ไช่ลวก กาแฟ
ทุกจานที่เห็นนั้นล้วนแล้วแต่ใช้ของคุณภาพดี
เกรดพรีเมียม อร่อยทุกอย่างจริง ๆ ครับ
บรรยากาศรอบ ๆ เมื่อมองจากห้องอาหารออกไป
อิ่มมื้อเช้ากันแล้ว เดี๋ยวจะพาไปต่อกับ สปาที่แสน
จะสุดยอดกันครับ
จะขี่จักรยานย่อยก่อนก็ดีนะครับ ก่อนไปนวดไปทำสปา
"Oasis Spa Baan San Doi"
"โอเอซิส สปา บ้านแสนดอย"
"โอเอซิส สปา บ้านแสนดอย"
ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับตัวรีสอร์ทฝั่งที่ผมเข้าพัก
บริเวณล็อบบี้ของโอเอซิสสปา กว้างขวางไม่แพ้รีสอร์ท
เจ้าหน้าที่ต้อนรับจะพามาพูดคุยและเลือกแพ็คเกจ
ซึ่งผมได้ทำการเลือกและจองเวลามาก่อนแล้วครับ
สามารถเลือกดูแพ็คเกจได้ที่นี่ คลิ๊กเพื่อดูแพ็เกจสปา
ชั้นวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำสปา
และของที่ระลึกครับ
ซึ่ง โอเอซิส สปา เพิ่งได้รางวัลจากการท่องเที่ยวจีน
ให้เป็นสปายอดเยี่ยม 1 ใน 10 ที่ดีที่สุดของไทย
เดินชมห้องนวดและทำทรีทเม้นต์สปากันก่อนครับ
ตกแต่งแบบไทย ๆ ได้อย่างลงตัว
ห้องสามารถกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว
หรือจะเปิดเชื่อมต่อกันในกรณีมากันเป็นกลุ่มก็ย่อมได้
ห้องอาบน้ำพร้อม
สบู่เหลวสีทอง หอมสมุรไพรและดอกไม้มาก ๆ
ห้องซาวน่าและที่อาบน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง
เดินชมสถานที่เรียบร้อย กลับมานั่งคุยกับเจ้าหน้าที่
เค้าจะมีแบบสอบถามให้กรอก ว่าเราต้องการ
ระดับความหนักในการนวดแบบไหน เน้นจุดไหน
หลีกเลี่ยงจุดไหน ผ่าตัดมาหรือไม่รวมถึง
ว่าเรามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า ซึ่งเป็นข้อมูล
ที่สำคัญและควรจะแจ้งให้กับ Therapist ได้ทราบครับ
แล้วก็ถึงเวลาของผม ซึ่งผมเลือกการนวดแบบ
Signature ของ Oasis Spa ไว้ครับ กับ
"King of Oasis Massage"
ภายในห้องนวดจะมีกล่องให้เราเก็บสมบัติครับ
สวยงามเลยล่ะ
สำหรับการนวด Signature "King of Oasis Massage"
จะเป็นการนวดแบบไทยกดจุดพร้อมลูกประคบสมุนไพร
ที่ให้ความหนักหน่วงในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่มีความตึง
พร้อมกับการนวดน้ำมันอโรม่าอุ่น ๆ หอม ๆ ไล่ตามเส้นเอ็น
และกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดตึง ช่วยให้ผ่อนคลาย
และคืนความสดชื่นให้แก่กล้ามเนื้อทั่วตัว โดยใช้เวลา
รวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมงครับ ราคา Signature นี้ 3,900++ บาท
เป็นการนวดที่คุ้มค่ามาก ๆ สบายตัวสุด ๆ ใครชอบนวดหนัก
และไล่เส้นทั้งลูกประคบและน้ำมันอโรม่า จะติดใจได้เลยครับ
นวดเสร็จแล้วก็มานั่งจิบชาสมุนไพรร้อน ๆ
เรียกความสดชื่น ให้ตื่นจากความเพลิดเพลิน
ที่ได้รับจากการนวดชั้นยอด เพราะนวดดีมาก
จนผมเผลอหลับสบายไปด้วยเลยล่ะครับ
และนอกจากกิจกรรมการขี่จักรยาน นวด สปา
แล้วก็ยังสามารถมาใช้บริการสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ
ของทางโครงการบ้านในฝันได้อีกด้วยนะครับ
สระว่ายน้ำใหญ่ มีแบบสระเด็กและสระผู้ใหญ่สวยงามครับ
การพักผ่อนจากการมาทำธุระครั้งนี้ 3 วัน 2 คืน
ผ่านไปเร็วมาก ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่อยาก
ให้ผ่านไปเร็วเลยจริง ๆ ครับ กับเวลาวันสบาย ๆ
กับการมาพักผ่อนที่รีสอร์ทที่ดีที่สุดอีก 1 แห่ง
ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความเป็นส่วนตัว หรูหรา
สมราคา อาหารเช้าแบบสดใหม่ นวดและสปาแบบสุดยอด
ถ้าได้กลับไปเชียงใหม่อีก ผมก็คงจะไม่ลังเลที่จะเลือก
เข้าพักที่ Oasis Baan San Doi Spa Resort
แห่งนี้เป็นอีกแน่แท้ ถ้าจังหวะที่ไปห้องพักไม่เต็มซะก่อนนะครับ
และรีวิวต่อไป จะพาไปอิ่มอร่อยกับร้านอาหาร กาแฟ
ที่ร่มรื่นและอร่อยกันครับ
กับ Cafe de Oasis <<< คลิ๊กเพื่ออ่านรีวิว
สนใจสอบถามรายละเอียด สำรองที่พัก
และจองสปาได้ที่
โทร : 053-920-199
E-mail : cs@oasisluxury.net
https:// www.oasisluxury.net/
https://www.facebook.com/ oasisluxury/
https://www.facebook.com/ Oasisfanpage/
และจองสปาได้ที่
โทร : 053-920-199
E-mail : cs@oasisluxury.net
https://
https://www.facebook.com/
https://www.facebook.com/
ขอให้มีความสุุขไปกับรีวิวที่พักและสปาอันแสนสบายกันนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น