Siam Bayshore Resort & Spa, Pattaya

รีวิวนี้ ผมจะพากลับมาพักผ่อนหย่อนใจกันที่พัทยาอีกครั้ง

พัทยาเมืองแห่งแสงสี แต่ไม่ได้แค่ความบันเทิงรื่นเริงใจ

ให้ได้มาสัมผัสเท่านั้น หากแต่ยังมี "แอ่งแห่งศรัทธา"

เป็นที่ดึงดูดความสวยงามในความสงบร่มรื่นของธรรมะอยู่ด้วย

ซึ่งท้ายรีวิวนี้ ผมจะพาไปเที่ยวยัง "แอ่งแห่งศรัทธา" ที่ว่ากันครับ

ก่อนอื่นนั้น ขอทำการรีวิวที่พักที่เก่าแก่แต่ได้รับการรีโนเวท

มาอย่างสวยงาม ทันสมัย อีก 1 แห่งในพัทยา กับโรงแรม

SIAM BAYSHORE RESORT & SPA กันครับ

SIAM BAYSHORE RESORT & SPA เป็นโรงแรมเก่าแก่

อันดับแรกของเครือสุโกศล จากทั้งหมด 5 โรงแรมด้วยกัน

ซึ่งเป็นโรงแรมที่อยู่ในพัทยาถึง 3 โรงแรม อีก 2 โรงแรม

อยู่ในกรุงเทพมหานคร

SIAM BAYSHORE RESORT & SPA

ตั้งอยู่สุดทางของพัทยาใต้ ติดกับ
Walking Street เลยครับ เดินทางจาก กทม.

มาเพียง 150 กม.เท่านั้น จุดสังเกตอีกจุด

ก็คืออยู่ใกล้กับท่าเรือแหลม Bali-Hai ครับ
อายุอานามของโรงแรมก็ประมาณ 40 กว่าปีครับ
ผ่านการรีโนเวทมาหลายครั้ง
ได้รับความผสมผสานการตกแต่งจากคุณกมลา สุโกศล แคล์ป

และคุณกฤษดา สุโกศล แคล์ป หรือที่เรารู้จักกันในนาม

คุณน้อย วงพรู ได้อย่างมีสไตล์ แต่ยังคงรักษาซึ่งไว้

ในความร่มรื่นของธรรมชาติบนเนื้อที่กว่า 45 ไร่

ทำให้ SIAM BAYSHORE RESORT & SPA

สามารถปลูกต้นไม้ต่าง ๆ นานาอยู่ภายในตัวโรงแรม

กลายเป็นปอด เป็นโอเอซิสของพัทยาไปโดยปริยาย
ไม่ว่าจะเป็นตามทางเดิน ล็อบบี้ สปา
สระว่ายน้ำ ก็มีการปลูกต้นไม้นานาพันธุ์
ไว้ให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์กันอย่างชุ่มปอด

 

 
บริเวณโรงแรม SIAM BAYSHORE RESORT & SPA
 มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณล็อบบี้ส่วนของโรงแรม
ที่กว้างขวางและดูหรูหรา พร้อมเคาท์เตอร์เช็คอิน
และพนักงานที่คอยบริการอย่างไม่ขาดสาย

ณ จุดนี้เราจะได้รับ Welcome Drink

เป็นน้ำเผือก(ผงเผือกผสมนม) มาพร้อมเปาะเปี๊ยะ

ไส้วุ้นเส้น และไส้กุ้งแสนอร่อยพร้อมผ้าเย็นหอม

กลิ่นสมุนไพรชื่นใจ และ Welcome Drink

ก็ยังมีแบบน้ำกระเจี๊ยบและขนมอีกด้วยนะครับ

สระว่ายน้ำ 2 สระ ที่ในสวนสวยพร้อมกับสไลด์เดอร์ขนาดใหญ่

และบาร์เครื่องดื่มที่คอยบริการคลายร้อนริมสระว่ายน้ำ

และริมฝั่งชายหาดเป็น Beach Club ที่สามารถมองวิวทะเล

แปลงผักบุ้งทะเลสาธิตที่ทางคุณมาริสา สุโกศล แคล์ป

ได้ทำการปลูกรักษาทัศนยภาพเอาไว้

รวมถึงวิวท่าเรือและแหลมบาลีฮายก็เห็นได้อย่างเต็มตา

หากเมื่อยล้า จะมาผ่อนคลายด้วยสปา

ที่ โลตัส สปา ออฟ สยาม ก็มี Therapist ฝีมือดี
กับบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติไว้บริการ

แพคเกจการนวดก็มีหลากหลายให้เลือก

ไม่ว่าจะเป็นการนวดลดคลายความอ่อนล้า

นวดแบบไทยดั้งเดิม ก็สามารถปรึกษา Therapist

และดูตามความต้องการของตัวเราเองก็ย่อมได้
(ขอบคุณพี่ชัย จาก Spa Paradise เอื้อเฟื้อช่วงเวลาสำหรับถ่ายภาพ)

สนามเทนนิสมากถึง 6 สนามพร้อมฟิตเนส

อยากออกกำลังกาย ที่นี่ก็จัดให้ได้พร้อม

ห้องประชุมสัมมนาไว้รองรับและ
อำนวยความสะดวก สำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ

เรียกได้ว่า สามารถมาจัดประชุมสัมมนาแล้วก็

พักผ่อนไปได้ในที่เดียวเลยครับ

ด้านห้องอาหาร บาร์ มีอีกหลายห้องให้เลือกตามชอบ อาทิ

The Explorer Bar & Lounge

ที่ตกแต่งอย่างพิเศษด้วยโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่เคยจมอยู่ก้นทะเล

กับเฟอร์นิเจอร์เก่าสไตล์ไทยและยุโรปผสมผสานกันอย่างลงตัว

เสพศิลป์ไปพร้อมกับจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ไป สบายอะไรอย่างนี้ครับ

นอกจากนี้ยังมีโต๊ะพูลไว้คอยบริการด้วย

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00-01:00 น.

 

Siam Elephant Bar and Restaurant

ห้องอาหารที่ให้บริการอาหารไทยและเครื่องดื่มนานาชนิด

ภายในห้องอาหารแบ่งเป็น 2 ส่วนคืออินดอร์และเอาท์ดอร์

 

ซึ่งบริเวณเอาท์ดอร์ยังเป็นสถานที่ทำกิจกรรม Cooking Class

ที่แสนสนุกสนาน ผู้ทำกิจกรรมจะได้รับสูตรอาหาร

ผ้ากันเปื้อนและประกาศนียบัตร เป็นต้น
กลับไปประดับบ้านและทำกินกันที่บ้านอีกด้วย
ทั้งหมดในราคาเพียง 999 บาท net

ซึ่งทางคุณโต้ง ศรัณย์ GM ของโรงแรมเป็นผู้นำสาธิต

ทำ 3 เมนูคือ ต้มจี๊ดจ๊าดกระดูกหมูอ่อน, ทอดมันปลาทูนึ่ง

และยำไก่กรอบสมุนไพร ซึ่งแต่ละอย่างอร่อยแบบที่ทำได้ง่าย ๆ เลย

และที่ห้องอาหารนี้ ผมได้มีโอกาสลองทานอาหารกลางวัน

กับเมนูที่ออกมาจาก Cooking Class ทั้ง ต้มจี๊ดจ๊าดกระดูกหมูอ่อน,

ทอดมันปลาทูนึ่ง, ยำไก่กรอบสมุนไพร รวมถึงอาหารจีนอีกหลายจาน

ที่รสชาติดี เช่น คะน้าฮ่องกงเจี๋ยนซอสเนื้อปู, ขาหมูน้ำแดง

และไก่แช่เหล้า เครื่องดื่มชาเย็น กาแฟเย็น ตบท้ายด้วยของหวาน

อย่างน้ำมะพร้าวสดแช่แข็งพร้อมเนื้อมะพร้าวและถั่วลิสง

แล้วก็ตามด้วยเอสเพรสโซ่ดับเบิ้ลช็อตอีก 1 แก้ว อิ่มอร่อยอีก 1 มื้อเลย

 

SunRise SunSet Restaurant

เป็นห้องอาหารสไตล์ all day dining คือเปิดทั้งวันครับ

สั่งอาหารได้ทั้งวัน ให้บริการอาหารอร่อย ๆ จากหลายเมนู

ทั่วทุกมุมโลก

ที่ห้องอาหารนี้ยังเป็นที่ให้บริการอาหารเช้า

สไตล์บุฟเฟ่ต์ เริ่มไลน์ตั้งแต่ 06:00-11:00 น. เรียกได้ว่า

กินอาหารเช้ากันยาว ๆ ไม่ต้องกินอาหารเที่ยงเลยก็ยังได้

เพราะอาหารเยอะมาก ๆ หลากหลายอีกด้วย

ตามที่ผมมีโอกาสได้กิน ตามภาพเลยครับ

เยอะมากจนเลือกกินได้อิ่มไปถึงเที่ยงกันเลย

และยังได้ลองอาหารจีนเด็ด ๆ กันอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นซาลาเปาไส้หมูแดง ขนมจีบหมู ฮะเก๋ากุ้ง

เกี๊ยวน้ำกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้กุ้ง เส้นใหญ่ราดหน้ากุ้งใส่เต้าซี่

ขนมกรอบพุทราจีนเป็นของหวานปิดท้ายครับ ไม่ผิดหวังเลย

The Greenery

โถงชั้นล่างของ Ocean Wing ที่จัดอย่างมีเสน่ห์ น่านั่งพักผ่อน

พร้อมจิบค็อกเทลหลังจากเหน็ดเหนื่อยและสนุกสนานจากการเล่นน้ำ

หรือช็อปปิ้งมาทั้งวัน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08:00-01:00 น.

Garden Pavilion Cafe

ที่ตรงนี้ สามารถเพลินเพลินกับอาหารว่างเบา ๆ อาหารเที่ยงแบบจานด่วน

ค็อกเทลเย็น ๆ ระหว่างวิวริมสวนสวยกับสระว่ายน้ำ

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08:00-18:00 น.

Bali-Hai by The Sea

ให้บริการ ซีฟู๊ด บาร์บีคิว บุฟเฟ่ต์ ริมบรรยากาศชายหาดและทะเล

สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลย่าง BBQ และไลน์อาหาร

นานาชาติ พร้อมของหวานและเครื่องดื่มต่าง ๆ มากมายพร้อมไป

กับการฟังเพลงดนตรีสดและบรรยากาศริมทะเลอันแสนโรแมนติก

อาหารทะเลสดใหม่ คุ้มค่ากับราคา 880 บาท net

แถมลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมยังได้รับส่วนลด 15% เพิ่มอีกด้วย 

 

ไลน์อาหารของ Bali-Hai by the Sea

เป็นยังไงบ้างครับ เยอะอย่างที่บอกมั้ยครับ คุ้มมาก ๆ

กับบุฟเฟ่ต์ซีฟู๊ด บาร์บีคิว และอาหารนานาชาติ

เป็นที่อิ่มท้องที่ต้องมาลองกันเลยครับ

บรรยากาศและอาหารที่กินไปนั้น อิ่มทั้งท้องและใจ

เพราะมีความสุขกับเสียงเพลงและบรรยากาศทะเลพัทยา

ยามค่ำคืนครับ

 
และ Bali-Hai Chinese and Seafood

ห้องอาหารจีนและอาหารทะเล เสียดายไม่มีมื้อให้ได้ลองครับ

บริการอาหารจีนสไตล์เสฉวนและเซี่ยงไฮ้ และไฮไลท์

คือเป็ดปักกิ่งที่ดีที่สุดในพัทยา... เมนูนี้ไม่พลาด

เพราะได้จองล่วงหน้าไว้แล้วครับ

ห้องอาหาร เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 18:00-23:00 น.

เป็ดปักกิ่งที่อร่อยที่สุดในพัทยา ต้องลองอีก 1 เมนูครับ

เป็นยังไงบ้างครับกับห้องอาหารและบาร์ที่มีไว้บริการ การดื่ม กิน
อย่างสุดแสนอร่อยด้วยรสชาติ คุณภาพ การบริการ

และบรรยากาศที่สวยงาม ที่มีให้เลือกมากมายขนาดนี้

เล็งกันดี ๆ เลยครับว่าจะลองมื้อไหนที่ห้องอาหารไหน

แทบจะไม่ต้องออกไปนอกโรงแรมเลยครับสำหรับอาหารการกิน

มาทางด้านห้องพักกันบ้างครับ
ห้องพักทั้งโรงแรมจะมีทั้งหมด 5 แบบ

ซึ่งทุกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักครบครัน

และข้อดีที่ผมชอบอีกอย่างของที่นี่คือ

เตียงแบบทวินนั้นใหญ่ถึง 4 ฟุตเลยครับ

1.Siam Villa เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนแบบเป็นครอบครัว

เสียดายที่ผมไม่ได้ไปถ่ายภาพเก็บมาให้ชมกันได้

เพราะแขกพักเต็มครับ ไม่อยากไปรบกวน

เลยขออธิบายห้องพักโดยสังเขปแบบไม่มีภาพนะครับ

Siam Villa มีพื้นที่กว้าง 180 ตารางเมตร เหมาะสำหรับมาพัก

เป็นครอบครัวหรือแบบกลุ่ม ด้วยความที่ Villa นี้ใหญ่มาก

มีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง (คิงไซซ์ 2 และเตียงเดี่ยวอีก 2)
ห้องน้ำ 3 ห้อง พร้อมห้องครัวขนาดใหญ่ ห้องรับประทานอาหาร

และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือ

หรือทำกิจกรรมสนุกสนานเฮฮากันได้ครับ

2.Deluxe Suite ห้องสูทขนาดใหญ่ครบทุกฟังค์ชั่น
และตกแต่งแตกต่างในแต่ละห้อง ผมเก็บภาพห้องที่ตกแต่ง

แตกต่างกันมาให้ชมกันถึง 3 แบบครับทั้งแบบอาหรับ

แบบจีน และแบบชิค ๆ ห้อง Deluxe Suite อยู่บริเวณตึกโอเชี่ยนวิง

ภายในห้องจะมีระเบียงเปิดกว้าง สามารถมองเห็นวิวทะเล สวน

และสระว่ายน้ำ ขนาดห้องโดยรวม 98-124 ตารางเมตร

มีห้องนอนขนาดใหญ่แยกส่วนกับห้องรับแขก ห้องน้ำ 2 ห้อง

ห้องครัวและรับประทานอาหาร หากพักที่ห้อง Deluxe Suite

จะได้รับการ Check in และ Check out แบบ Fast Track อีกด้วย

และยังมีเครื่องเล่น DVD ให้บริการสามารถขอได้ที่แผนกต้อนรับ

3.Ocean Deluxe ห้องวิวทะเลที่จะอยู่ที่ตึกหน้าเห็นทะเลชัดเจน

ขนาดห้องกว้าง 40 ตารางเมตร สามารถมองเห็นวิวแหลมบาลีฮาย

และบรรยกาศของไอทะเล มีการตกแต่งห้องที่ทันสมัย

มีเตียงทั้งแบบคิงส์ไซซ์หรือแบบทวินเบด มาพร้อมกับชุดรับแขก

ที่นั่งสบายพร้อมซึมซับความงามของอ่าวพัทยาอีกด้วย

4.Executive Deluxe ห้องที่จะเห็นวิวสวนสวย ๆ กับวิวทะเลเล็กน้อย
ขนาดห้อง 40 ตารางเมตรเช่นกันรายละเอียดจะเหมือนกับ

Ocean Deluxe เพียงแต่วิวนั้นจะเป็นสวนสวยภายในโรงแรมครับ

อันนี้เห็นว่าเหมือนกันกับ Ocean Deluxe เลยไม่ได้เก็บภาพมา

เพราะต่างกันที่วิวภายนอกเท่านั้นเองครับ 

 
5.Tropical Deluxe ห้องติดธรรมชาติ วิวสวนและสระว่ายน้ำ
ซึ่งชั้น 1 มีหน้าต่างบานใหญ่สามารถเดินทะลุระเบียง

ไปยังสระว่ายน้ำได้เลยครับ ซึ่งที่ระเบียงจะมีเก้าอี้และโต๊ะ

ให้นั่งพักผ่อนอีกด้วย พื้นที่ห้อง 40 ตารางเมตร เป็นมาตรฐานครับ

ซึ่งในส่วนของราคานั้น เริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไปครับ
จะแตกต่างกันขึ้นไปตามขนาด แบบและวิวของห้อง

พร้อมกันนี้ ผมยังมีโอกาสได้ชมห้องตัวอย่าง
ห้อง Green Room แบบ Tropical Deluxe
ที่ได้ทำการปรับอุปกรณ์ภายในห้องให้เป็นแบบ
ประหยัดพลังงานและรีไซเคิล เช่น เครื่องนอน บาร์ ฯ
เป็น 1 ในโปรเจ็คดี ๆ จากคุณมาริสา สุโกศล แคล์ป
นำร่องการอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อมที่ดีอีกทางนึง
*ยังไม่เปิดบริการ ติดตามทางเว็บไซต์โรงแรม
ได้ที่ http://www.siambayshore.com/*

พร้อมกับตรวจสอบราคาห้องพักและจองได้ด้วยเลยครับ

สำหรับโรงแรม SIAM BAYSHORE RESORT & SPA

ประทับใจมาก ๆ ตั้งแต่การบริการที่เอาใจใส่อย่างใกล้ชิด

ของพนักงานทุกส่วนตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบริหาร

ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลและสิ่งต่าง ๆ ภายในโรงแรม

ได้ทุกคน ห้องอาหารที่มีให้เลือกมากมายรวมถึงบาร์

สระว่ายน้ำใหญ่ ๆ 2 สระพร้อมบาร์ริมสระ

สามารถผ่อนคลายด้วยสปากันได้อีกด้วย

ห้องพักสะอาด ดูใหม่เสมอและเตียงนอนสบาย

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันรวมทั้ง

ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากมายและเดินทางสะดวกอีกด้วย

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่พักได้ที่
SIAM BAYSHORE RESORT & SPA.
559 Beach Road,
Pattaya, Thailand.
Tel : 038 428 678
http://www.siambayshorepattaya.com/
https://www.facebook.com/SiamBayshorePattaya

 
ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ผมได้มีโอกาสแวะ

ในวันที่เดินทางกลับ เห็นแต่ละที่มีนักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร

แต่ก็เป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเป็นส่วนใหญ่

โดยพัทยานอกจากจะถูกมองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ในด้านความบันเทิง รื่นเริงใจแล้ว
ทาง ททท.สำนักพัทยา ก็อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะ
สักการะสถาน "แอ่งแห่งศรัทธา พัทยา ชลบุรี"
วัดญาณฯ วิหารเซียน และเขาชีจรรย์
ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมะเหล่านี้

ที่ ททท.สำนักพัทยาแนะนำก็มีคุณค่าที่ควรค่าแก่การมาท่องเที่ยวครับ

สามารถดูข้อมูลตามลิงค์ต่าง ๆ เพิ่มเติมได้เลยครับ

Link สถานที่ท่องเที่ยว "แอ่งแห่งศรัทธา พัทยา ชลบุรี"

วัดญาณฯ

วิหารเซียน

เขาชีจรรย์

ขอให้มีความสุขกับวันพักผ่อนดี ๆ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้นะครับ