พื้นที่โฆษณาส่วนหัว

พื้นที่โฆษณาส่วนหัว
ติดต่อโฆษณา โทร.086 6688 327

วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

Sparkling Sunday Brunch @ Latest Recipe, Le Méridien Suvarnabhumi


รีวิวนี้ ผมจะพาไปพบกับบุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์ที่ดีที่สุด
ในย่านบางนา-สมุทรปราการกันครับ กับ
"Sparkling Sunday Brunch"ห้องอาหาร Latest Recipe,
ที่เป็นห้องอาหารนานาชาติ ที่อยู่ภายในโรงแรมสวยสไตล์รีสอร์ท
ภายในสนามกอลฟ์ซัมมิทวินมิลด์ บางนา-ตราด กม.10.5
ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงใจกลางเมืองกรุงเทพฯ
ขับรถเพียงไม่กี่นาทีก็มาถึงได้ครับ








การเดินทางมารีวิวครั้งนี้ ผมเลือกขับรถส่วนตัวมา
เพราะว่าการเดินทางอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับรถสาธารณะ
ที่ไม่ใช่แท็กซี่ครับ แต่ไม่เป็นอุปสรรคถ้าอยากกินของอร่อยนะครับ
ถ้าหากมาแนะนำว่าขับรถมาแล้วจะรู้สึกคุ้มค่ามาก
เหมือนกับที่ผมรู้สึก เพราะตั้งแต่เข้ามาภายในบริเวณโรงแรม
จะรู้สึกได้ถึงอารมณ์มาพักผ่อนยังต่างจังหวัดที่ไม่ใช่ กรุงเทพฯ
หรือสมุทรปราการแต่อย่างใดครับ








เนื่องจาก ห้องอาหาร Latest Recipe,
อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเองมากนัก เลยมาถึงก่อนเวลาพอสมควร
ผมเลยเลือกที่จะเดินชมความงามและบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท
ที่มีดีไซน์และความมีเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่าง ๆ ตั้งแต่ล็อบบี้
ทางเดิน ที่นั่งพักผ่อน ละติจูด 13 ํ39' บาร์ ที่จัดวางอย่างสวยงามครับ
ซึ่งจริง ๆ แล้วไปห้องอาหารนั้น ไม่จำเป็นต้องเดินผ่านล็อบบี้
และตัวโรงแรมเลยครับ เพราะห้องอาหารอยู่ทางซ้ายมือของโรงแรม
ถ้าเราหันหน้าเข้าโรงแรมครับ







เมื่อเดินถึงห้องอาหาร ก็เกือบจะหิวพอดี
แต่ก็ยังพอมีเวลาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศห้องอาหาร
ห้องอาหาร Latest Recipe เป็นห้องอาหารลักษณะ
all-day-dining ประจำเครือโรงแรม Le Méridien
อาหารจะออกไปในสไตล์ผสมผสานระหว่างตะวันออก
และตะวันตก แบบ open kitchen ให้เห็นการปรุง
จากเชฟครัวร้อนได้อย่างสนุกสนานและเป็นระบบ
ขนาดห้องอาหารไม่ใหญ่มากรองรับลูกค้าได้ประมาณ
100 กว่าที่นั่ง (ด้านใน 90 ด้านนอก 40 กว่า ๆ ครับ) ให้บริการ
มื้อเช้า เวลา 06:00 – 10:30 บฟุเฟต์และอาหารจานเดียว
มื้อกลางวันและเย็น เวลา 10:30 – 23:00 เป็นแนวอาหารจานเดียว
มื้อเย็น เวลา 18:00 – 22:30 เป็นบฟุเฟ่ต์ (พฤหสับดี, ศกุร์ และเสาร์)
และบรั๊นช์ (อาทิตย์) ที่ผมมากินและทำรีวิวนั้น บริการเวลา 12:00 – 15:00




สำหรับอาหารนั้น เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ห้องอาหาร
จะเจอกับกองทัพซีฟู๊ดออนไอซ์ บนถาดน้ำแข็งขนาดใหญ่
*ระวังลื่น* มีทั้งกุ้ง หอย ปู หลากหลายชนิดให้ได้เลือกกันจุใจ









ไลน์ Cold Cut และอาหารแนว Tapas/Canapes รวมถึงชีส
และสลัดบาร์ ก็เต็มที่ละลานตา น่ากินทั้งนั้นครับ
















และในมุมไลน์อาหารนานาชาติและไลน์ปรุงร้อน A la carte
มีทั้งอาหารไทย ไมว่าจะเป็นส้มตำ น้ำพริกและผักเคียง
อาหารญี่ปุ่น ซูชิ ซาซิมิ ปลาใช้คุณภาพดีมากมาลงในไลน์
ทั้งแซลมอนและฮามิจิรวมถึงมากุโร่ ล้วนแล้วแต่ชิลด์มา
ไม่ใช้ปลาแช่แข็งแต่อย่างใด ได้รสชาติปลาที่ดีเต็ม ๆ คำ
อาหารปรุงสุกสไตล์ตะวันออกและตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น
ขาแกะอบ ซี่โครงหมู BBQ พิซซ่า พาสต้า ซุป รวมไปถึง
หอยเชลล์ตัวใหญ่ ๆ และฟัวกราส์ชิ้นหนาสวยงาม
ล้วนแล้วแต่ได้รับการควบคุมผ่านฝีมือของ
ชฟปริทัศน์ ผาลี เอ็กเซคคูทีฟ เชฟ ผู้ดูแลทิศทาง
ของทุกห้องอาหารใน Le Méridien Suvarnabhumi แห่งนี้
ด้วยฝีมือที่เคยร่วมงานกับเชฟระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว
มามากกว่า 4 คน รวมถึงประสบการณ์การทำงานมาหลายประเทศ
ทำให้เชฟปริทัศน์ ได้ค้นพบสไตล์อาหารของตัวเอง
ที่อร่อยและน่าสนใจมากอีกด้วยครับ



ส่วนในไลน์ของหวานนั้น ดูแล้วแม้นเหมือนจะดูน้อย
แต่ไม่ได้ด้อยในคุณภาพและรสชาติเลยครับ เพราะได้ฝีมือของ
เชฟเอ๋ อนุพงษ์ นวลฉวี พ่อครัวรุ่นใหม่สุดหล่อ
เพสตรี้เชฟ หล่อระดับหนุ่ม CLEO (เสียดายไม่ได้ภาพมาฝาก)
ที่มีดีกรีเหรียญเงินจากการแข่งขัน
Dilmah Real High Tea Challenge
ในประเทศไทยที่มีโรงแรมระดับ 5 ดาวเข้าร่วมมากมาย
เชฟอนุพงษ์ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์
มาจากหลากหลายโรงแรมทั้งในไทย
และสหรัฐอเมริกา จึงการันตีได้ว่า
ของหวานที่นี่อร่อยจริง ๆ แน่นอน




สำหรับเครื่องดื่มมื้อบรั้นช์ วันอาทิตย์จะมีน้ำผลไม้/สมุนไพร
ไว้ให้บริการรวมอยู่แล้วรวมถึงน้ำดื่มเย็น ๆ ครับ
แต่ถ้าหากชื่นชอบแอลกอฮอล์ก็สามารถจัด Free Flow เพิ่มได้
ซึ่งจะมีทั้ง Sparkling Wine, ไวน์ขาว, ไวน์แดง และเบียร์สด
ให้ได้เลือกดื่มคู่กับอาหารอร่อยเลิศได้ตลอดมื้อครับ


ผมเริ่มจากการลองอาหารฝีมือเชฟปริทัศน์ก่อนเลย
ไม่ได้เริ่มการกินอย่างปกติเหมือนเคยครับ วันนี้มาเลือก
แบบที่อยากกิน ตามใจฉันมากครับ เพราะปกติจะเริ่มจาก
อาหารเรียกน้ำย่อย แต่ไม่ครับ หอยเชลล์ Scallop มันเตะตามาก
เลยจัดไปก่อนเลยครับ โดยเราจะมีตัวไม้หนีบเบอร์โต๊ะของเรา
นำไปหนีบไว้ที่จานอาหารตัวอย่าง แล้วเชฟก็จะทำการปรุงอาหาร
ให้เราใหม่ ๆ สด ๆ แล้วนำไปเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะครับ


ระหว่างรอก็จิบ Prosecco ฟองฟู่เย็นชื่นใจรอในวันอากาศร้อน ๆ
ให้ชื่นใจก่อนเริ่มมื้ออาหารอย่างเป็นทางการครับ





จานแรกนี้ Japanese seared Scallops with Peach
compose hoisin truffle and orange chardonnay sauce.
เป็นหอยเชลล์ฮอกไกโด ขนาดใหญ่ นาบผิวบนกระทะร้อน
ทั้ง 2 ด้าน แล้วราดด้วยซอสฟิวชั่นในสไตล์ของเชฟปริทัศน์
ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอยและไวน์ซอสส้ม เป็นจานที่ลงตัว
และยิ่งดื่มกับไวน์ขาว ก็ยิ่งเข้ากัน อยากจะสั่งรัว ๆ สักอีก 10 ตัว
แต่ต้องอดใจไว้ก่อนเพราะยังมีอย่างอื่น ๆ รออยู่อีกครับ






จานถัดมากับ Seared Foiegras with mixed Berry Sauce.
เป็นตับห่านเกรดพรีเมียมชิ้นใหญ่ ชิ้นหนา นำมานาบกระทะร้อน ๆ
ให้ได้ระดับความสุกที่พอดีเป๊ะ แล้วราดด้วยซอสเบอร์รี่รสเปรี้ยว ๆ
หวาน ๆ กลมกล่อมลงตัว แล้วกลั้วด้วยไวน์แดงตามลงไปอีกที
จานนี้มีเบิ้ลแน่นอน ของโปรด!!!




หันมากินของเบา ๆ ระหว่างรอจาน A la carte ที่สั่งไปเพิ่มครับ
กุ้งค็อกเทล แฮมดิบแบบต่าง ๆ รวมถึงชีสและอาหารแนว
Canapes/Tapas นั้น ทำได้รสชาติออกมาดีเลยครับ ทุกตัวที่ได้ชิม
ไม่มีตัวไหนไม่อร่อยเลย







อาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะซาซิมิ(ปลาดิบ)
เป็นอีก 1 สิ่งดีงามเพราะปลาทุกอย่างไม่แช่แข็ง
ทำให้รสชาติไม่เสีย อร่อยสุด ๆ กับปลาสด ๆ
ทั้งฮามาจิ แซลมอน ทูน่า ครับ แค่แตะโชยุวาซาบิเบา ๆ
ก็ทำเอาน้ำลายไหลแล้วครับ









ต่อกันกับ Seafood on Ice ครับ จัดมาเต็มจาน
ทั้งปูอลาสก้า ปูม้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
หอยแมลงภู่ดำ หอยนางรมกับน้ำพริกเผาและซีฟู๊ด
หอยนางรมกับน้ำส้มบัลซามิคหอมแดงและเลมอน
กุ้งลายเสือ ทุกอย่างอร่อยไปหมดเลยครับ
คุณภาพของ Seafood ผ่านฉลุยครับ




ต่อกันที่ Lobster ที่เป็น complimentary คนละ 1/2 ตัว
เป็นการนำไปย่างที่สเตชั่นด้านนอกของห้องอาหาร
ริมสระว่ายน้ำครับ ล็อบสเตอร์แค่นำไปย่างหอม ๆ
สุกแล้วให้สีแดงสด แกะออกจากเปลือกแล้วจิ้มซีฟู๊ดเล็กน้อย
อร่อยต้องรีบบอกเลยครับ


คั่นด้วยซุปสักนิด เป็นซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอม ๆ มัน ๆ ครีมมี่
อร่อยดีครับ แต่ที่ไม่ดีตรงที่ใส่ภาชนะมาขนาดใหญ่
และใส่มาเต็มจนเกินพอดีที่จะเป็นแค่ซุปเพื่อซดให้วอร์มลิ้น
และเรียกน้ำย่อย




ขาแกะอบและซี่โครงหมูย่าง BBQ ที่มาทีหลังนั้น
ก็เป็นอะไรที่อร่อยเช่นเดียวกับอาหารจานอื่นครับ
ฝีมือปรุงซอสของเชฟปริทัศน์ ก็ไม่ธรรมดาทั้งซอสหมัก
ซอสราด ซอสจิ้ม ดีเลยล่ะครับ







ปิดท้ายของคาวด้วยเนื้อสันนอกย่างและซี่โครงแกะย่าง
ที่ทางห้องอาหาารจัดการปรุงและย่างออกมาได้อย่างดี
ประทับใจอีกแล้วครับผม สั่งมีเดียมแรร์ก็ได้อย่างที่สั่ง
เนื้อสันนอกและเนื้อแกะนุ่ม ๆ หอมถ่านและเตาที่ย่างมา
จิ้มน้ำจิ้มได้สาระพัดตั้งแต่ซอสมะเขือเทศยันแจ่วแบบไทย ๆ





ของหวานก็เชื่อฝีมือได้เลยครับ ตามที่ได้แนะนำไว้
อร่อยได้อีกทั้งขนมไทยและเทศครับ ไม่ผิดหวัง
กับฝีมือของเชฟอนุพงษ์เลย ฟินได้อีกกับของหวาน


จบด้วยกาแฟ Double Shots Espresso เช่นเคยครับ
เสียดายที่ยังไม่ได้ชิมอาหารอีกหลาย ๆ รายการ
เพราะว่าอิ่มแล้วจริง ๆ ครับ ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีก
จะกลับไปลองอาหารที่ยังไม่ได้ลองแล้วมารายงานให้ทราบกันครับ












ก่อนกลับ มีโอกาสได้เดินย่อย และก็ทราบว่า
หากมีลูก ๆ มาด้วย แล้วเรามากินอาหารที่ห้องอาหาร
สามารถพาลูกลงมาเล่นที่ Family Kids Club
ของโรงแรมได้ครับ เป็นมุมที่ Le Méridien ทั่วโลก
มีไว้บริการกันครับ


สำหรับผมแล้ว จัดได้ว่าอาหารที่นี่ ทั้งรสชาติ
และคุณภาพของวัตถุดิบและฝีมือของเชฟ
แล้วรวมกับบรรยากาศที่แสนจะสวยงาม
ทำให้ห้องอาหาร Latest Recipe,
แห่งนี้นั้น นั่งอยู่เป็นร้านเด็ดในใจผมอีกร้านไปแล้วครับ


ห้องอาหาร Latest Recipe
Sparkling Sunday Brunch 12:00-15:00 น.
ราคา 1,800++ บาท รวม Soft drink, น้ำเปลา, ชา,กาแฟ
ราคา 2,300++ บาท Free flow Sparkling Wine,
Red&White Wine และ Draft Beer

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สำรองโต๊ะได้ที่
โทร : 02 118 7711
http://www.latestrecipebkk.com/sparkling-sunday-brunch
https://www.facebook.com/lemeridienbangkokairport

ขอให้อิ่มอร่อยกับมื้อสายวันอาทิตย์แบบจัดเต็มกันนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น